ตร.แจ้ง8ข้อหาหนุ่มเบนซ์ชน2ศพมั่นใจมีหลักฐาน

ตร.แจ้ง8ข้อหาหนุ่มเบนซ์ชน2ศพมั่นใจมีหลักฐาน

ตร.แจ้ง8ข้อหาหนุ่มเบนซ์ชน2ศพมั่นใจมีหลักฐาน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

'พล.ต.อ.พงศพัศ' ย้ำ มั่นใจพนักงานสอบสวนทำคดีเบนซ์ชนฟอร์ด รอบคอบ ยันแจ้ง 8 ข้อหา มีหลักฐานรองรับ พอใจระยะเวลาดำเนินการ ขณะที่ ญาติ พอใจ พงส. ทำคดี เชื่อเป็นธรรม

พลตำรวจเอก พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังส่งมอบสำนวนคดีรถเบนซ์ชนรถฟอร์ด ให้กับอัยการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่า มั่นใจการดำเนินงานที่ผ่านมาเชื่อว่ามีความครบถ้วน โดยเฉพาะการแจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 8 ข้อหา เนื่องจากมีพยานรองรับและหลักฐานเพียงพอ นอกจากนี้ ยังพอใจกับระยะเวลาการของพนักงานสอบสวน ส่วนญาติผู้เสียเสียชีวิต ได้พูดคุยในเบื้องต้นแล้ว ซึ่งญาติพอใจกับการทำงานของพนักงานสอบสวน พร้อมกับเน้นย้ำถึงการทำงานว่ามีความรอบคอบ โปร่งใส ตามจรรยาบรรณ โดยหลังจากนี้ก็จะเป็นหน้าที่ของอัยการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพื่อพิจารณาเข้าสู่กระบวนการกฎหมายต่อไป


ญาติ  พอใจ พงส. ทำคดี เชื่อเป็นธรรม

นางสาวนงค์รัตน์ รุ่งแสง น้องสาว นายกฤษณะ ถาวร ผู้เสียชีวิตเหตุรถเบนซ์ชนท้ายรถยนต์ฟอร์ดจนไฟลุกท่วม เปิดเผยภายหลังที่พนักงานสอบสวนส่งสำนวนคดีให้อัยการเพื่อพิจารณาสั่งฟ้อง ว่า ขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ทำงานอย่างเต็มที่ ซึ่งทางญาติเองได้ทำงานร่วมกันมาตลอดทำให้เห็นถึงความตั้งใจ ทั้งการสอบพยานบุคคลถึง 52 ปาก และหลักฐานวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งพอในการแจ้งข้อหา 8 ข้อหา เชื่อว่ามีความครบถ้วน ส่วน กระบวนการในอัยการการต่อจากนี้มีความกังวลใจเล็กน้อย แต่เชื่อว่ากระบวนการยุติธรรมของไทยซื้อไม่ได้ ประกอบกับได้สังคมสนใจ และให้กำลังใจมาโดยตลอด เชื่อว่าจะเป็นแรงกดดันให้คณะทำงาน ปฏิบัติงานภายใต้ความถูกต้อง และเป็นธรรม

สำหรับข้อหาฆ่าผู้อื่น ที่ญาติเคยขอให้พนักงานสอบสวนแจ้งเพิ่มนั้น จากนี้จะต้องกลับไปพูดคุยกับทนายอีกครั้งว่าจะยื่นฟ้องเพิ่มเติมหรือไม่ เนื่องจากหวั่นว่าหากยื่นฟ้องเพิ่มจะทำให้กระบวนการพิจารณาช้าลงได้


รองผบก.จว.อยุธยายันทำคดีเบนซ์2ศพยึดกม.

พล.ต.อ.สุรินร์ ทับพันบุบผา รอง ผบก.จว.พระนครศรีอยุธยา ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนรถเบนซ์ชนท้ายรถยนต์ฟอร์ด เป็นเหตุสองนักศึกษาปริญญาโท ถูกไฟคลอกเสียชีวิต ซึ่งมี นายเจนภพ วีรพร อายุ 37 ปี เป็นผู้ต้องหา เปิดเผยว่า หลังได้รับให้ดำเนินการสอบสวนคดีดังกล่าว ในวันที่ 18 มีนาคม 2559 พนักงานได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา 8 ข้อหา สอบปากพยานบุคคล ก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุรวม 52 ปาก พร้อมกับนำหลักนิติวิทยาศาสตร์มาประกอบกับการทำงาน โดยยึดหลักกฎหมายอย่างเคร่งครัด รวดเร็ว และเป็นธรรม ไม่เข้าข้างฝ่ายใด ส่งสำนวนที่ส่งอัยการในวันนี้ มีมากถึง 686 แผ่น

สำหรับข้อหาทั้ง 8 ข้อหา ได้แก่ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินอื่นเสียหายและผู้อื่นถึงแก่ความตาย ขับรถในขณะหย่อนความสามารถในอันที่จะขับ ขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของบุคคลอื่น ขับรถด้วยอัตราความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดเป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ หรือ 10 วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตระบบประสาทตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทและเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เป็นผู้ขับขี่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานสอบสวนให้มีการตรวจสอบผู้ขับขี่ตามมาตรา 43 ทวิพนักงานสอบสวนสั่งให้มีการทดสอบผู้ขับขี่ว่าหย่อนความสามารถในอันที่จะขับหรือเมาสุราหรือของเมา
อย่างอื่นฝ่าฝืนคำสั่งพนักงานสอบสวนไม่ยอมให้ทดสอบ ทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามอำนาจที่กฎหมายให้ไว้ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นโดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควร


อัยการตั้งคณะทำงานเร่งสอบสำนวนเบนซ์2ศพ

นายยงยุทธ เกียติศักดิ์โสภณ อธิบดีอัยการภาค 1 เปิดเผยภายหลังรับสำนวนคดีรถเบนซ์ชนท้ายรถยนต์ฟอร์ด จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ว่า คดีดังกล่าวถือว่าเป็นคดีอาญาสำคัญ ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้พนักงานอัยการ จะตั้งคณะทำงานตรวจสอบการดำเนินการเพื่อความละเอียดรอบคอบ โดยอธิบดีอัยการสูงสุดได้กำชับให้ควบคุมดูแลคดีนี้อย่างใกล้ชิด โปร่งใส ตรวจสอบได้ และให้ความเป็นธรรมคู่กรณีทุกฝ่าย นอกจากนี้ เมื่อคณะอัยการจังหวัดพระนครศรีอยุธยารายงานผลการดำเนินงานมาแล้ว ทางอัยการภาค 1จะตั้งคณะทำงานอีก 1 ชุด ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญด้านคดีอาญาเป็นคณะกรรมการ พร้อมขอประชาชนไว้วางใจกระบวนการของอัยการ ว่าเป็นตามหลักกฎหมาย และข้อเท็จจริงอย่างแน่นอน


ส่วน นายกฤษดา โรจนสุวรรณ อธิบดีอัยการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า หลังจากนี้พนักงานอัยการจะตรวจสำนวนอย่างละเอียดทุกด้านและรวดเร็ว พร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

ด้าน นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ระบุว่า คดีนี้ถือเป็นคดีสำคัญ โดยชั้นพนักงานอัยการจะเน้นความรวดเร็ว โปร่งใส ตรวจสอบได้ โดยเฉพาะคดีเป็นที่น่าสนใจกับประชาชน พร้อมยืนยันว่าอัยการเหลือเวลาพิจารณา 1 เดือน ซึ่งพิจารณาให้แล้วเสร็จ และส่งฟ้องทัน ตามกฎหมายกำหนดแน่นอน


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook