คุม2ผตห.ทีมอุ้มฆ่าทอมฝากขังผัดแรกค้านประกันตัว

พนักงานสอบสวนคุมตัว 2 ผู้ต้องหาแก๊งอุ้มฆ่าทอมสาว ฝากขังศาลจังหวัดตลิ่งชันผัดแรก พร้อมคัดค้านการประกันตัว ทางด้าน รอง ผบ.ตร. ไม่หนักใจ 2ใน3ทีมอุ้มฆ่าเป็นทหาร ขณะครอบครัวรับศพไปบำเพ็ญกุศลแล้ว

พ.ต.ท.อดิศร แก้วโหมดตาด พนักงานสอบสวน สน.หนองค้างพลู ได้นำตัว นายภูมิทัศน์ พิบูรณ์สวัสดิ์ อายุ 24 ปี ภูมิลำเนา จ.ราชบุรี และ น.ส.กรรณิกา กรุมรัมย์ อายุ 38 ปี สาวคนสนิทอดีต ผกก.สภ.บ้านโป่ง ภูมิลำเนากรุงเทพฯ ผู้ต้องหาร่วมกันฆ่า น.ส.สุภัคสรณ์ พลไธสง สาวหล่อ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน นับตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม - 24 มกราคม เนื่องจากยังต้องสอบพยานบุคคลอีก 12 ปาก รอผลการตรวจดีเอ็นเอในรถยนต์ของกลาง จากกองพิสูจน์หลักฐาน รอผลตรวจประวัติอาชญากร และรอรายงานการตรวจศพ ในท้ายคำร้อง พนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีนี้เป็นความผิดร้ายแรง มีอัตราโทษสูง ประกอบกับ การสอบสวนผู้ต้องหายังคงให้การภาคเสธ ไม่เป็นประโยชน์ต่อการสอบสวน กับทั้งผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลบหนี หากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว เชื่อว่าน่าจะหลบหนี เกรงจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน เพราะยังมีผู้ต้องหาที่เหลือที่เป็นผู้มีอิทธิพล และยังอยู่ระหว่างหลบหนี

โดยศาลได้พิจารณาคำร้องสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาได้

รองผบ.ตร.ไม่หนักใจ2ใน3ทีมอุ้มฆ่าทอมเป็นทหาร

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมายัง สถานีตำรวจนครบาลหนองค้างพลู เพื่อติดตามความคืบหน้า คดีการอุ้มฆ่าสาวหล่อ พร้อมดำเนินการตรวจสอบสำนวนคดี และมอบนโยบายการดำเนินการให้กับคณะทำงานในคดีนี้ เพื่อให้สามารถติดตามตัวต้องหาที่เหลือในคดีที่ยังหลบหนีอยู่ พร้อมยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีการออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องในคดีนี้เพิ่มเติม แต่กำชับให้ฝ่ายสืบสวนดำเนินการอย่างละเอียดรอบคอบ และหากพบว่ามีข้อมูลหลักฐานเชื่อมโยงถึงใครอีกก็ให้ดำเนินออกหมายจับเพิ่มเติมทันที

ส่วนที่มีข้อมูลว่า ในจำนวน 2 ผู้ต้องหาจาก 3 ราย ที่ยังหลบหนีขณะนี้ ที่เป็นข้าราชการกระทรวงกลาโหม ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ยืนยันว่า ไม่มีความหนักใจในการติดตามตัว เนื่องจากคณะทำงานในคดี มีหลักฐานและพยานอย่างชัดเจน รวมถึงยังมีหมายจับจากศาลแล้วด้วย ส่วนการประสานขอความร่วมมือกับต้นสังกัดของผู้ต้องหาทั้งสองราย ขณะนี้มีการประสานไปแล้ว และได้รับการร่วมมือเป็นอย่างดี เชื่อว่าจะสามารถได้ตัวผู้ต้องหาที่เหลือเร็ว ๆ นี้

