หนุ่มโวย ขับรถออสตินฯมา 6 ปี ถูกยึดรถตรวจ อ้างสวมทะเบียน

หนุ่มโวย ขับรถออสตินฯมา 6 ปี ถูกยึดรถตรวจ อ้างสวมทะเบียน

หนุ่มโวย ขับรถออสตินฯมา 6 ปี ถูกยึดรถตรวจ อ้างสวมทะเบียน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (26 ธ.ค.) เมื่อเวลา 20.30 น. ได้รับแจ้งว่ามีเจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากร ได้ทำการยึดรถยนต์ยี่ห้อออสติน มินิคูเปอร์ ไว้และได้เกิดมีปากเสียงกับทางเจ้าของรถครอบครอง อยู่ที่ สภ.เมืองชุมพร จึงเดินทางไปตรวจสอบ

 พบรถยนต์ยี่ห้อออสติน มินิคูเปอร์ ตัวรถสีฟ้า หลังคาสีขาว หมายทะเบียน  กค 5834 ชุมพร จอดอยู่บริเวณด้านหน้าของ สภ.เมืองชุมพร ส่วนบนโรงพักพบ นายพงศ์ธร อายุ 36 ปี  กำลังโต้แย้งกับทางนายณรงค์ธัช บำรุงธรรม นักวิชาการศุลกากรชำนาญการ และเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากร ได้ยึดรถออสตินคันดังกล่าวไว้ โดยอ้างว่า จะนำไปตรวจสอบสอบที่กรม เนื่องจากได้รับแจ้งจากสายว่ารถคันนี้เป็นรถผิดกฎหมาย ที่สวมทะเบียนคันอื่น

 โดย นายพงศ์ธร พันธ์รักษ์เดชา เจ้าของรถออสติน เปิดเผยว่า เมื่อปี พ.ศ.2554 ตนเองได้ซื้อรถคันดังกล่าวมาจาก นายรัฐศักดิ์ อายุ 32 ปี โดยขณะนั้นรถคันนี้เดิมเป็นสีดำ คาดขาว เป็นเงินจำนวน 3 แสน 5 หมื่นบาท ซึ่งรถตอนนั้นอยู่ในสภาพทรุดโทรมพอประมาณ และตอนที่ซื้อขายตนพร้อมเจ้าของคนขายเดิมได้มาทำโอนรถซื้อขายให้กันอย่างถูกต้อง ณ ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดชุมพรและทางเจ้าหน้าที่ขนส่งก็มีการตรวจสอบทุกขั้นตอน จึงทำการจ่ายเงินและโอนชื่อมาเป็นของตนอย่างถูกต้องตามกระบวนการทางกฎหมาย

 นายพงศ์ธร กล่าวต่อว่า ตนเองได้ใช้รถคันเจ้าปัญหามาประมาณเกือบ 7 ปี และตลอดทุกปีที่ผ่านมา ตนได้นำรถไปจดต่อภาษีที่สำนักงานขนส่ง ได้ทุกปี จนกระทั่งเมื่อประมาณต้นปี ตนเองเห็นว่ารถอยู่ในสภาพเก่ามาก ประกอบกับต้องการขาย จึงได้นำรถไปทำสีใหม่ โดยเปลี่ยนใหม่เป็นสีฟ้า คาดขาวบนหลังคา และกำลังจะนำไปจดเสียภาษีของปี 2559 ที่พักทำสีและต่อภาษีของ 2560 พร้อมแจ้งเปลี่ยนสีใหม่ ซึ่งก็จะทำตามระเบียบกฎหมายทุกอย่าง

จนกระทั่งวันนี้ ทางกรมศุลกากรชุดดังกล่าว ได้โทรมาในลักษณะติดต่อล่อว่าจะขอซื้อ โดยนัดออกมาพบกันริมถนนบริเวณใกล้ศูนย์ราชการ แต่พอตนเองได้นำรถพร้อมนำเอกสารมาให้ดู ชุดนี้ก็แสดงตนว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมศุลกากร พร้อมอ้างว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถผิดกฎหมาย ที่ลักลอบนำเข้าและมาสวมทะเบียน จึงขอยึดรถไว้เพื่อนำไปตรวจสอบที่กรมศุลกากร กรุงเทพมหานคร

ซึ่งตนก็ได้โต้แย้งพร้อมแสดงความบริสุทธิ์ใจของที่มาที่ไปรถคันดังกล่าว แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่สนใจจะยึดรถอย่างเดียวพร้อมเสนอว่า หากไม่มากเรื่องก็ขอยึดไปโดยไม่พบผู้ครอบครอง แต่หากว่ามีผู้ครอบครองแสดงตนก็จะมากเรื่อง จะต้องถูกตรวจสอบและสอบสวนหาที่มาที่ไปของรถได้มาอย่างไร แต่ที่สำคัญใครแสดงตนคนนั้นก็มีความผิด

 “ผมเห็นว่าเรื่องดังกล่าว ถือว่าบริสุทธิ์ใจ ทุกอย่างทำถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ว่าการโอน การต่อทะเบียน คู่มือประจำรถ ทุกอย่างกระทำที่สำนักงานขนส่งจังหวัดชุมพรตลอด จึงแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ไปหากจะนำรถไปตรวจสอบก็ต้องกระทำอย่างถูกต้อง  โดยมาบันทึกที่ สภ.เมือง เพื่อให้ทางตำรวจได้รับรู้เรื่อง

และเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจของผมเองที่ไม่ได้ขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ผมต้องการความถูกต้อง และเรื่องนี้หากถูกยัดข้อหาว่ากระทำผิด ผมก็จะเรียกร้องขอความเป็นธรรมและฟ้องร้องทางสำนักงานขนส่งจังหวัดชุมพร ที่ไม่ตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนว่ารถออสตินคันนี้ถูกกฎหมายหรือไม่" นายพงศ์ธร กล่าว

ด้าน นายณรงค์ธัช บำรุงธรรม ตำแหน่งนักวิชาการศุลกากรชำนาญการ กรมศุลกากร ได้อ้างว่า การลงมาตรวจยึดรถคันนี้ สืบเนื่องมาจาก มีผู้แจ้งไปยังกรมว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถที่ผิดกฎหมาย นำเข้าแล้วนำมาสวมทะเบียน จึงได้มาทำการยึดเพื่อนำไปตรวจสอบ แต่ผู้ที่ครอบครองนั้นหากยังไม่พิสูจน์จนแล้วเสร็จก็ยังถือว่าไม่ใช่ผู้กระทำผิด และหากพบว่าผิดจริง ก็จะดำเนินคดีกับผู้ครอบครองต่อไป

เรื่องที่มีการซื้อขายและมีเอกสารนั้น ต้องให้ทางเจ้าของไปดำเนินกับทางผู้ขายและฟ้องร้องกับทางสำนักงานขนส่งเอง ทางกรมฯจะไม่ก้าวล่วงไปในหน่วยงานอื่น จะดำเนินการเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องของกรมเท่านั้นว่านำเข้าโดยเลี่ยงภาษีศุลกากรหรือไม่อย่างไร

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook