ทรงพระประชวร : แถลงการณ์สำนักพระราชวังฉบับที่ 31-38

ทรงพระประชวร : แถลงการณ์สำนักพระราชวังฉบับที่ 31-38

ทรงพระประชวร : แถลงการณ์สำนักพระราชวังฉบับที่ 31-38
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แถลงการณ์

เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ 31


วันนี้ คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้รายงานสรุปพระอาการระหว่างวันที่ 3 กรกฎาคม ถึง 31 กรกฎาคม 2559  มีใจความว่า

ในระหว่างเดือนกรกฎาคม 2559 มีพระปรอท (ไข้) ต่ำ ๆ นาน ๆ ครั้ง ผลการตรวจพระวรกาย การตรวจทางห้องปฏิบัติการและเอกซเรย์ ไม่พบหลักฐานการติดเชื้อชัดเจน อาการพระปรอท (ไข้) หายได้โดยไม่ต้องถวายพระโอสถปฏิชีวนะ จนเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2559  มีพระปรอท (ไข้) แม้ผลการเอกซเรย์พระปัปผาสะ (ปอด) ไม่พบการอักเสบ แต่ผลการตรวจพระโลหิต บ่งว่าอาจมีการติดเชื้อ คณะแพทย์ฯ จึงได้ถวายพระโอสถปฏิชีวนะ และได้ปรับพระโอสถเพื่อลดพระเสมหะและพระเขฬะ (น้ำลาย) ภายหลังการถวายพระโอสถปฏิชีวนะ พระอาการดีขึ้น แต่ยังมีพระปรอท (ไข้) บ้าง คณะแพทย์ฯ จะเฝ้าติดตามอาการพระปรอท (ไข้) อย่างใกล้ชิดต่อไป

ส่วนพระอาการภาวะน้ำไขสันหลังในโพรงพระสมอง คณะแพทย์ฯ ได้ติดตามอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด และมีการถวายปรับสายเพื่อเพิ่มการระบายน้ำในไขสันหลังเป็นครั้งคราว ทำให้การระบายน้ำไขสันหลังตลอดเดือนกรกฎาคมเป็นที่น่าพอใจ หากไม่มีพระอาการผิดปรกติใด ๆ คณะแพทย์ฯ จะรายงานพระอาการสรุปเป็นรายเดือน

จึงประกาศมาเพื่อทราบด้วยทั่วกัน

สำนักพระราชวัง 1 สิงหาคม 2559


แถลงการณ์สำนักพระราชวัง

เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ 32

วันนี้ คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รายงาน สรุปพระอาการระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม – 2 กันยายน 2559 ว่าภายหลังการถวายพระโอสถปฏิชีวนะ เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2559 ถึงวันที่ 2 สิงหาคม 2559 (ตามแถลงการณ์สำนักพระราชวังฉบับที่ 31 ) พระอาการต่างๆ ดีขึ้น ในระหว่างเดือนสิงหาคม 2559 ยังมีพระปรอท (ไข้) ต่ำๆ นานๆ ครั้ง โดยไม่มีลักษณะของการติดเชื้อ จนเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2559 ทรงหายพระทัยเร็ว มีพระเสมหะเหนียวข้นมาก ผลการตรวจในห้องปฏิบัติการของพระเสมหะ และพระโลหิตบ่งชี้ถึงการอักเสบติดเชื้อที่รุนแรง แม้ผลเอกซเรย์พระปัปผาสะ (ปอด) ในช่วงบ่ายของวันที่ 31สิงหาคม 2559 ไม่พบการอักเสบ แต่คณะแพทย์ฯ ได้ถวายพระโอสถปฏิชีวนะ ในช่วงเวลาค่ำความดันพระโลหิตลดต่ำลง เริ่มมีพระปรอท (ไข้) ปริมาณพระบังคนเบา (ปัสสาวะ) น้อยลง คณะแพทย์ฯ ได้ถวายพระโอสถ เพื่อเพิ่มความดันพระโลหิต แต่พระบังคนเบา (ปัสสาวะ) ยังคงมีปริมาณน้อย

วันที่ 1 กันยายน 2559  ทรงหายพระทัยเร็ว พระบังคนเบา (ปัสสาวะ) ยังมีปริมาณน้อย แม้ได้ถวายพระโอสถขับพระบังคนเบา (ปัสสาวะ) แล้ว ผลการตรวจพระโลหิตบ่งว่า การทำงานของพระวักกะ (ไต) ลดลง ผลเอกซเรย์พระปัปผาสะ (ปอด) พบเริ่มมีน้ำคั่งในพระปัปผาสะ (ปอด) คณะแพทย์ฯ จึงขอพระราชทาน พระบรมราชานุญาตถวายการรักษาด้วยการดึงน้ำออกจากพระโลหิตด้วยวิธี Continuous renal replacement therapy (CRRT) เพื่อนำปริมาณน้ำส่วนเกินออก คณะแพทย์ฯ ได้เริ่มถวายการรักษาดังกล่าวตั้งแต่ช่วงบ่าย ผลเอกซเรย์พระปัปผาสะ (ปอด) ในช่วงเย็นพบน้ำคั่งในพระปัปผาสะ (ปอด) ลดลง
วันนี้ ทรงหายพระทัยดีขึ้น ความดันโลหิตดีขึ้นเป็นลำดับ ไม่มีพระปรอท (ไข้) คณะแพทย์ฯ จะเฝ้าติดตามพระอาการอย่างใกล้ชิดต่อไป

