แม่แทบขาดใจ! โรงเรียนสะเพร่า ปล่อยลูกไปกับคนแปลกหน้า

แม่แทบขาดใจ! โรงเรียนสะเพร่า ปล่อยลูกไปกับคนแปลกหน้า

แม่แทบขาดใจ! โรงเรียนสะเพร่า ปล่อยลูกไปกับคนแปลกหน้า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(21 พ.ค.) เฟซบุ๊ก นิตยา หงส์แสง ซึ่งเป็นคุณแม่ของ "น้องน้ำชา" เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 1 ได้แชร์ประสบการณ์ที่ทำเอาหัวใจคนเป็นแม่แทบสลาย แม้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่อยากบอกเล่าเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับครูและผู้ปกครองท่านอื่นๆ

เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2559 ที่ผ่านมา เจ้าของเฟซบุ๊กไปรับส่งลูกที่โรงเรียนตามปกติ ในวันเกิดเหตุรถติดจึงไปรับลูกช้า โดยโรงเรียนจะปล่อยให้ผู้ปกครองรับนักเรียนได้ในเวลา 14.35 น. แต่คุณแม่ไปถึง 14.50 น.

คุณแม่ให้คุณยายลงรถไปรับหลาน โดยใช้บัตรรับนักเรียนที่ผู้ปกครองทุกคนต้องมี จากนั้นประมาณ 5 นาที ยายโทรมาบอกว่า "น้ำชามีคนรับไปแล้ว มาด่วนเลย" แม่ถามครูที่มีหน้าที่ส่งเด็ก บอกมีผู้ชายแก่มารับไป แต่ปกติแม่เป็นคนส่ง-รับคนเดียวทุกวัน ไม่เคยให้ใครมารับแทน มีบุคลากรของโรงเรียน 6-7 คน ทำหน้ามึนงง ไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าใครรับเด็กไป

เมื่อคุณแม่ถามว่าทำไมคุณครูไม่ตรวจสอบ ครูบอกว่าถามน้องแล้วว่าคนนี้ใช่หรือไม่ เด็กบอกว่าใช่ แต่ครูไม่ได้ดูป้ายว่าใช่จริงหรือไม่ เมื่อขอดูกล้องวงจรปิดครูก็บอกให้แม่ใจเย็นๆ ขอให้รอหัวหน้า จนหัวหน้ามาถึงได้ดู พบว่าคนที่รับน้องน้ำชาไป เป็นชายแก่รูปร่างท้วม อายุประมาณ 65-70 ปี เดินขากะเผลกช้าๆ

เวลา 17.30 น. เสียงวอในห้องดังขึ้นว่าเจอน้องแล้ว หลังจากสอบถามคุณตาที่รับไป บอกว่า หลานตาชื่อพัดชา แล้วตัดผมทรงเดียวกันกับน้ำชา พอครูมาส่งก็ไม่ได้มองหน้าหลาน จับมือเดินออกไปเลย แล้วไปรับพี่สาวของน้องอีกโรงเรียนหนึ่ง พี่สาวเดินขึ้นรถมาบอกตาว่า "นี่ไม่ใช่น้องหนู" คุณตาจึงรีบมาส่งที่เดิม

จากกรณีนี้ ผู้อำนวยการโรงเรียนได้กล่าวขอโทษและขอยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว และจะปรับการรับนักเรียนให้เข้มงวดขึ้น แต่ทางโรงเรียนไม่ได้แจ้งว่าจะรับผิดชอบยังไงกับเหตุการณ์ครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม หลังเรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์ออกไปในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตจำนวนมากต่างเข้ามาแสดงความยินดี ที่เรื่องจบลงด้วยดี พร้อมตำหนิความไม่รอบคอบของครูและโรงเรียน พร้อมบอกว่าหากคุณตาคนที่มารับเด็กไป ไม่ใช่แค่มารับผิด แต่เป็นมิจฉาชีพ อาจเกิดเรื่องน่าเศร้าขึ้นกับครอบครัวนี้ก็เป็นได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook