นนท์ ภูดิศครั้งแรกในชีวิตผ่านละครเวทีครอบครู

นนท์ ภูดิศครั้งแรกในชีวิตผ่านละครเวทีครอบครู

นนท์ ภูดิศครั้งแรกในชีวิตผ่านละครเวทีครอบครู
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ครั้งแรกในชีวิต!!! นนท์ ภูดิศ เป็นเกียรติได้ถ่ายทอดเรื่องราวนาฏศิลป์ผ่านละครเวที “ครอบครู”

นนท์-ภูดิศ สุริยวงศ์ หนุ่มหัวฟูที่มีคาแร็กเตอร์ชัดเจน รั้งตำแหน่งดารานักแสดงมากความสามารถ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงสุดเมื่อถูกทาบทามให้มารับบท “สม” ในละครเวทีเทิดพระเกียรติเรื่อง “ครอบครู” ที่จัดโดย สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกับ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จัดแสดงละครเวทีเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้เกิดเสียงแห่งความจงรักภักดีก้องดังภายในหัวใจของชาวไทย จึงได้นำเหตุการณ์พระราชพิธีพระราชทานครอบประธานประกอบพิธีไหว้ครูโขน - ละครนี้ มาจัดแสดงเป็นละครเวทีสื่อผสมเฉลิมพระเกียติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ในโครงการ Sound of Love : เสียงแห่งความจงรักภักดี เพื่อให้ประชาชนชาวไทยตลอดจนนิสิตนักศึกษา ซึ่งเป็นยุวชน ได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อัครศิลปินของปวงชนชาวไทย

หนุ่มนนท์เป็นนักแสดงและประชาชนคนหนึ่งที่รักพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ เป็นอย่างมาก เคยได้เข้าร่วมกิจกรรมเทิดพระเกียรติอยู่หลายครั้งหลายครา และครั้งนี้ถือเป็นการ “ถวายงาน” ที่เจ้าตัวรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้กับการแสดงละครเวทีเต็มตัวครั้งแรกในชีวิต!!!

“ครอบครูเป็นละครเวทีเรื่องแรกในชีวิตของผมเลยครับ เล่นละครมาแล้วบทก็แตกต่างกันไป ก็เลยไม่กลัวครับ ถือว่าเปิดซิงเลยก็ว่าได้ จริง ๆ ผมชอบละครเวทีนะครับ ชอบดู และเคยคิดเล่น ๆ ไว้ว่า ถ้าได้ลองเล่นสักหน่อยก็คงจะสนุก แล้ววันนี้ก็มีโอกาสได้เล่นจริง ๆ”

แล้วมาเล่นละครเรื่องนี้ได้อย่างไร

“จากคำชักชวนของครูหนุ่ม ผศ.ดร.กิตติศักดิ์ เกิดอรุณสุขศรี ซึ่งท่านเป็นพ่องานของเรื่องนี้ ตอนแรกติดต่อมาให้มาเจอกับ ครูบิ๊ก-ดำเกิง ผู้กำกับฯ และ ครูศิรเมศร์ ผู้ช่วยผู้กำกับฯ ซึ่งวันนั้นครูทั้งสอง ก็พูดคุยถึงเรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับละครเวทีบ้างไม่เกี่ยวบ้าง จนทำให้ทราบว่าครูบิ๊กเคยเขียนบทหนังเรื่องแรกที่ผมเคยเล่น “รูมเมท” ก็ยิ่งดีใจครับพรมลิขิตแน่ ๆ ในวันนั้นครูก็ให้ผมเข้าไปเวิร์คช็อปรำและการแสดง ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรครับ 

ถามว่าอยากเล่นไหม ด้วยเนื้อเรื่องน่าสนใจมาก ผมว่าเป็นเรื่องที่ดาราคนไหนก็อยากที่จะเล่นทุกคนครับ แต่ด้วยตัวเองก็ไม่เคยรำมาก่อน แถมละครเวทีก็ไม่เคยเล่นเลย สิ่งที่ทำได้ก็คือ ทำตามทุกอย่าง จนอีกวันหนึ่ง ผู้กำกับฯ บอกว่าได้เล่น ผมถามว่าจริงเหรอครับ เอาผมจริงนะ อยู่ประมาณ 3 รอบได้ ทำไมเหรอ? ก็ดีใจซิคับ รู้สึกเป็นเกียรติมาก ๆ เพราะเท่าที่รู้ทางกองละครเวทีหาตัวพระอยู่สักระยะแล้ว ดูดาราไว้ 2-3 คน ก็ถือว่าเป็นเรื่องราวดี ๆ ในชีวิตของผมเลย”

บทที่ได้รับคงยากน่าดู เพราะต้องเป็นตัวละครที่ต้องรำเก่งมาก

“ใช่ครับ จริง ๆ จะว่ายากก็ยากครับ เพราะต้องเล่นเป็นคนที่รำเก่ง เรียกว่าขมังเลยดีกว่าก็ต้องฝึกรำอย่างหนัก แต่อันนี้ผ่านไปได้เพราะครูอาจารย์ที่มาสอนเก่ง ๆ ทั้งนั้น เรียกได้ว่ารวมครูโขน ครูละครมาเลยทีเดียว ส่วนในด้านการแสดงก็ไม่ได้ติดปัญหาอะไรเลยครับ ปรับนิดหน่อย ในตอนแรกเจอคำที่ใช้ในสมัยนั้นที่พูดยาก พอเราฝึกบ่อย ๆ ก็ชินครับ”

มีโอกาสได้ร่วมงานกับคนใหม่ ๆ ด้วย

“ถ้านอกเหนือจากทีมงานแล้วก็มีนางเอก กับนักแสดงคนอื่น ๆ ครับ มี แป้ง-พิจิตร กองสอน แป้งเขารำเก่ง แค่นั่งตัวก็งอนเป็นตัวเอสเลย มารับบทเป็นนางเอกเหมาะกับเขาแล้วครับ เข้าด้วยกันก็ไม่ยากคับ ปรับ ๆ ก็โอเค  และยังมีศิลปินครูโขนละคร, แม่เพลง แม่แหง่ แม่บัว และอีกหลายคนครับ อันนี้ก็น่ารักทุกคนครับ เป็นห่วงเป็นใยผมตลอด เรียกว่าอบอุ่นมาก ๆ ครับ”

เป็นความท้าทายในชีวิตการแสดงของเรามากน้อยแค่ไหน

“ท้าทายมาก ๆ ครับ แต่ในความท้าทายมันมีหลายอารมณ์ ทั้งเป็นเกียรติที่ได้ถวายงานให้ในหลวง รัชกาลที่ ๙ อีกครั้ง ทั้งสนุกที่ต้องเจออะไรท้าทาย มีความสุขทุก ๆ ครั้งที่ได้มาซ้อม ทั้ง ๆ ที่เรางานเยอะ วิ่งรอกจากที่ชอบขับรถเอง ทุกวันนี้ BTS ต่อมอเตอร์ไซด์รับจ้าง  MRT ต่อไปไหนรู้หมดแล้วครับ แต่ก็มีความสุขในการทำงานครั้งนี้ครับ”

ฝึกรำอยู่นานไหม และต้องซ้อมหนักแค่ไหน

“ผมเริ่มซ้อมมาตั้งแต่พฤศจิกายนปีที่แล้วครับ แล้วก็ซ้อมมาเรื่อย ๆ แต่จะเพิ่มความหนักขึ้นในทุก ๆ ขณะที่ใกล้เข้ามา เพราะมันมีเทคนิค แสง สี เสียง ได้ข่าวว่าอีกนิดจะมีสลิง จับผมห้อยมาด้วย แต่ผมมั่นใจในครูบาอาจารย์ครับ ทั้งครูสอนการแสดง และสอนรำ เพราะทุกคนเก่งหมดเลย ทั้งแม่แหง่ แม่บัว ครูหนุ่ม ครูดอส และเหล่าอาจารย์จากกรมศิลปากร 

ส่วนเรื่องการแสดงมีครูบิ๊ก ครูศิระ ถือว่าเราโชคดีที่ได้เล่นทั้งละครเวทีและได้วิชาด้วย”

เนื้อหาของเรื่องเป็นอย่างไร เล่าถึงเรื่องราวแบบไหน

“เนื้อหาของเรื่องดัดแปลงมาจากประวัติคุณครูอาคม สายาคม อดีตผู้เชี่ยวชาญนาฏศิลป์ไทย กรมศิลปากร  ซึ่งฝ่าฟันชีวิตต่าง ๆ อย่างมากมาย ท่านได้ต่อสู้เพื่อรักและความฝันในศิลป์ด้านโขนละคร จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ สู่ยุคประชาธิปไตย จนกระทั่งได้รับเกียรติสูงสุขจากในหลวง รัชกาลที่ ๙ ให้เป็นประธานพิธีครอบครู นาฏศิลป์ของกรมศิลปากร และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นผู้ครอบถวาย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ครับ”

คิดว่าคนดูจะได้รับอะไรจากละครเวทีเรื่องนี้

“ทุกคนจะได้ฟังเสียงที่ทุกคนไม่เคยได้ยิน พระราชกรณียกิจที่เริ่มลืมเลือนหายไป การต่อสู้ของความรักและความฝันเพื่อมรดกของลูกหลานเพื่อแผ่นดินของเรา และด้วยพระบารมีที่แผ่ไพศาลของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่พระองค์ทรงใส่พระราชหฤทัยในศิลปะประเพณีโขนละคร ซึ่งจะเห็นได้ว่าพระองค์มองเห็นทุกอย่างแม่แต่สิ่งเล็ก ๆ เท่าธุลีดิน พระองค์ทรงมีพระวิสัยทัศน์กว้างไกลและยาวไกลมาก ชุบชีวิตวงการโขนละครรำ ทำให้วงการโขนละครรำได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง”

ฝากทิ้งท้ายและเชิญชวนคนไทยไปชมละครเวทีเรื่องนี้กัน

ผมอยากขอเชิญชวนให้คนไทยทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย มาฟังเสียงแห่งความรักสัมผัสกับละครเวทีเรื่อง sounds of love เรื่อง "ครอบครู" ซึ่งทางมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จัดให้ชมฟรี!!! ซึ่งละครเวทีเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จะจัดแสดง 3 รอบ ในวันที่  25-26 มกราคม 2560 ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ชมฟรี! สำรองที่นั่งได้ตามลิงค์นี้นะครับ http://soundsoflove.rmutp.ac.th/#/


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook