ชีวิตสองบทบาท "ยุ้ย ปัทมวรรณ" แม่ที่ดีของลูกและลูกที่ดีของแม่

ชีวิตสองบทบาท "ยุ้ย ปัทมวรรณ" แม่ที่ดีของลูกและลูกที่ดีของแม่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook


"ยุ้ยเห็นเคยได้ยินคนพูดคำว่าเป็นแม่คนแล้วจะเข้าใจ ตอนยังไม่มีลูกก็ยังเฉยๆ กับคำนี้ แต่พอเราท้องมันเข้ามาในหัวใจเลยที่ผ่านมาที่แม่ห่วงเรา ห่วงขนาดถ้าลูกจะกินอะไรก็เตรียมให้ โดยไม่สนใจตัวเองเลย ห่วงยิ่งกว่าห่วงตัวเองอันนี้มันใช่เลยความรักของคนเป็นแม่"

"ยุ้ย ปัทมวรรณ" บอกถึงความหมายของคำว่า "แม่" ผ่านทีมข่าว Sanook! News หลังจากที่ตัวเธอนั้นต้องเปลี่ยนสถานะเป็นคุณแม่จึงทำให้เข้าใจและรู้ซึ้งในคำว่าแม่ทันที จากชีวิตที่เคยเป็นลูกและวันหนึ่งต้องเป็นแม่ "ยุ้ย ปัทมวรรณ" จะสะท้อนชีวิตในสองบทบาทนี้อย่างไรต้องติดตาม

"ยุ้ย ปัทมวรรณ" ในบทบาทแม่ที่ดีของลูก
"พอเริ่มท้องรู้เลยว่าที่ผ่านมาที่แม่ห่วงเรา มันคือความห่วงที่มีให้ลูกมาเหลือเกินจริงๆ มันทำให้เราย้อนไปเข้าใจ ทำไมแม่จะต้องห่วงเราตลอดเวลา มันเข้าใจเลย คิดแบบเราจะต้องไปไหนกับลูกตลอดเวลา มันไม่สามารถให้เขาห่างได้เลย สิ่งที่แม่พูดกับเราตลอดเวลา สิ่งที่แม่ห่วงทำให้เรารู้เลยตอนที่เราท้อง เช่น ตัวยุ้ยเป็นคนที่ชอบกินน้ำอัดลม ชอบดื่มกาแฟ ชอบกินขนมกรอบๆ มีผงชูรส"

"แต่พอท้องยุ้ยไม่เตะเลยสักนิดเดียว ไม่เอาเลย เพื่อลูก กินน้ำเปล่าทุกวัน ทั้งๆ ทีไม่ชอบกินน้ำเปล่า กินแต่สิ่งที่ดีให้กับลูก เหมือนเมื่อก่อนที่ยุ้ยเป็นลูกแม่ก็พยายามสรรหาสิ่งที่ดีให้เรา มาดูแลเราไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน หรืออะไรก็ตาม โดยที่แม่ไม่เคยที่จะซื้อของให้ตัวเองมันเป็นอย่างนี้เอง"

นอกเหนือจากความรู้สึกที่รู้ตัวว่าตัวเองต้องเป็นแม่แล้วนั้น "ยุ้ย ปัทมวรรณ" ยังเล่าไปถึงลักษณะนิสัยที่ได้มาจากแม่ทุมมาด้วยเช่นกัน

"ยุ้ยถอดคุณแม่มาในเรื่องความหวง เพราะถ้าเทียบในเรื่องของความใจดี หรืออะไรก็ตามในความเป็นแม่ แม่มีมากกว่ายุ้ยเยอะ ยุ้ยจะเป็นแม่ที่ค่อนข้างที่จะเจ้าระเบียบ มีอะไรในหัวตลอด ซึ่งยุ้ยพยายามปล่อยวาง มันก็ย้อนไปนึกถึงแม่ว่า แม่ไม่เคยบังคับเราเลยในการใช้ชีวิต แม้กระทั่งการเรียน ด้วยความที่แม่ไว้วางใจเรา แค่ค่อยดูแลเรา ยุ้ยก็พยายามจะทำแบบแม่ เพราะลูกไม่ต้องการความกดดัน"

