ปธ.ศาลฎีกาตั้งเป้าปี60ระบบความยุติธรรมรวดเร็ว

ปธ.ศาลฎีกาตั้งเป้าปี60ระบบความยุติธรรมรวดเร็ว

ปธ.ศาลฎีกาตั้งเป้าปี60ระบบความยุติธรรมรวดเร็ว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ประธานศาลฎีกา ระบุ เป้าหมายปี 60 ระบบความยุติธรรมต้องรวดเร็วภายใต้หลักนิติธรรม

นายวีระพล ตั้งสุวรรณ ประธานศาลฎีกา กล่าวว่า ตลอดปีที่ผ่านมา ศาลยุติธรรมในฐานะสถาบันที่ใช้อำนาจอธิปไตยทางตุลาการได้ปฏิบัติหน้าที่อำนวยความยุติธรรม โดยยึดมั่นในหลักนิติธรรม ยังตระหนักดีว่าการอำนวยความยุติธรรมที่ล่าช้า ก็คือการปฏิเสธความยุติธรรม ดังนั้น ทุกครั้งที่ออกไปตรวจราชการยังศาลต่าง ๆ ตนจึงได้ให้ความสำคัญกับการพิจารณาพิพากษาคดีให้แล้วเสร็จโดยเร็วในเวลาที่เหมาะสม โดยเฉพาะในศาลฎีกา ซึ่งเป็นศาลสูงสุดของประเทศ และเป็นศาลสุดท้ายที่จะตัดสินคดีให้ความเป็นธรรมแก่ประชาชน แม้คดีจะมีความยุ่งยากสลับซับซ้อน มีพยานหลักฐานเป็นอันมาก แต่ผู้พิพากษาในศาลฎีกา ซึ่งมีอยู่เพียง 148 คน แต่มีปริมาณคดีที่หลั่งไหลเข้าสู่การพิจารณาพิพากษาของศาลฎีกา จากศาลชั้นต้นและศาลชั้นอุทธรณ์ทั่วประเทศกว่า 10,000 คดีต่อปี 
และยังมีคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ปีหนึ่ง ๆ จะเข้าสู่การพิจารณาพิพากษาของศาลฎีกาฯ ประมาณ 200 คดี โดยแต่ละคดีจะต้องมีผู้พิพากษาในศาลฎีกาพิจารณาพิพากษาคดีนั้นจำนวน 9 คน หากลองคำนวณดู เท่ากับต้องใช้ผู้พิพากษาในศาลฎีกาที่ไม่ซ้ำคดีกันถึง 1,800 คน นับเป็นภาระที่หนักหนาพอสมควร แต่ศาลฎีกาต้องทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถต่อไป

ประธานศาลฎีกา กล่าวย้ำว่าในปี 2560 ศาลยุติธรรมดำรงอยู่เป็นเสาหลักในการอำนวยความยุติธรรมให้แก่สังคมไทยมาเป็นระยะเวลาจะครบ 135 ปี และยังคงมุ่งมั่นตั้งใจที่จะปฏิบัติหน้าที่ในการอำนวยความยุติธรรมและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างเต็มความสามารถ ยึดมั่นในหลักนิติธรรม ความถูกต้องชอบธรรม ซื่อสัตย์สุจริต และปราศจากอคติ เพื่อให้ศาลยุติธรรมเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชนสืบไป


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook