จา พนม ภูมิใจที่สุด ได้เล่าเรื่องในหลวง ร.9 ให้เพื่อนนักแสดงฮอลลีวูดฟัง

จา พนม ภูมิใจที่สุด ได้เล่าเรื่องในหลวง ร.9 ให้เพื่อนนักแสดงฮอลลีวูดฟัง

จา พนม ภูมิใจที่สุด ได้เล่าเรื่องในหลวง ร.9 ให้เพื่อนนักแสดงฮอลลีวูดฟัง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นักแสดงหนุ่มโกอินเตอร์ เจ้าของฉายาฮีโร่นักบู๊เมืองไทย "จา พนม ยีรัมย์" เดินทางมายังพื้นที่ท้องสนามหลวง พร้อมทั้งร่วมแจกจ่ายขนมและอาหาร ให้กับประชาชนที่เดินทางมาถวายสักการะ พระบรมศพ ในหลวง รัชกาลที่ 9 ณ บริเวณเต้นท์ 11 โซนเหนือ ของหน่วยแพทย์พระราชทานและอาหารพระราชทาน ก่อนเปิดใจถึงความรู้สึกให้เราฟังว่า...

"วันนี้ผมก็นำข้าวปลาอาหารมาแจกจ่ายให้กับพี่น้องชาวไทย ซึ่งจริงๆ ก่อนหน้านี้ผมก็เคยมีโอกาสได้มาแล้วนะครับ เพียงแค่ไม่ได้ออกสื่อ เพราะผมเชื่อว่าหัวใจของชาวไทยทุกคนที่อยู่ในประเทศไทย และทุกคนที่อยู่ทั่วโลกต่างก็ยังคงเศร้าอยู่กับความอาลัย และก็ทำสิ่งที่ดีที่สุดซึ่งนั่นการทำทุกอย่างออกมาจากใจ อย่างในวันนี้ตัวผมเองก็ถือว่าได้มีโอกาสได้เจอกับสื่อหลายๆ ท่าน เพราะปกติแล้วมีโอกาสน้อยมากครับที่ผมจะได้เจอ อีกอย่างตัวผมเองก็เป็นประชาชนคนไทยคนหนึ่งที่รักพระองค์ท่าน และก็เป็นลูกคนหนึ่งที่สามารถทำหน้าที่ตอบแทนบุญคุณประเทศชาติ ตอบแทนบุญคุณต่อพ่อของแผ่นดินของเรา ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็แล้วแต่ที่เป็นความดี คิดดี ทำดี ผมเชื่อว่าทุกคนสามารถแสดงออกได้"

ความประทับใจที่เรามีต่อพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 มีอะไรบ้าง ?
"ก็ตั้งแต่ผมเกิดมาผมก็ได้เจอเหรียญบาทแล้วครับ และเหรียญบาทตรงนี้ก็คือแรงบันดาลใจที่ผลักดันให้ผมมีกำลังใจในการต่อสู้ เพราะเมื่อผมหยิบเหรียญบาทขึ้นมาดูเมื่อไหร่มันก็จะมีความรู้สึกว่าท่านได้ทำอะไรต่างๆ ให้กับแผ่นดิน หรือเมื่อผมเจอกับอุปสรรคผมก็จะนึกถึงพระองค์ท่านเสมอ เพราะหากเทียบกับพระองค์ท่านแล้วอุปสรรคของผมมันก็แค่เรื่องเล็กน้อยมาก ผมเกิดมาผมก็เห็นท่านแล้ว พระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านที่ท่านเดินทางไปเยี่ยมชมพสกนิกรทั่วประเทศ ดังนั้นเมื่อได้เห็นความเหนื่อยยากของพระองค์ท่านแล้วอุปสรรคเล็กๆ น้อยๆ ที่เราเจอมันก็หายไปเลยครับ ผมมองท่านเป็นฮีโร่ เป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ผมลุกขึ้นและต่อสู้กับอุปสรรคนั้นๆ"

ส่วนตัวเราเองเคยมีโอกาสได้เข้าเฝ้าหรือถวายงานต่อพระองค์ท่านบ้างไหม ?
"ยังไม่เคยครับ แต่ผมจะทำเบื้องหลังมากกว่า อย่างที่พระองค์ท่านเคยบอกและผมก็จำได้ดีนั่นก็คือเรื่องของการ ปิดทองหลังพระ เพราะส่วนมากคนไม่ชอบปิดทองหลังพระ แต่ผมเชื่อว่า ณ เวลานี้คนไทยหลายๆ คน คงอยากจะพูดแทนผม อยากจะพูดเหมือนกับที่ผมอยากจะสื่อสารกับพระองค์ท่าน ซึ่งนั่นก็คือขอเดินตามรอยท่านครับ"

ช่วงเวลาที่เราเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ เพื่อนๆ นักแสดงได้มีการสอบถามถึงพระองค์ท่านบ้างไหม ?
"ผมก็จะบอกเสมอครับว่าผมมาจากเมืองไทย และผมก็มีพระมหากษัตริย์ที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับผมได้ต่อสู้ สิ่งที่ผมทำอยู่ทุกวันนี้ผมได้นำศิลปะการต่อสู้ ซึ่งนั่นก็คือมวยไทย หมัด เท้า เข่า ศอก หรือเรียกง่ายๆ ว่า นวอาวุธ อาวุธทั้ง 9 อย่าง เป็นตัวแทนของรัชกาลที่ 9 เพื่อใช้ในการก้าวเดินต่อ โดยการนำอาวุธทั้ง 9 อย่างนี้ไปเผยแพร่"

"มีคนถามผมเหมือนกันว่าผมเอาความอดทนในการฝึกฝนทุกสิ่งทุกอย่างนี้มาจากนี้ ซึ่งผมก็ตอบเหมือนเดิมตลอดครับว่า ผมได้แรงบันดาลใจมาจากพระองค์ท่าน พระองค์ท่านเหนื่อยมากกว่าผม คือแค่นึกถึงพระองค์ท่านนั่นก็เป็นกำลังใจให้ผมได้เป็นอย่างดีแล้ว ผมไม่จำเป็นต้องมีใคร เพราะแค่ผมหยิบเหรียญบาทขึ้นมาดูผมก็มีแรงฮึดสู้แล้ว ดังนั้นจากนี้ต่อไปสิ่งที่ผมทำได้ก็คือตอบแทนบุญคุณของประเทศชาติด้วยการเป็นคนดี และทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดครับ"

เพื่อนนักแสดงชาวต่างชาติได้ถามเราบ้างไหมว่าทำไมคนไทยถึงรักในหลวง ?
"ผมคิดว่าชาวต่างชาติก็รักในหลวงนะครับ เพราะเพื่อนผมบอกว่า เรามีคิงที่เป็นนัมเบอร์วันมาก เรามีคิงที่เปรียบเสมือนพ่อ ซึ่งเขาไม่มีโอกาสมีแบบนี้ เขาภูมิใจแทนประเทศเรา ภูมิใจแทนคนไทยทุกคน อีกอย่างผมยังบอกเพื่อนผมหลายๆ คนด้วย ไม่ว่าจะเป็น วิน ดีเซล, เจสัน สเตแธม คือเวลาที่เขามาเมืองไทย เขาก็มักจะพูดอยู่ตลอดว่า คิงเราสุดยอดมาก ซึ่งนั่นก็ทำให้ผมสามารถพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่า ถึงแม้เราจะเป็นประเทศเล็กๆ แต่ว่าเรามีพระมหากษัตริย์ที่สุดยอด ยิ่งกว่าซุปเปอร์ฮีโร่เสียอีก"

อยากบอกอะไรกับคนไทยบ้างไหม ?
"ถึงแม้หลายๆ สิ่งหลายๆ อย่างจะเปลี่ยนแปลงไป แต่ผมก็อยากให้ทุกคนเข้มแข็ง เราสูญเสียได้ แต่เราอย่าเสียศูนย์ ผมอยากให้ทุกคนตั้งหลักและตั้งใจ อะไรที่สามารถทำและสามารถตอบแทนพระองค์ท่านได้ ซึ่งนั่นก็คือการเป็นประชาชนที่ดี เป็นลูกที่ดี ให้ดีที่สุดครับ"

ถามถึงงานของเราตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ?
"ตอนนี้เพิ่งจะถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง ทริปเปิ้ล เอ็กซ์ ภาค 3 เสร็จครับ และก็กำลังจะมีผลงานภาพยนตร์ฮ่องกง ซึ่งเรื่องนี้ก็มีนักแสดงชื่อดังหลายท่าน น่าจะได้ชมกันภายในปีหน้า"

ในเรื่องนี้เรารับบทเด่นเลยไหม ?
"ผมภูมิใจมากครับ ในเรื่องผมรับบทเป็นตำรวจไทยที่ใช้ความสามารถด้านมวยไทยเป็นหลัก ซึ่งจะเก่งและถ่ายทอดออกมาดีขนาดไหนอันนี้ต้องรอดูกัน"

นอกจากสองเรื่องนี้แล้วมีเรื่องอื่นๆ ติดต่อมาบ้างหรือยัง ?
"ก็มีนิดหนึ่งครับ จะเป็นเรื่องคล้ายๆ ทีมเอ็กซ์เพ็นดิเบิลส์ แต่เป็นของเอเชีย ก็อยากให้รอติดตามเหมือนกันครับ"

เรียกว่าตอนนี้ก็มีงานติดต่อเข้ามาตลอด ?
"ใช่ครับ ก็มีเรื่อยๆ ครับ"

การใช้ชีวิตตอนนี้ส่วนใหญ่จะอยู่เมืองไทยหรือว่าต่างประเทศ ?
"ก่อนหน้านี้ก็จะไปๆ มาๆ ครับ แต่ว่าตอนนี้อยู่เมืองไทยยาวหน่อยเพราะว่ามีคิวถ่ายหนังที่เมืองไทยด้วย"

ในส่วนของเรื่อง ฟาส 8 แฟนๆ ยังจะมีโอกาสได้เห็นเราอยู่ไหม ?
"อ๋อ คิวผมไม่ได้ครับ เพราะผมเปลี่ยนมาเป็นทริปเปิ้ลเอ็กซ์ มันก็เลยทำให้คิวคลาดเคลื่อนกัน อีกอย่างคาเรคเตอร์ผมก็จัดมาเต็มกับทริปเปิ้ลเอ็กซ์ด้วย"

แสดงว่าไม่มีโอกาสได้เห็นเราใน ฟาส 8 แน่นอน ?
"ใช่ครับ แต่ถามว่าเสียดายไหม เอ่อ...ไม่เป็นไร เพราะแค่การได้เล่นทริปเปิ้ลเอ็กซ์ก็ถือว่าเป็นที่สุดแล้ว"

ทีมงานเรื่อง ฟาส 8 เขาเสียดายไหมที่ไม่มีเราร่วมงานครั้งนี้ ?
"อันนี้ก็เป็นเรื่องของการเจรจาในระดับสูงขึ้นไป เป็นเรื่องของสตูดิโอ แต่ว่าทาง วิน ดีเซล หรือว่าพรรคพวกผมนักแสดงคนอื่นๆ เขาก็ยังอยากที่จะร่วมงานกัน หากมีอะไรหรือมีบทให้เล่นก็ยินดี แต่สำหรับเรื่องทริปเปิ้ลเอ็กซ์ ผมก็ถือว่ายิ่งใหญ่มากแล้วครับ"

ได้ร่วมงานกับ วิน ดีเซล เป็นยังไงบ้าง ?
"ภูมิใจครับ เพราะผมเองก็เป็นแค่นักแสดงไทยคนหนึ่งที่มีโอกาสได้ร่วมงานกับนักแสดงฮอลลีวูด ได้นำเสนอลีลาการต่อสู้ ศิลปะมวยไทย"

ตอนนี้ใครเป็นคนดูคิวงานให้เรา ?
"ก็มีทีมงานในส่วนของต่างประเทศดูแลอยู่ครับ ส่วนเรื่องรายละเอียดอะไรยังไงนั้นผมขออนุญาตไม่ชี้แจงดีกว่า"

แฟนๆ คนไทยจะได้มีโอกาสเห็นผลงานภาพยนตร์ไทยของเราอีกไหม ?
"อันนี้ต้องรอดูเลยครับ เพราะยังไม่มีใครติดต่อมาเลย อีกอย่างมันต้องดูบทดูคิวด้วย คือถ้าจะทำหนังไทยจริงๆ ก็ต้องทำให้มันออกมาดูเป็นอินเตอร์เนชั่นแนล"

อัลบั้มภาพ 13 ภาพ

อัลบั้มภาพ 13 ภาพ ของ จา พนม ภูมิใจที่สุด ได้เล่าเรื่องในหลวง ร.9 ให้เพื่อนนักแสดงฮอลลีวูดฟัง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook