นครศรีฯยังท่วมหนักรองปลัดมท.ลุยประสานช่วย

นครศรีฯยังท่วมหนักรองปลัดมท.ลุยประสานช่วย

นครศรีฯยังท่วมหนักรองปลัดมท.ลุยประสานช่วย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงศูนย์ปภ.เขต 11 สุราษฏร์ วันนี้ บูรณาการทุกภาคส่วนเร่งช่วยเหลือ ขณะนครศรียังท่วมหนักสุด ขณะที่ ทร. ส่งเรือหลวงอ่างทอง พร้อมอากาศยานและเรือผลักดันน้ำ ลงใต้ช่วยภัยน้ำท่วม

นายประยูร รัตนเสนีย์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้กำกับควบคุมพื้นที่กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ส่วนหน้า) ในศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เขต 11 สุราษฏร์ธานี และ เขต 12 สงขลา เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า อุทกภัยภาคใต้ครั้งนี้รุนแรงมาก ส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง พื้นที่ที่หนักที่สุดคือจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยในวันนี้ (7 ม.ค.) จะลงพื้นที่ สุราษฏร์ธานี ซึ่งเป็นที่ตั้งศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เขต 11 ซึ่งดูแลพื้นที่ จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และ พัทลุง โดยการทำงานนั้นจะบูรณการทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตนเองจะเหมือนเป็นคนคอยประสานความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอุปกรณ์ความช่วยเหลือต่างๆ รวมทั้งประสานกับศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เขต 12จังหวัด ที่ดูแล จ.สงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา นราธิวาส  เพื่อร่วมกันแก้ไขบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนเร็วที่สุด  อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องคำนึงมากที่สุดคือเรื่องความปลอดภัยของประชาชน รวมไปถึงเรื่องของอาหารการกิน และที่พักพิงต้องไม่ให้ชาวบ้านขาดในสิ่งเหล่านี้เด็ดขาด

ทั้งนี้เนื่องจากสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้ยังรุนแรงต่อเนื่อง ทางกระทรวงมหาดไทยได้จัดตั้งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ส่วนหน้า) และมี ส่วนสนับสนุนการปฏิบัติงานในภาวะฉุกเฉิน (สปฉ.)


ทร.ส่งเรือดันน้ำลงใต้ช่วยภัยน้ำท่วม

ที่ท่าเทียบเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี นาวาโท คชพล งามชาลี ผู้บังคับการเรือหลวงอ่างทอง ได้มีการจัดเตรียมความพร้อมของเรือหลวงและกำลังพล พร้อมยุทโธปกรณ์ ออกไปช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยใน อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช โดยมีกำลังพลทหารจากหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) จำนวน 33 นาย และเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ทำอาหาร รวมถึง ชุดช่างอากาศยานและชุดปฏิบัติการพิเศษ มนุษย์กบ จำนวน 2 ชุด เข้าร่วมสมทบไปกับเรือ ซึ่งเรือหลวงอ่างทองได้แล่นออกจากท่าเวลา 02.00 น. ไปอู่ทหารเรือพระจุลจอมเกล้า กรมอู่ทหารเรือ อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อทำการ ลำเลียงเรือผลักดันน้ำ จำนวน 20 เครื่อง  พร้อมรับ เฮลิคอปเตอร์ แบบซูเปอร์ลิงซ์และอุปกรณ์และกำลังพลช่วยผู้ประสบภัย ทั้งนี้ ในเวลา 16.00 น. จะแล่นไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช  และเข้าทำการช่วยเหลือซึ่งเรือจะถึงบริเวณดังกล่าว ในเวลา 16.00 น. ของวันอาทิตย์ที่ 8 ม.ค.59 จนกว่า สถานการณ์น้ำท่วมจะคลี่คลาย

โดย นาวาโท คชพล งามชาลี ผู้บังคับการเรือหลวงอ่างทอง  กล่าวว่า ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้สั่งการ ให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ จัดส่งเรือหลวงอ่างทอง ซึ่งเป็นเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ พร้อมเฮลิคอปเตอร์ และจะลำเลียงเรือผลักดันน้ำ 20 เครื่อง เดินทางลงพื้นที่ เพื่อนำเรือผลักดันน้ำไปช่วยผลักดันน้ำลงสู่ทะเล และเรือหลวงอ่างทอง จะเป็นฐานปฏิบัติการในการให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัย โดยใช้เฮลิคอปเตอร์ที่อยู่ประจำเรือในการลำเลียงส่งสิ่งของ และอาหารส่งให้ถึงประชาชนผู้ประสบภัยได้อย่างทั่วถึง และให้ความช่วยเหลือได้ทันท่วงที




แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook