รื้อชุมชนป้อมมหากาฬวัน2ชาวบ้านปิดทางเข้าออก

รื้อชุมชนป้อมมหากาฬวัน2ชาวบ้านปิดทางเข้าออก

รื้อชุมชนป้อมมหากาฬวัน2ชาวบ้านปิดทางเข้าออก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บรรยากาศการรื้อชุมชนในป้อมมหากาฬ วันที่ 2 ชาวชุมชนปิดทางเข้าออก เพื่อคัดกรองบุคคล ด้าน รองผู้ว่า กทม. ย้ำรื้อให้เสร็จวันนี้ ท่ามกลาง ตร. รปภ. เข้ม

บรรยากาศที่ชุมชนป้อมมหากาฬ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ กทม. และหน่วยที่เกี่ยวข้อง เข้ารื้อถอนบ้านเรือนเป็นวันที่สอง โดยตั้งเเต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ชาวชุมชนได้ปิดทางเข้าออกทุกทาง โดยมีคนเฝ้าทุกประตู เพื่อคัดกรองบุคคลเข้าออก 

ด้าน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในวันนี้จะทำการรื้อถอนบ้านเรือนที่เหลือจากเมื่อวานให้เเล้วเสร็จ ในส่วนของชาวชุมชนที่ไม่ยินยอมให้รื้อถอนเจ้าหน้าที่จะไม่ยุ่งเกี่ยว โดยจะให้ชาวชุมชนนั้นไปพูดคุย กับคณะกรรมการสิทธิซึ่งเป็นตัวกลาง เพื่อหาทางออกอีกครั้ง พร้อมกันนี้ รอง ผู้ว่าฯกทม. กล่าวยืนยันว่าการรื้อถอนในครั้งนี้เป็นการประปฏิบัติตามคำสั่ง ซึ่งถ้าไม่ทำ อาจผิดกฎหมาย เเละถูก ป.ป.ช. ตรวจสอบการละเลยปฏิบัติหน้าที่ได้

ทั้งนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่พยายามเข้ารื้อถอนบ้านเรือง มีชาวชุมชนนั่งขว้างอยู่ภายใน เเต่ทั้งนี้เหตุการณ์ยังเป็นไปอย่างเรียบร้อย ไม่มีการปะทะกันเเต่อย่างใด

 

เหลืออีก 5-6 หลัง เสร็จวันนี้ ท่ามกลาง ตร. รปภ. เข้ม 

ล่าสุด ยังคงเป็นไปอย่างเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ดำเนินการรื้อถอนโดยมีเป้าหมายรื้อถอนบ้านที่ยังไม่เเล้วเสร็จจากเมื่อวานอีกประมาณ 5-6 หลัง เพื่อให้เสร็จสิ้นในวันนี้ ขณะที่ชาวชุมชนยังคงนั่งขวางพื้นที่ภายในเเละปิดประตูเข้าออก โดยให้ผู้ที่สามารถผ่านประตูได้เฉพาะที่มีสัญลักษณ์เท่านั้น 

อีกทั้งชาวชุมชนยังเเสดงจุดยืน โดยประกาศเสียงตามสายถึงข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ซึ่งหากไม่ได้จะยกระดับการต่อต้านด้วยการออกมาเคลื่อนไหวนอกชุมชน โดย 1 ในข้อเรียกร้องต้องการให้ คณะท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้ามาพูดคุยด้วย

ซึ่งจากการเฝ้าสังเกตบริเวณประตู 4 ตรอกพระยาเพชรปราณี ซึ่งเป็นประตูเดียวที่เปิดให้บุคคลเข้าออก เเต่มีการคัดกรองจากคนของชุมชนอย่างเข้มงวด พบว่า มีนักท่องเที่ยวเดินทางเพื่อมาเที่ยวชมภายในป้อมมหากาฬ เเต่ไม่สามารถเข้าไปได้ โดยคนของชุมชนได้ชี้เเจงกับนักท่องเที่ยวถึงสถานการณ์ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเข้ารื้อถอนบ้านเรือนเเละชาวชุมชนกำลังต่อต้าน จึงได้ขอให้นักท่องเที่ยวนั้นกลับมาเที่ยวใหม่ในโอกาสหน้า

นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดกองปราบปราม เเละเจ้าหน้าที่นอกเครื่องเเบบจาก สน.สำราญราษฎร์ ต้องการเข้าไปตรวจดูด้านใน เเต่ก็ไม่สามารถเข้าไปได้เช่นเดียวกัน 

 

ล่าสุดรื้อชุมชนป้อมมหากาฬชาวบ้านโวยกทม.รื้อเกิน

บรรยากาศที่ชุมชนป้อมมหากาฬขณะนี้ ชาวบ้านในชุมชนป้อมมหากาฬได้รวมตัวกัน เเละส่งเสียงดังออกมาเป็นระยะ พร้อมประกาศเสียงตามสายว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการรื้อถอนเกินกว่าที่ได้ตกลงกันไว้ที่ 12 หลัง โดยได้กว่าวว่า คำพูดของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ไม่จริงใจ เเละไม่สามารถเชื่อถือ โดยหลังจากนี้ชาวชุมชนจะพูดคุยเพียงเเค่พหุภาคีของตนเท่านั้น ถึงเเนวทางดำเนินการต่อ

ด้านเจ้าหน้าที่ของ กทม. กล่าวว่า ได้ดำเนินการรื้อถอนบ้านหลังที่ 13 จริง ซึ่งเจ้าของบ้านยินยอมเเล้ว เเต่ชาวบ้านส่วนใหญ่ต่อต้าน ไม่เข้าใจในเหตุดังกล่าว เนื่องจากการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน

นอกจากนี้ นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้เข้าพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ กทม. ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ว่า ขณะนี้ได้ทำการละเมิดข้อตกลงเเม้บ้านที่รื้อเพิ่มนั้น เป็นบ้านที่ไม่มีคนอยู่ก็ตาม จึงทำให้ชาวบ้านเกิดความไม่ไว้วางใจ ขณะที่ นางอังคณา ได้กล่าวว่า ได้คุยเรื่องนี้กับรองผู้ว่า กทม. เเล้ว เเละรองผู้ว่าฯ มีความเข้าใจในเรื่องนี้ โดยจากนี้จะมีการพูดคุยกับชาวชุมชนเเละ กทม. อีกครั้ง เพื่อหาข้อยุติในเรื่องนี้

 

กทม.รื้อบ้านป้อมหากาฬหลังที่13ชาวชุมชนชี้ละเมิดข้อตกลง

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้มอบหมายให้ นายภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นตัวเเทน กทม. เข้าพูดคุยกับแกนนำชุมชน หลังเจ้าหน้าที่ กทม. ทำการรื้อถอนบ้านในชุมชนป้อมมหากาฬเกินกว่าจำนวน 12 หลัง ตามที่ตกลงกันไว้

โดย นายภัทรุตม์ กล่าวชี้เเจงว่า เหตุการณ์ในครั้งมีความคลาดเคลื่อนในเรื่องของการสื่อสาร ซึ่งข้อตกลงที่ได้พูดคุยกับชาวบ้าน คือ จะทำการรื้อถอนบ้านที่มีความประสงค์จำนวน 12 หลัง เเต่หลังจากนั้นได้มีเจ้าของบ้านอีก 1 หลังประสงค์ให้รื้อเพิ่ม ทาง กทม. ยังไม่ได้บอกให้กับชาวชุมชนทราบ จึงเกิดเป็นเหตุการณ์ไม่พอใจเเละหวาดระเเวงกันเกิดขึ้น

ขณะที่แกนนำชุมชน กล่าวว่า ฝ่ายปฏิบัติการโยธาของ กทม. รื้อบ้านหลังที่ 13 นอกเหนือจากการพูดคุย เเม้บ้านหลังดังกล่าวจะไม่มีคนอยู่ เเละเจ้าของบ้านยินยอมก็ถือเป็นการละเมิดข้อตกลง เป็นการกระทำที่ลุแก่อำนาจ จึงขอให้ฝ่ายบริหาร กทม. พิจารณาการทำงานของหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติงานในครั้งนี้ด้วย

ทั้งนี้ ในการเจรจามีข้อตกลงกันว่า การรื้อถอนจะดำเนินการเเค่ 12 หลังเท่านั้น เเม้หลังที่ 13 จะถูกรื้อไปครึ่งหนึ่งเเล้วก็ตาม โดยหลังจากนี้ หากมีผู้ประสงค์ให้ กทม. รื้อถอนบ้าน จะต้องประสานทั้ง กทม. เเละผู้นำชุมชน เพื่อจะได้กำหนดระยะเวลาในการเข้ารื้อถอน ซึ่งจะเเบ่งเป็นช่วงๆ เพื่อลดความตึงเครียดของสถานการณ์เเละให้ชาวบ้านได้จัดสรรเวลาทำมาหากิน

อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ชาวชุมชนป้อมมหากาฬจะเดินทางไปยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เเละหัวหน้าคณะรักษาความสงบเเห่งชาติ รวมถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เรียกร้องให้ตั้งคณะกรรมการพหุภาคี เพื่อหาเเนวทางร่วมกัน

 

รองปลัดกทม.เผยชุมชนป้อมมหากาฬยอมให้รื้อถอนด้วยดี

นายภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการรื้อถอนบ้านในชุมชนป้อมมหากาฬ ว่า หากวันนี้ไม่สามารถทำการรื้อถอนบ้านได้ครบทั้ง 12 หลังคาเรือน ตามรายชื่อของผู้เเจ้งความประสงค์ไว้ เจ้าหน้าที่จะเคลียร์พื้นที่เท่าทีทำได้เเละเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ออกทั้งหมด ซึ่งหากเข้ารื้อถอนเพิ่มเติมจะประสานกับทางชุมชนอีกครั้งหนึ่ง

ทั้งนี้ การเข้ารื้อถอนตั้งเเต่เมื่อวานกระทั่งวันนี้ ชาวบ้านป้อมมหากาฬยินยอมให้เจ้าหน้าที่รื้อถอน เเละไม่มีจุดมุ่งหวังในการขัดขวาง เพียงเเต่เกิดเหตุการณ์จากการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนเท่านั้น โดยภายหลังการเจรจาครั้งที่ 4 ทำให้ กทม. เเละชุมชน มีความเข้าใจกันมากขึ้น ซึ่งจากนี้ไป กทม. ยังคงยึดหลักการของการรื้อถอนให้เป็นไปในลักษณะที่เจ้าของบ้านมีความพร้อมเเละเต็มใจ

นอกจากนี้ นายภัทรุตม์ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า มีชาวชุมชนอีกหลายรายที่ได้เเสดงความประสงค์ให้ กทม. ช่วยรื้อถอนบ้าน เเต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากต้องรอให้ผ่านคณะกรรมการที่จะจัดตั้งขึ้นเพื่อมาทำงานร่วมกันของทุกฝ่าย เเละขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดสรร


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook