3 คนไทยภูมิใจ ทำงานรับใช้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9

หลังพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จสวรรคต แผ่นดินไทยร่ำไห้ นั่นเป็นเพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ทรงเป็นที่รักและเคารพของปวงชนชาวไทยเสมอมา และนี่คือ 3 คนไทยที่เคยรับใช้งานใต้เบื้องพระยุคลบาท

นาวาเอกทองย้อย ผู้ประพันธ์กาพย์เห่เรือในกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค
นาวาเอก(พิเศษ) ทองย้อย แสงสินชัย อดีตผู้อำนวยการกองอนุศาสนาจารย์ทหารเรือ อายุ 72 ปี หลังเกษียณอายุราชการ ออกมาใช้ชีวิตเรียบง่ายด้วยการยึดหลักตามกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยเป็นจิตรอาสาช่วยงานทางสังคม เป็นวิทยากรบรรยายพิเศษในโครงการเรียนรู้ตามรอยเบื้องพระยุคลบาทให้กับเยาวชน นักเรียน นักศึกษา และเป็นมรรคนายก ณ วัดมหาธาตุวรวิหาร ในอดีตมีโอกาสสนองงานใต้เบื้องพระยุคลบาทเป็นผู้ประพันธ์บทกาพย์เห่เรือในกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค ทั้งยังเคยมีโอกาสเข้ารับประกาศนียบัตรพระราชทานพัดยศเปรียญธรรม ทรงตั้งเป็น "เปรียญ 9 ประโยค" เมื่อปี พ.ศ. 2511 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ซึ่งนับได้ว่าเป็นบุญญาธิการของตนเองและวงตระกูล

ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ จึงลาสิกขา และเข้าทำงานเป็นนักวิชาการมูลนิธิภูมิพโลภิกขุ วัดสระเกศ กรุงเทพมหานคร จากนั้นเข้ารับราชการเป็นนักภาษาโบราณกองหอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร จนตัดสินใจเข้าถวายงานใต้เบื้องพระยุคลบาทเข้ารับราชการเป็นอนุศาสนาจารย์กองทัพเรือจนเกษียณอายุราชการ ในระหว่างรับราชการนาวาเอก (พิเศษ) ทองย้อยได้เป็นผู้ประพันธ์กาพย์เห่เรือในกระบวนหยุหยาตราทางชลมารคจำนวน 6 คราวตั้งแต่ปี 2539 และครั้งที่ 6 ครั้งสุดท้ายในปี พ.ศ. 2555 สำหรับตนนั้นรู้สึกว่าได้รับเกียรติอย่างสูงสุดที่ได้เป็นผู้ประพันธ์ ในการประพันธ์บทกาพย์เห่เรือที่ประทับใจมากที่สุดคือ "แผ่นดินที่ทรงครอง แผ่นดินทองแผ่นดินธรรม คราวเข็ญเข้าครอบงำ ทรงดับเข็ญทุกคราวครัน เหน็ดเหนื่อยนั้นหนักนัก ทรงงานหนักอเนกอนันต์ วันพักเพียงสักวัน ก็แสนน้อยดูนานเกิน วังทิพย์คือท้องทุ่ง ม่านงามรุ้งคือเขาเขิน ร้อนหนาวในราวเนิน มาโลมไล้ต่างรสสุคนธ์ ย่างพระบาทที่ยาตรา ยาวรอบหล้าฟ้าสากล พระเสโทที่ถั่งทน ถ้าไหลรวมคงท่วมไทย"

หลังจากทราบว่าพระองค์ทรงเสด็จสวรรคต ตนและครอบครัวต่างมีความรู้สึกโศกเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากตนเองและครอบครัวได้รับใช้งานใต้เบื้องพระยุคลบาทมาโดยตลอด เป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตแม้จะเกษียณอายุราชการมาแล้วก็ยังคงทำหน้าที่เพื่อสังคมและถ่ายทอดพระราชกรณียกิจในด้านต่างๆ ให้กับเยาวชนและนักเรียนนักศึกษาได้เรียนรู้สืบไป

นายเสนอ จิโส๊ะ ผู้ดูแลต้นไม้ของในหลวงรัชกาลที่ 9
นายเสนอ จิโส๊ะอายุ 70 ปี ชาวจังหวัดสตูล เป็นหนึ่งในผู้ดูแลต้นไม้ราชพฤกษ์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หลังจากพระองค์เสด็จฯ เยี่ยมราษฎรที่จังหวัดสตูล และทรงเสด็จพระราชดำเนินมายังมัสยิดมำบัง พร้อมสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ซึ่งทั้งสองพระองค์ทรงปลูกต้นราชพฤกษ์ในครั้งนั้น

หลังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคตตนเองรู้สึกเสียใจมาก แต่ยังคงทำหน้าที่ดูแลปกป้องต้นไม้ของในหลวงรัชกาลที่ 9 และพระราชินีที่ทรงปลูกไว้นับเป็นเวลากว่า 40 ปี โดยตนเองเป็นคนรับผิดชอบดูแลต่อจากคนก่อนหน้านี้เป็นเวลา 3 ปี ขณะนี้ต้นราชพฤกษ์ที่พระองค์ทรงปลูกเติบโตสูงใหญ่ ยืนเด่นเป็นสง่าบริเวณด้านหน้ามัสยิด เปรียบเสมือนพระองค์ท่านอยู่เป็นร่มโพธิร่มไทรต่อพสกนิกรขาวจ.สตูล

“ช่างไก่”  ช่างซ่อมฉลองพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9

ศรไกร แน่นศรีนิล หรือ “ข่างไก่”เจ้าของร้านซ่อมรองเท้า ก.เปรมศิลป์ ร้านซ่อมรองเท้าเล็กๆ ตรงสี่แยกซังฮี้เป็นช่างซ่อมรองเท้าที่มีโอกาสรับใช้เบื้องพระยุคลบาท จนกลายเป็นช่างซ่อมฉลองพระบาทแบบนอกพระราชวัง
“ผมสำนึกในความจงรักภักดี ผมถึงตัดถวายพระองค์ท่าน เห็นท่านทรงงานหนัก เราก็ไม่มีอะไรที่ดีกว่าที่ฉลองพระบาทนี้ ผมทำอย่างดีที่สุดเพื่อพระองค์ท่าน” โดยเล่าเพิ่มเติมว่า

“เช้าวันหนึ่งสังเกตเห็นรถตู้คันหนึ่งมาจอดแล้วมีเจ้าหน้าที่ 2 คนประคับประคองอะไรสักอย่างข้ามถนนตรงมายังร้าน พอเข้ามาถึงก็วางถุงผ้าลง แล้วก้มกราบ ในใจตอนนั้นไม่เข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ 2   คนนั้นทำอะไร จึงถามกลับไปจนได้คำตอบว่า ในถุงผ้านั้นคือฉลองพระบาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9”

ตนแทบไม่เชื่อหูตัวเอง จากนั้นความปลื้มปิติได้ก่อเกิดชึ้นในหัวใจ ฉลองพระบาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวคู่แรกที่นำมาซ่อมนั้น เป็นรองเท้าหนังสีดำทำในเมืองไทย ราคาไม่แพง และอยู่ในสภาพชำรุด ทรุดโทรม จากการใช้งานมาหลาย 10 ปี ภายในรองเท้าผุกร่อน หลุดล่อนหลายแห่ง ซึ่งถ้าเป็นคนทั่วไปอาจทิ้งไปแล้ว แต่พระองค์ท่านกลับให้มหาดเล็กนำมาซ่อมเพื่อใช้งานต่อ เนื่องจากฉลองพระบาทคู่นี้คือฉลองพระบาทคู่โปรดของพระองค์ แม้จะมีความประมาทเกร็งในการทำงาน แต่ช่างไก่ก็ลงมือซ่อมแซมฉลองพระบาทนั้นอย่างสุดความสามารถ