ฉันเป็น "คุณแม่" เจ้าระเบียบ

"ยุ้ยก็เป็นคุณแม่ที่ค่อนข้างจะเจ้าระเบียบแล้วก็หัวโบราณในแบบที่ไม่คิดว่าตัวเองจะเป็น คือเราไม่คิดว่าเราจะเป็น เช่น สมมุติไปโรงเรียน เขาก็จับมือกับเพื่อนผู้ชาย เราก็จะแบบไม่ได้บอกตรงนั้น แต่พอกลับถึงบ้านจะบอก เราเป็นผู้หญิงนะคะ เราจะไม่จับมือกับผู้ชาย นอกจากคุณครูจะสั่งให้เราทำกิจกรรมอะไรก็ตาม ลูกยุ้ยเรียนนานาชาติ คือเราจะไม่ให้เด็กเด็กผู้ชายมากอด หรือเด็กผู้ชายมาหอมแก้ม"

"ยุ้ยก็เป็นคนแรกๆ ที่แบบให้ลูกใส่กางเกงขายาวในกระโปรงอีกทีไปโรงเรียน เพราะลูกเราซนเราก็ไม่อยากจะให้กระโปรงลูกเราเปิด การพูดจาก็เหมือนกัน ถ้าเขาพูดไม่มีหางเสียงเราก็จะไม่ตอบ ถ้าเราพูดว่าอะไรนะคะ เขาก็จะแบบคุณแม่ขาทันที เราก็ต้องพยายามให้รู้ว่าสิ่งนี้มันสำคัญ"

แม้จะรู้ว่าการเป็นแม่ที่เจ้าระเบียบมากเกินไปในบางเวลาแต่ทั้งหมดที่ทำ "ยุ้ย ปัทมวรรณ" บอกว่า สิ่งที่ทำให้ลูกทั้งหมดเพียงเพราะอยากเห็นลูกเป็นคนดี

"สิ่งที่คุณแม่ทุกคนหวังในตัวลูกหลักๆ แล้วยุ้ยคิดว่าก็คือเขาอยากให้ลูกเป็นคนที่อยู่ในสังคมได้ดี ได้ดีในที่นี่มีสุขภาพร่างกายที่ดี และที่สำคัญเป็นที่รักของทุกๆ คนมากกว่าที่จะให้ลูกเก่ง การเป็นคนดีในสังคมได้ดี นั้นคือที่สุดของยุ้ยแล้ว อย่างที่บอกว่ายุ้ยเป็นแม่ที่ค่อนข้างห่วงในเรื่องของจิตใจลูก เพราะว่าสังคมสมัยนี้ มันน่ากลัวและค่อนข้างใช้ชีวิตยากกับเด็กๆ บางทีเด็กไปข้างนอกไปเจอคนที่ไม่รู้จักหรือจะไปเจอคำพูดอะไร ฉะนั้นเราถึงอยากให้เขาเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างดี ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน"

"ยุ้ย ปัทมวรรณ" ในบทบาทลูกที่ดีของแม่

ในบทบาทลูกนั้นหลายปีที่ผ่านมาจากข่าวคราวเป็นที่ทราบกันดีว่า "แม่ทุม เค้ามูลคดี" ล้มป่วยลงด้วยโรค ALS คือกล้ามเนื้ออ่อนแรงจึงต้องนอนรักษาตัวในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เธอเล่า การดูแลที่ดีและกำลังใจคือสิ่งสำคัญที่ลูกๆ ต้องหมั่นเติมให้แม่

