ศาลยธ.สรุปคดีปี59เชื่อไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายแฮกเกอร์

ศาลยุติธรรม สรุปคดีประจำปี 2559 พบคดีเกี่ยวกับเศรษฐกิจเข้าสู่ระบบมากขึ้น เตรียมใช้ระบบ E-Filing ส่งคำสั่งศาลอิเล็กทรอนิกส์ - วางมาตรการป้องกันการโจมตีจากแฮกเกอร์ เชื่อศาลยุติธรรมไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย

นายอธิคม อินทุภูติ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม แถลงผลการดำเนินงานด้านคดีของศาลยุติธรรมทั่วประเทศ ประจำปี 2559 ว่า มีคดีเข้าสู่การพิจารณาของศาลยุติธรรม 1,736,954 คดี ซึ่งศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเสร็จ 1,488,890 คดี มีคดีค้าง 248,064 คดี ขณะที่การไกล่เกลี่ยคดี มีคดีแพ่งเข้าสู่ระบบการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท 345,095 คดี ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 300,932 คดี ส่วนคดีอาญาเข้าสู่ระบบ 12,300 คดี ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 6,763 คดี

นายอธิคม กล่าวว่า จากการรวบรวมข้อมูล ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2559 พบว่า คดีแพ่ง คดีล้มละลาย และคดีแรงงาน ซึ่งเป็นคดีที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจมีมากขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกันระหว่างปี 2558 ซึ่งคดีแพ่งมากขึ้น กว่า 2.4 แสนคดี คดีล้มละลายมากขึ้นกว่า 400 คดี และคดีแรงงานมากขึ้นกว่า 3 พันคดี และหลังจากเปิดทำการศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งมีคดีค้างเก่าที่โอนมาจากแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ 77 คดี แต่มีคดียื่นฟ้องใหม่จำนวนมากถึง 228 คดี จึงเตรียมเปิดทำการศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาคขึ้น รวม 9 แห่ง โดยมีกำหนดเปิดในวันที่ 1 เมษายน 2560 จำนวน 7 แห่ง และ วันที่ 1 ตุลาคม 2560 อีก 2 แห่ง ส่วนคดีค้ามนุษย์โรฮีนจา ที่พิจารณาอยู่ในศาลอาญา ได้สืบพยานโจทก์เสร็จสิ้นแล้ว อยู่ระหว่างสืบพยานฝ่ายจำเลย โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงเดือนมีนาคม ปี 2560

ด้าน นายพิสิษฐ นิ่งน้อย ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะประจำสำนักประธานศาลฎีกา กล่าวว่า ศาลยุติธรรมเตรียมเปิดการยื่นและส่งคำสั่งคู่ความ หรือคำสั่งศาลโดยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Filing นำร่องใช้ที่ศาลแพ่ง ศาลแพ่งธนบุรี และศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2560 ก่อนขยายใช้ในศาลยุติธรรมทั่วประเทศช่วงเดือนเมษายน ปี 2561 และได้วางมาตรการป้องกันการเข้าถึงข้อมูลของศาลผ่านระบบอินเทอร์เน็ต หลังพบว่าหลายหน่วยงานราชการถูกแฮกเกอร์โจมตีระบบ โดยเชื่อว่าศาลไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายการโจมตี ส่วนที่ถูกโจมตีระบบเมื่อปีที่ผ่านมา ยังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินคดีของพนักงานสอบสวน