เพื่อไทย ประกาศนโยบาย นิรโทษ ทุกคดีอาญาหลังปฏิวัติ 49
สัมมนาเพื่อไทยวันที่สองคึกคัก ชูแคมเปญนิรโทษกรรม แม้ว สมาชิกตระกูล ชินวัตร งานนี้ร่วมออกแถลงการณ์ เขาใหญ่ 9ข้อ อ้างแม้ว อนุมัติเนื้อหาเป้าหมายช่วยชาวบ้าน ยึดเสียงรากหญ้า วางแผนหารือทุกสัปดาห์กำหนดตั้งเป้าสู้ศึกโจมตีรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันที่สองของการสัมมนาพรรคเพื่อไทย วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่โรงแรมกรีนเนอรี่ รีสอร์ท เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา มีวาระสำคัญในการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่องนโยบายและยุทธศาสตร์ของพรรค โดยมีแกนนำพรรคและอดีตรัฐมนตรีสลับทำหน้าที่วิทยากรและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับส.ส.ตามความถนัดด้านต่างๆ อาทิ ด้านเศรษฐกิจ มีนายปานปรีย์ พหิทธานุกร นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตรมว.พาณิชย์ นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตรมว.คลังและนายวราเทพ รัตนากร อดีต รมช.คลัง ขณะที่ด้านการเมืองมี นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตรมว.ต่างประเทศ นายชูศักดิ์ ศิรินิล อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เป็นต้น นอกจากนี้นางเยาวเรศ ชินวัตร น้องสาวพ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมบุตรสาวได้เดินทางมาร่วมสมทบกับคนในครอบครัวชินวัตร เพื่อร่วมสัมมนาทำความรู้จักกับส.ส.พรรคเพื่อไทยด้วย
พท.ชูแคมเปญเลือกตั้ง นิรโทษ คดีอาญาในเหตุปฎิวัติ49
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วนและประธาน ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคเพื่อไทยจะเปิดแคมเปญคิกออฟรอบหลัง โดยการชูนโยบายว่า หลังเหตุการณ์เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ไม่ว่าจะเป็นคดีอาญา ที่เกิดขึ้นกับคนทุกกลุ่ม หมายรวมไปถึงกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยด้วยนั้น ใครมีโทษจะได้รับการนิรโทษ ส่วนคดีใครที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา จะได้รับการนิรโทษกรรม หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล จะดำเนินการอย่างแน่นอน แม้ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไม่เห็นด้วย แต่จะไม่มีปัญหา หากประชาชนเลือกผู้สมัครส.ส.ของพรรคเพื่อไทยด้วยเสียงข้างมากเพื่อเป็นพรรครัฐบาลพรรคเดียว ทุกอย่างก็จะจบ
"ไม่ว่าคดีอะไรก็ตามที่มีมูลเหตุจากเหตุการณ์รัฐประหาร เช่น คดีหมิ่นประมาท การเข้ายึดสถานที่ราชการ ก็จะได้รับการนิรโทษกรรม เพราะหากไม่ดำเนินการเช่นนี้ไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาลก็จะลำบาก รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ก็จะเจอเสื้อแดง ขณะที่ถ้าเป็นรัฐบาลพรรคเพื่อไทยก็จะเจอคนเสื้อเหลือง ดังนั้นหากประชาชนเห็นด้วยในประเด็นนี้ก็ต้องเลือกพรรคเพื่อไทยให้ไดเป็นรัฐบาล" ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