ครอบครัวทอมสาวถูกอุ้มฆ่ารับศพเพื่อไปบำเพ็ญกุศลแล้ว

นางสมพิศ ตรัยจันทร์แดง มารดา พร้อมด้วย นายบุญชู พลไธสง และครอบครัว รับศพ น.ส.สุภัคสรณ์ พลไธสง ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ หลังถูกอุ้มหายไปเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2559 และขุดพบศพที่ จ.กาญจนบุรี เพื่อกลับไปบำเพ็ญกุศล ที่วัดคลองอีแตก ต.โคกปี่ฆ้อง อ.เมือง จ.สระแก้ว ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า

นางสมพิศ ระบุเพียงว่า ตัวเองรู้สึกเหนื่อยมาก ซึ่งมีท่าทางอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด โดยต้องมีผู้พยุงเดิน เนื่องจากมีโรคประจำตัวและเพิ่งเดินทางกลับมาจากสภาทนายความ เพื่อร้องขอความเป็นธรรมในการแต่งตั้งทนายความต่อสู้คดี 

ขณะที่ญาติของ น.ส.สุภัคสรณ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.สุภัคสรณ์ ได้สัญญากับ นางสมพิศ มารดา ว่าจะพาไปเที่ยว แต่เกิดเหตุขึ้นก่อน และเชื่อว่า น.ส.สุภัคสรณ์ พยายามสื่อสารกับครอบครัว เพราะอยากเดินทางกลับบ้าน 

ด้าน พล.ต.ต.นพ.พรชัย สุธีรคุณ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ระบุว่า ผลตรวจดีเอ็นเอ
ยืนยันว่าศพที่พบคือ น.ส.สุภัคสรณ์ จึงอนุญาตให้ญาตินำศพไปบำเพ็ญกุศล ส่วนผลตรวจอื่น ๆ จะต้องใช้ประมาณเวลา 1 สัปดาห์ ถึงจะทราบผล

ศาลไม่ให้ประกันตัว'ดาว'ร่วมทีมอุ้มสาวหล่อ

ภายหลังที่พนักงานสอบสวน สน.หนองค้างพูล ยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก นายภูมิทัศน์ หรือ อุ๋ม พิบูรณ์สวัสดิ์ อายุ 24 ปี ชาว จ.ราชบุรี และ น.ส.กรรณิกา หรือ ดาว กรุมรัมย์ อายุ 38 ปี ภูมิลำเนากรุงเทพฯ คนสนิทอดีต ผกก.สภ.บ้านโป่ง ผู้ต้องหาที่ 1-2 ตามหมายจับศาลตลิ่งชัน คดีร่วมกันอุ้มฆ่า น.ส.สุภัคสรณ์ พลไธสง สาวหล่อแล้ว 

ต่อมา นายคุ้ม กรุมรัมย์  บิดาของ น.ส.กรรณิกา ผู้ต้องหาที่ 2 ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดิน รวมมูลค่าหลักทรัพย์ทั้งหมด 523,045 บาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราว ระหว่างการฝากขังศาลจังหวัดตลิ่งชัน พิเคราะห์แล้วเห็นว่า พฤติการณ์การกระทำผิดของ น.ส.กกรณิกา ผู้ต้องหาที่ 2 เป็นเรื่องร้ายแรงและมีอัตราโทษสูง
หากอนุญาตปล่อยชั่วคราวเกรงว่าจะหลบหนีและอาจจะไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐานประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกัน ดังนั้นไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว จึงให้ยกคำร้องของผู้ต้องหา

สำหรับนายภูมิทัศน์ ผู้ต้องหาที่ 1 นั้น ไม่ปรากฏว่ามีญาติมายื่นขอประกันตัวแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จึงได้ควบคุมตัว นายภูมิทัศน์ ผู้ต้องหาที่ 1 เข้าเรือนจำพิเศษธนบุรี และ น.ส.กรรณิกา ผู้ต้องหาที่ 2 ไปคุมขังยังฑัณสถานหญิงธนบุรี