"สี่ปีที่แล้วมันวูบไปหมดแล้วทุกครั้งที่แม่อาการแย่ แต่ว่าเราไม่ควรวูบนาน สำหรับความรู้สึกยุ้ยทุกอย่างถ้าเราวูบแล้วเราตกแล้วเราจม มันก็คิดอะไรไม่ออก พอทุกคนแย่ไปหมดเราก็ต้องให้กำลังใจกัน อาจจะไม่ได้ให้กำลังใจด้านคำพูด แต่ให้กำลังใจด้วยสิ่งทดแทนค่อยหาทางคิดแก้ไข สภาพจิตใจเราดีขึ้น คุณแม่ป่วยมานาน ป่วยมาเรื่อยๆ แต่วันที่สุดๆ มากคือวันที่แม่ไม่สามารถขยับอะไรได้ ไม่ตอบสนอง"

"แล้วแม่เริ่มกลับมาพูดได้บ้างแต่ก็ยังนิ่งร่างกายไม่ขยับ มันทำให้ยุ้ยเชื่อว่า การดูแลแม่ที่ดี การให้ความรัก สำคัญมาก ยุ้ยอยากจะบอกว่ายุ้ยไม่เสียใจที่ทำอะไรน้อยไปในการแสดงความรัก จะออกไปทำงานยุ้ยก็หอมแก้ม กอด ตอนแม่แข็งแรงก็ไปกินข้าวไปเที่ยวเดียวกัน ถ้าที่ผ่านมายังไม่ได้ทำแบบนี่ แล้ววันนี้แม่เป็นแบบนี้ยุ้ยจะเสียใจ ยุ้ยก็อยากจะบอกทุกคนว่าควรแสดงความรักต่อกันดูแลกันดีกว่าค่ะ"

ลูกที่ดีเพราะตัวอย่างที่ดี

"ความรักของพ่อกับแม่ที่มีให้กัน ยุ้ยได้เห็นมาตั้งแต่ยุ้ยยังไม่ได้เข้ามาในวงการ สิ่งที่ยุ้ยเห็นที่สุดคือไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาไม่ปล่อยมือกัน คุณพ่อคุณแม่เจอปัญหาอะไรมามากมาย แต่สุดท้ายแล้วเขาไม่ปล่อยมือกัน ตรงนี้ยุ้ยคิดว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด พ่อกับแม่เรียนรู้ถึงความอดทน ให้เกียรติกัน เพราะฉะนั้นจุดที่พ่อกับแม่สอนเรามันเยอะมากพ่อกับแม่ทำให้ยุ้ยเห็นจากประสบการณ์จริงทุกอย่าง"

นอกจากมุมมองการเป็นแม่ที่ดีของลูกและลูกที่ดีของแม่แล้วนั้น "ยุ้ย ปัทมวรรณ" ยังเผยถึงความรู้สึกในใจตลอดระยะเวลาที่แม่ทุมล้มป่วยกำลังใจจากคนภายนอกที่ส่งมาให้คุณแม่ก็คือยาที่ดีให้กับครอบครัวของเธอเช่นกัน

"ยุ้ยขอบคุณทุกคน ขอบคุณมากๆ นอกกำลังใจที่เราสร้างภายในครอบครัวแล้ว แต่กำลังใจที่ได้จากทุกๆ คนมันยิ่งใหญ่มากสำหรับครอบครัวยุ้ย เวลาไปที่ไหนทุกคนเข้ามาบอก ขอให้แม่เราหายเร็วๆ ทุกคนเป็นกำลังใจให้ คือกำลังใจที่สำคัญมากสำหรับครอบครัวยุ้ยและคุณแม่ ความรักของพวกคุณช่วยสร้างกำลังใจให้เราครอบครัวเราค่ะ"

อัลบั้มภาพ 11 ภาพ

อัลบั้มภาพ 11 ภาพ ของ ชีวิตสองบทบาท "ยุ้ย ปัทมวรรณ" แม่ที่ดีของลูกและลูกที่ดีของแม่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook