คุม2ผตห.ฆ่านศ.ชิงไอโฟนฝากขังศาล-ตร.ค้านประกัน

ตำรวจโคกคราม คุม 2 ผู้ต้องหา ฆ่าโหด อดีตบัณฑิตฯ มศว. ฝากขังศาลอาญาแล้ว ขณะที่ ตร. ค้านประกัน ยัน เร่งคดีส่งฟ้อง

ที่ ศาลอาญา รัชดาภิเษก เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โคกคราม ได้คุมตัว นายกิตติกร วิกาหะ หรือ ตั้ม อายุ 26 ปี และนายสพัฒชัย จันทร์ศรี อายุ 25 ปี คนขี่จักรยานยนต์ ผู้ต้องหาร่วมก่อเหตุใช้มีดแทง นายวศิน เหลืองแจ่ม หรือ มะปิน อดีตบัณฑิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) จนเสียชีวิต เพื่อชิงโทรศัพท์ไอโฟน 1 เครื่อง บริเวณปากซอยสุคนธสวัสดิ์ 27 เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา มาขออำนาจศาลฝากขังผลัดเเรกเเล้ว

และล่าสุด ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ซึ่งต้องติดตามว่าจะสามารถฝากขังในวันนี้ได้เลยหรือไม่ เนื่องจากเป็นคดีอุจฉกรรณ์สะเทือนขวัญ อีกทั้งมีอัตราโทษสูง 

ทั้งนี้ มีสื่อมวลชนจำนวนมากให้ความสนใจมาติดตามการทำข่าวในวันนี้ เนื่องจากเป็นเหตุที่สังคมให้ความสนใจเป็นอย่างมาก 

ตร. ยัน เร่งคดีส่งฟ้องมือมีดฆ่าโหดนศ. มศว.

พ.ต.อ.สราวุธ จินดาคำ รอง ผบก.น. 2 รรท. ผกก.สน.โคกครม เปิดเผยกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหา ที่ก่อเหตุชิงทรัพย์โทรศัพท์ไอโฟน 1 เครื่อง ของนายวศิน เหลืองแจ่ม หรือ มะปิน อดีตบัณฑิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) เมื่อวันที่ 4 มกราคม ที่ผ่านมา บริเวณปากซอยสุคนธสวัสดิ์ 27 จนเป็นเหตุให้ นายวศิน เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ซึ่งการฝากขังวันนี้ จะดำเนินการให้เเล้วเสร็จภายใน 12.00 น.

นอกจากนี้ พ.ต.อ.สราวุธ ยังเปิดเผยอีกว่า การยื่นประกันตัวนั้น เป็นสิทธิของผู้ต้องหา เเต่คาดว่าในคดีนี้ไม่มีผู้มายื่นประกันตัวเเน่นอน ซึ่งหากมีการยื่นขอประกันจะคัดค้านการประกันทันที 

อย่างไรก็ดี หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานทั้ง พยานบุคล วัตถุ เเละ นิติวิทยาศาสตร์ อย่างรัดกุมที่สุด เเละรีบส่งฟ้องต่ออัยการให้เร็วที่สุดตามนโยบายของ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีสะเทีอนขวัญ

2มือฆ่าบัณฑิตมศว นอนคุกไร้ญาติยื่นประกัน 

ความคืบหน้าหลัง พนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ควบคุมตัว นายกิตติกร หรือต้อม วิกาหะ อายุ 26 ปี และนายสุพัฒชัย หรือเอ็กซ์ จันทร์ศรี อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาคดีฆ่าชิงทรัพย์โทรศัพท์ไอโฟนของบัณฑิตหนุ่มจาก มศว มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 7 - 18 ม.ค.นี้ เนื่องจากพนักงานสอบสวน จะต้องสอบปากคำพยานอีก 7 ปาก และรอผลการตรวจสอบประวัติอาชญากร ผู้ต้องหา กับรอผลการตรวจสอบของกลาง โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการให้ประกันด้วย เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ อัตราโทษสูง และผู้ต้องหา ได้ก่อเหตุลักษณะเดียวกันนี้อีกหลายคดี เกรงว่า หากได้รับการประกันตัวจะหลบหนี และไปก่อเหตุซ้ำอีก โดยศาลพิจารณาคำร้อง และสอบถามผู้ต้องหาแล้ว ไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้ 

โดย ภายหลังการยื่นคำร้องฝากขังแล้ว ไม่มีญาติมายื่นคำร้อง และหลักทรัพย์ขอประกันตัวผู้ต้องหาทั้งสองแต่อย่างใด  เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงนำตัวไปคุมขังไว้ที่เรือนจำพิเศษฯต่อไป