พระเจ้าอยู่หัวร.10 ทรงห่วงใยปชช. ประสบภัยน้ำท่วมใต้
นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่เยี่ยมประชาชน อ.ระแงะ ระบุ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่10 ทรงห่วงใย พสกนิกรที่ประสบอุทกภัยภาคใต้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เดินทางพร้อมคณะ เดินทางที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอระแงะ จ.นราธิวาส พร้อมกล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ทรงห่วงใยพสกนิกรทุกคนที่ต้องประสบกับอุทกภัยเป็นอย่างมาก ตนเองนำทีมคณะรัฐมนตรี เดินทางมาในครั้งนี้ มาด้วยใจเต็มร้อย และจะกลับด้วยใจที่เต็มร้อยเช่นกัน หลังจากนั้นได้มอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบอุทกภัยทั้งไทยพุทธและไทยมุสลิมรวม 2,000 คน เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจและบรรเทาความเดือดร้อน สร้างความดีอกดีใจแก่ชาว อ.ระแงะ เป็นอย่างมาก เนื่องจากครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้นำของรัฐบาลลงพื้นที่เพื่อพบปะและให้กำลังใจแก่ชาว อ.ระแงะ ในยามที่เกิดอุทกภัย
ทั้งนี้ นายอรุณ ศรีใส นายอำเภอระแงะ ระบุว่าตั้งแต่ห้วงระยะเวลาวันที่ 19 ธ.ค.59 ถึงวันที่ 3 ม.ค.60 ที่ผ่านมา พบว่าบ้านเรือนของราษฎรได้รับผลกระทบจากอุทกภัยรวม 5 ครั้ง จำนวน 7 ตำบล ประกอบด้วย ต.ตันหยงมัส ต.ตันหยงลิมอ ต.มะรือโบตก ต.กาลิซา ต.บองอ ต.บาโงสะโตและ ต.เฉลิม รวม 61 หมู่บ้าน มีผู้ได้รับผลกระทบจำนวน 3,176 ครัวเรือน รวม 9,528 คน โดยมีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นเด็กหญิงอายุ 10 ปี ชื่อ ด.ญ.ซีลียา ยะโก๊ะ อยู่บ้านเลขที่ 75 ม.6 ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ โดยความช่วยเหลือที่ผ่านมา ทางศูนย์ปฏิบัติการ อ.ระแงะ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการเข้าไปให้ความช่วยเหลือด้วยการแจกถุงยังชีพ ประมาณ 9,800 ชุด ข้าวกล่อง 2,600 กล่องและน้ำดื่มอีก 2,600 ขวด
ท่วมนครศรีฯหนักสุดรอบ50ปี-7หมื่นกว่าคนทุกข์
สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดนครศรีธรรมราช ในวันนี้ ได้เข้าสู่ภาวะวิกฤตสุดขีดแล้ว โดยน้ำได้ท่วมแล้ว 17 อำเภอ 98 ตำบล 621 หมู่บ้าน ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 7 หมื่นคน และล่าสุดในเขตเทศบาลนครศรีธรรมราช และอำเภอเมืองได้มีน้ำไหลทะลักเข้าท่วมเกือบทั้งเขตโดยเฉพาะย่านเศรษฐกิจ การค้าบนถนนสายหลักแทบทุกสายไม่สามารถสัญจรไปมาได้เนื่องจากมีระดับน้ำท่วมสูงโดยเฉพาะที่รพ.มหาราช ระดับน้ำสูงเกือบเมตรได้มีการเฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ การสัญจรต้องใช้รถยกสูงและเรือเท่านั้น
ขณะที่ ผู้สื่อข่าวไม่สามารถเดินทางเข้าไปยังตัวเมืองชั้นในได้ ซึ่งปัญหาใหญ่ในขณะนี้มีชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบไม่สามารถอพยพออกจากบ้านมายังที่ปลอดภัยได้จำนวนมากทั้งในพื้นที่ อ.ชะอวด , เชียรใหญ่ และเขต อ.เมือง การช่วยเหลือไม่สามารถทำได้ทั่วถึงเนื่องจำนวนเรือท้องแบนมีไม่เพียงพอ
ส่วนรอบนอกของอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ยังคงเต็มไปด้วยน้ำหลากเข้าท่วมในเขตตัวเมืองนครศรีธรรมราชอย่างต่อเนื่อง จนถึงขณะนี้ระดับน้ำในตัวเมืองยังคงเพิ่มขึ้นการเข้าถึงตัวเมืองเป็นไปอย่างยากลำบาก โดยเฉพาะในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ระดับน้ำท่วมเต็มพื้นที่หลายจุดประชาชนอยู่ในสภาพมิดหลังคาเช่นชุมชนบ่อทรัพย์ ชุมชนบางงัน ชุมชนท่าโพธิ์ การช่วยเหลือเป็นอย่างอยากลำบาก เนื่องจากระดับน้ำที่ท่วมสูง เช่นเดียวกับอีกหลายอำเภอเช่นอำเภอนบพิตำ ยังไม่สามารถเข้าให้การช่วยเหลือได้ เนื่องจากเส้นทางขาดและเฮลิคอปเตอร์ไม่สามารถขึ้นบินได้โดยสถานการณ์ขณะนี้อาจร้ายแรงที่สุดในรอบ 50 ปี