ส่วนกรณีพ.ต.ท.ทักษิณระบุหากมีการพูดคุยกันดีๆ ก็พร้อมเจรจานั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ใช่ ต้องมีการพูดคุยกัน เมื่อถามว่าอีกนานหรือไม่ที่พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางกลับประเทศ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า สำคัญอยู่ที่ตัวประชาชน ซึ่งประเด็นนี้ตนจะหารือในพรรคอีกครั้งหนึ่งเพราะเห็นว่าจะต้องจบกันเสียทีไม่ว่าเสื้อเหลืองเสื้อแดง
พท.ออกแถลงการณ์ เขาใหญ่ หนทางสู้ แม้ว สั่งยึดรากหญ้า
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงปิดการสัมมนาพรรคเพื่อไทย ที่โรงแรมกรีนเนอรีย์ รีสอร์ท เขาใหญ่ เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 3 กุมภาพันธ์ พร้อมด้วย ส.ส.พรรคเพื่อไทย ว่า พรรคเพื่อไทย ได้รวบรวมเนื้อหาการสัมมนาและจะจัดพิมพ์เป็นรูปเล่มเพื่อแจกจ่ายให้กับสมาชิกพรรคเพื่อไทยทุกคนนำไปใช้ในการเคลื่อนไหวต่อสู้ในฐานนะฝ่ายค้าน พร้อมกันนี้พรรคเพื่อไทยได้ออกแถลงการณ์ "เขาใหญ่" เป็นการแสดงจุดยืนของพรรคเพื่อไทย โดยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ตรวจสอบเนื้อหาและแก้ไขมาให้ในส่วนของนโยบายที่เกี่ยวเนื่องกับประชาชนในต่างจังหวัดด้วย
สำหรับแถลงการณ์เขาใหญ่ประกอบด้วย 9 ข้อ คือ
1.พรรคเพื่อไทยเทอดทูนและธำรงไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย
2.พรรคเพื่อไทยจะปกป้องระบอบประชาธิปไตยอัยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
3.พรรคเพื่อไทยจะทำหน้าที่สถาบันทางการเมืองที่เข้มแข็ง เพื่อต่อสู้ให้ได้มาและรักษาไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง ที่เคารพการตัดสินใจของประชาชน
4.พรรคเพื่อไทยจะยึดมั่นในนิติรัฐ หลักนิติธรรม ความเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมายและการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด
5.พรรคเพื่อไทยจะต่อสู้เพื่อให้คนไทยทุกคนให้เข้าถึงและได้รับความยุติธรรมอย่างเสมอหน้ากัน
6.พรรคเพื่อไทยจะดำเนินนโยบายเศรษฐกิจเสรีที่เป็นธรรม และน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นหลักชัย ทั้งนี้โดยตระหนักว่าประชาชนชาวชนบทหรือคนรากหญ้าสมควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เพราะกลุ่มบุคคลดังกล่าวยังขาดความเข้มแข็งทางด้านทุน ข่าวสาร การศึกษาและเทคโนโลยี
7.พรรคเพื่อไทยจะยึดมั่นเอาความสุขของประชาชนเป็นเป้าหมายสูงสุด โดยมุ่งขจัดความยากจน โดยใช้หลักการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขายโอกาสให้กับประชาชนเป็นธงนำในการทำงาน
8.พรรคเพื่อไทยจะทำให้ทุกคนมีศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ และทำให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก
9.พรรคเพื่อไทย จะใช้ระบบเศรษฐกิจ 2 แนวทางขับเคลื่อนไปพร้อมๆกันคือการส่งเสริมแลเร่งรัดการส่งออกที่แข่งขันได้ ดึงดูดการลงทุนและส่งเสริมการท่องเที่ยวควบคู่กันไปกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจรากหญ้าหรือเศรษฐกิจชนบทให้เข้มแข็ง เพื่อเป็นฐานอันมั่นคงของระบบเศรษฐกิจในองค์รวม
เพื่อไทยนัดประชุมทุกสัปดาห์กำหนดประเด็นถล่มรัฐบาล
นายปราณปรีย์ พหิทธานุกร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงสรุปผลการสัมมนาพรรคเพื่อไทยว่าข้อมูลจากการสัมมนา ฝ่ายวิชาการและนโยบายของพรรคจะนำข้อเสนอที่ได้ไปประมวลและจัดทำเพื่อพัฒนาเป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้งโดยมีการเร่งรัดตรวจสอบการดำเนินงานของรัฐบาล 2 ส่วนคือ 1.การแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจ เช่นมาตรการเศรษฐกิจ การสร้างรายได้ของรัฐบาล (นโยบายส่งออก ท่องเที่ยว) ความเหมาะสมในการกู้ยืมเงินของรัฐบาล ราคาน้ำมันและภาษีน้ำมัน และ 2.ประเด็นการเมือง เช่นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 การตรวจสอบการดำเนินงานของรัฐบาลโดยแบ่งออกเป็นกลุ่มกระทรวง โดยพรรคเพื่อไทยจะทำการประชุมกลุ่มย่อยในแต่ละด้านทุกสัปดาห์ เพื่อร่วมกันจัดทำแผนการดำเนินการในเชิงยุทธศาสตร์ของพรรค
สัมมนาพท.อัดรบ.ดิ้นก่อหนี้ไม่บอกวิธีคืนลอกข้อสอบผิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันที่สองของการสัมมนาพรรคเพื่อไทย วันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่โรงแรมกรีนเนอรี่ รีสอร์ท เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา มีวาระสำคัญในการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่องนโยบายและยุทธศาสตร์ของพรรค โดยมีแกนนำพรรคและอดีตรัฐมนตรีสลับทำหน้าที่วิทยากรและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับส.ส.ตามความถนัดด้านต่างๆ
ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยได้สรุปประเด็นสัมมนาออกเป็น ประเด็นปัญหาทางการเมือง แผนบันได 4 ขั้นของคมช.ได้บรรลุแล้วหลังจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเข้าบุกทำลายกลไกอำนาจหลายสาขาล้มล้างพรรคพลังประชาชน เป้าหมาย คือ ความมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงระบบประชาธิปไตยซี่งให้อำนาจประชาชนในการเลือกรัฐบาล โดยแลกด้วยต้นต้นทุนที่สูงมาก เพราะได้ใช้กลไกทางรัฐธรรมนูญ กระบวนการยุติธรรม ความเป็นนิติรัฐและลังอำนาจของกองทัพ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความมั่นของประเทศไทยไปอีกช้านาน ซึ่งการแก้ไขที่ดีที่สุดคือการดำเนินการให้มีพรรคการเมืองที่เข้มแข็งโดยระบบรัฐสภาเท่านั้น พรรคการเมืองจะต้องช่วยกันแก้ปัญหาประชาธิปไตยของประเทศ เพราะหากรอจนกระทั่งประชาชนเดือดร้อนแล้ว ประชาชนจะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลง ซึ่งเกรงว่าประเทศจะเกิดกลียุค
ขณะที่ด้านเศรษฐกิจผลสรุปของการสัมมนาพรรคเพื่อไทยมีว่ารัฐบาลแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ถูกจุด โดยใช้นโยบายประชานิยมซึ่งเหมาะสมกับสถานการณ์ปกติ ไม่ใช่เศรษฐกิจขาลงอย่างปัจจุบันซึ่งรัฐบาลเอาเงินใส่เข้าไปโดยยังไม่รู้จะทำอะไร รัฐบาลหาเงินไม่เป็น คิดได้เฉพาะการเพิ่มภาษีน้ำมัน ดิ้นรนก่อหนี้แต่ไม่ได้บอกว่าจะหาเงินมาคืนอย่างไร ซึ่งดูเหมือนว่ารัฐบาลปัจจุบันจะบริหารประเทศซึ่งเป็นโรงแรม 5 ดาวในรูปแบบโรงแรม 3 ดาวมีแต่จะทำให้ประเทศเสียหาย และรัฐบาลปัจจุบันลอกข้อสอบผิดวิชา ลอกคำตอบคนละข้อกับโจทย์เพราะความไม่รอบรู้