จึงประกาศมาเพื่อทราบด้วยทั่วกัน

สำนักพระราชวัง 2 กันยายน 2559


แถลงการณ์สำนักพระราชวัง

เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ 33

วันนี้ ( 4 ก.ย.2559) คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รายงานพระอาการภายหลังการรักษาการติดเชื้อในระบบการหายพระทัย และการถวายการรักษาด้วยวิธี Continuous renal replacement therapy หรือ CRRT ว่า อัตราการเต้นของพระหทัย ความดันพระโลหิต และอัตราการหายพระทัยอยู่ในเกณฑ์ปรกติ ไม่มีพระปรอท หรือ ไข้ ผลการตรวจพระโลหิต และพระเสมหะ พบว่า ความรุนแรงของการติดเชื้อลดลง ผลเอกซเรย์พระปัปผาสะ หรือ ปอด พบว่ามีน้ำค้างอยู่บ้าง ปริมาณพระบังคนเบา หรือ ปัสสาวะ ยังคงน้อย คณะแพทย์ฯ จึงถวายพระโอสถปฏิชีวนะ และถวายการรักษาด้วยวิธี CRRT ต่อไป

จึงประกาศมาเพื่อทราบด้วยทั่วกัน

สำนักพระราชวัง 4 กันยายน 2559



แถลงการณ์

เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ 34

วันนี้ คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รายงานผลการตรวจพระโลหิตและพระเสมหะพบว่า ความรุนแรงของการติดเชื้อลดลงอีก ผลเอกซเรย์พระปัปผาสะ (ปอด) พบมีปริมาณน้ำที่ค้างในพระปัปผาสะ (ปอด) ลดลง และไม่พบลักษณะของการอักเสบ ผลการตรวจพระหทัยด้วยคลื่นเสียงสะท้อน (Echocardiography) บ่งชี้ว่าการทำงานของกล้ามเนื้อพระหทัยเป็นที่น่าพอใจ ผลการตรวจพระนาภี (ท้อง) ด้วยคลื่นเสียง (Ultrasound) ไม่พบลักษณะของการอักเสบในช่องพระนาภี (ท้อง) ปริมาณพระบังคนเบา (ปัสสาวะ) ยังคงน้อย คณะแพทย์ฯ จึงคงถวายพระโอสถปฏิชีวนะและถวายการรักษาด้วยวิธี CRRT ต่อไป
จึงประกาศมาเพื่อทราบด้วยทั่วกัน สำนักพระราชวัง 7 กันยายน 2559

แถลงการณ์สำนักพระราชวัง เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ 35
วันนี้ คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รายงานพระอาการภายหลังการรักษาการติดเชื้อในระบบการหายพระทัยว่าไม่มีพระปรอท (ไข้) ผลการตรวจพระโลหิตบ่งชี้ว่าการอักเสบลดลง ผลเอกซเรย์พระปับผาสะ (ปอด) ไม่พบลักษณะของการอักเสบ คณะแพทย์ฯ จึงหยุดการถวายพระโอสถปฏิชีวนะ สำหรับปริมาณพระบังคนเบา (ปัสสาวะ) ยังคงน้อย คณะแพทย์ฯ ยังคงถวายการรักษาด้วยวิธี CRRT และเฝ้าติดตามการทำงานของพระวักกะ (ไต) อย่างใกล้ชิดต่อไป

จึงประกาศมาเพื่อทราบด้วยทั่วกัน

สำนักพระราชวัง

11 กันยายน 2559



แถลงการณ์สำนักพระราชวัง

เรื่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ 36

วันนี้ คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้รายงานพระอาการระหว่างวันที่ 12 กันยายน  2559 – 1 ตุลาคม 2559 ว่า ได้ถวายการตรวจติดตามพระอาการหลังจากการอักเสบของพระปัปผาสะ (ปอด) ลดลงแล้ว โดยการถวายตรวจเอกซเรย์พระปัปผาสะ (ปอด) เป็นระยะ ไม่พบลักษณะของการอักเสบ แต่มีพระปรอท (ไข้) ต่ำๆ เป็นครั้งคราว ผลการตรวจพระโลหิตไม่บ่งชี้ว่ามีการอักเสบติดเชื้อ จึงได้หยุดการถวายพระโอสถปฏิชีวนะ

ต่อมา ระหว่างวันที่ 28-29กันยายน 2559 มีพระปรอท (ไข้) ต่ำๆ พระชีพจรเริ่มเร็วขึ้น หายพระทัยเร็ว และมีพระเสมหะมาก ผลการตรวจพระโลหิตบ่งชี้ถึงการอักเสบติดเชื้อ ผลเอกซเรย์ของพระปัปผาสะ (ปอด) พบลักษณะการอักเสบของพระปัปผาสะ (ปอด) ด้านซ้าย และพบว่ามีน้ำคั่งในช่องเยื่อหุ้มพระปัปผาสะ(ปอด) เล็กน้อย คณะแพทย์ฯ จึงได้ถวายพระโอสถปฏิชีวนะ เมื่อวันที่ 29  กันยายน 2559

วันนี้ ไม่มีพระปรอท (ไข้) การหายพระทัยเป็นปรกติ พระเสมหะลดลง และผลการตรวจพระโลหิตบ่งชี้ถึงการอักเสบติดเชื้อลดลง แต่พระบังคนเบา (ปัสสาวะ) ยังคงมีปริมาณน้อย คณะแพทย์ฯ ได้ถวายการรักษาด้วยวิธีทดแทนไต (CRRT) ต่อไป และเฝ้าติดตามพระอาการต่างๆอย่างใกล้ชิด

จึงประกาศมาเพื่อทราบด้วยทั่วกัน

สำนักพระราชวัง 1 ตุลาคม 2559


แถลงการณ์

เรื่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จมาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ 37

วันนี้ คณะแพทยผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รายงานว่า ในวันที่ 8 ตุลาคม 2559 คณะแพทย์ฯ ได้ขอพระราชทานถวายใส่สายสวนเข้าหลอดพระโลหิตดำเพื่อเตรียมการสำหรับการฟอกพระโลหิต (Hemodialysis) ระยะยาว และเปลี่ยนสายระบบน้ำไขสันหลังในโพรงพระสมองบริเวณบั้นพระองค์ (เอว) ตั้งแต่เวลา 14 นาฬิกาถึง 16 นาฬิกา 40 นาที ปรากฏภายหลังว่า มีความดันพระโลหิตลดต่ำลงเป็นครั้งคราว คณะแพทย์ฯ จึงได้ถวายพระโอสถและได้ใช้เครื่องช่วยหายพระทัย (Ventilator) เพื่อทำให้ความดันพระโลหิตกลับสู่ระดับปรกติ จนกระทั่งเวลา 3นาฬิกาวันนี้ มีพระชีพจรเร็วขึ้น ความดันพระโลหิตลดลง ผลการตรวจพระโลหิตพบว่า พระโลหิตมีความเป็นกรดเพิ่มขึ้น ผลการตรวจพระหทัยด้วยคลื่นเสียงสะท้อน (Echocardiography) พบว่า ปริมาณพระโลหิตที่เข้าสู่พระหทัยด้านซ้ายช่องล่างลดลงมาก อันเป็นผลจากการที่มีความดันพระโลหิตในพระปัปผาสะ (ปอด) สูง คณะแพทย์ฯ ได้ถวายพระโอสถขยายหลอดพระโลหิตในพระปัปผาสะ (ปอด) เมื่อเวลา 15 นาฬิกา ทำให้พระชีพจรเริ่มลดลงและความดันพระโลหิตดีขึ้น คณะแพทย์ฯ ได้เฝ้าติดตามพระอาการและถวายการรักษาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากพระอาการประชวรโดยรวมยังไม่คงที่ และได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้งดพระราชกิจ

จึงประกาศมาเพื่อทราบด้วยทั่วกัน

สำนักพระราชวัง

9  ตุลาคม 2559



แถลงการณ์

เรื่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯมาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ 38

วันนี้ คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้รายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2559 ความดันพระโลหิตลดต่ำลงอีก พระชีพจรเร็วขึ้น ร่วมกับภาวะพระโลหิตมีความเป็นกรดเพิ่มขึ้นอีก ผลของการถวายตรวจพระโลหิตบ่งชี้ว่า มีภาวะการติดเชื้อและการทำงานของพระยกนะ (ตับ) ผิดปรกติ คณะแพทย์ฯ ได้ถวายพระโอสถปฏิชีวนะและแก้ไขภาวะพระโลหิตมีความเป็นกรด ตลอดจนถวายพระโอสถควบคุมความดันพระโลหิตเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งถวายเครื่องช่วยหายพระทัย (Ventilator) และถวายการรักษาด้วยวิธีทดแทนไต (CRRT) พระอาการประชวรโดยรวมยังไม่คงที่ ต้องควบคุมด้วยพระโอสถ คณะแพทย์ฯ ได้เฝ้าติดตามพระอาการและถวายการรักษาอย่างใกล้ชิด

จึงประกาศมาเพื่อทราบด้วยทั่วกัน

สำนักพระราชวัง

12 ตุลาคม 2559

ขอบคุณข้อมูลจาก เครือข่ายกาญจนาภิเษก

เครดิตภาพ : (เพจ Information Division of OHM)

เครดิตภาพ : (คลังภาพสำนักพระราชวัง)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook