ผู้ว่าฯพิจิตรแจง งบพัฒนาบึงสีไฟ หลังอดีตทหารโวยผ่านสื่อ

ผู้ว่าฯพิจิตรแจง งบพัฒนาบึงสีไฟ หลังอดีตทหารโวยผ่านสื่อ

ผู้ว่าฯพิจิตรแจง งบพัฒนาบึงสีไฟ หลังอดีตทหารโวยผ่านสื่อ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร จัดแถลงข่าวการพัฒนาบึงสีไฟ ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่สำคัญของจังหวัด โดยมีผู้นำประชาชนนำดอกไม้มาให้กำลังใจจำนวนมาก หลังอดีตนายทหารใช้พื้นที่ข่าว สร้างความไม่เข้าใจให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดพิจิตร

วันที่ 16 มกราคม 2559 ที่ห้องหอประชุมอำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี  ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร  จัดแถลงข่าวการปรับปรุงพัฒนาบึงสีไฟให้กับผู้นำท้องถิ่น และ ผู้นำชุมชน ในจังหวัดพิจิตรจำนวนกว่า 500 คน  ได้รับทราบ ถึงแผนงานปรับปรุงพัฒนาบึงสีไฟ สร้างความเข้มแข็งและความยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจในประเทศ งบประมาณ จำนวน 817 ล้านบาท เพื่อทำการปรับปรุงและพัฒนาบึงสีไฟ ให้เป็นแหล่งกักเก็บน้ำ ตามแนวพระราชดำริ พร้อมเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดพิจิตร

แต่มีอดีตนายทหารรายหนึ่ง ใช้พื้นข่าวออกมาคัดค้านการของบประมาณดังกล่าว โดยหลังจากที่การแถลงข่าวเสร็จสิ้นลง ตัวแทนชาวจังหวัดพิจิตรได้ปรบมือลั่นห้องประชุม พร้อมทั้งมอบดอกไม้ให้กำลังใจกับผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรในการสนับสนุนการพัฒนาบึงสีไฟ โดยงบประมาณดังกล่าวต้องรอคณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณในวันพรุ่งนี้  (17 ม.ค. 60)

โดยนายวีระศักด์ วิจิตรแสงสี  ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร กล่าวว่าการของบประมาณ  โดยแบ่งออกเป็น 2 เฟส  เฟสแรก 517 ล้านบาท ใช้ในการพัฒนาปรับปรุงบึงสีไฟ เป็นแหล่งกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ ตามแนวพระราชดำริ  พร้อมปรับปรุงบริเวณบ่อจระเข้  ศาลาเก้าเหลี่ยม  โดยพัฒนาเป็นอควาเรี่ยม ซึ่งจะใช้ในการจัดแสดงจระเข้ โดยจะมีการรวบรวมจระเข้สายพันธุ์ต่างๆทั่วโลก เพื่อเป็นสถานที่ศึกษาจระเข้

พร้อมกับพัฒนาศาลาเก้าเหลี่ยมซึ่งเป็นสถานที่แสดงพันธุ์สัตว์น้ำให้มีความสวยงามและหลากหลายมากยิ่งขึ้น   รวมไปถึงพัฒนาปรับภูมิทัศน์ทั้งหมดให้มีความสวยงาม ส่วนเฟสที่ 2 งบประมาณ 300 ล้านใช้ในการปรับปรุงโดยรอบบึงสีไฟ เพิ่มช่องทางจักรยาน  ทางเดินเท้าสำหรับออกกำลังกาย  โดยไม่กระทบกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  เพื่อพัฒนาบึงสีไฟเป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างถาวร

สำหรับบึงสีไฟเป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่อันดับ 3 ของประเทศ มีเนื้อที่กว่า 5,000 ไร่ ในระยะเวลา 10 ปี ที่ผ่านมาประสบปัญหาทรุดโทรมเนื่องจากภัยธรรมชาติและขาดการดูแล  โดยเฉพาะเมื่อปี 2558-59 เป็นปีที่บึงสีไฟประสบปัญหามากที่สุด พื้นที่ทั้ง 5,000 ไร่ แห้งขอดจนไม่มีน้ำส่งผลกระทบกับพันธุ์สัตว์น้ำ ระบบนิเวศน์ภายในบึงถูกทำลาย เกิดไฟป่าภายในบึงสีไฟ  

ศาลาเก้าเหลี่ยม ซึ่งเป็นสถานที่แสดงพันธุ์สัตว์น้ำ  ศาลาทรงไทย ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของบึงสีไฟต้องปิดการใช้งานเนื่องจากทรุดโทรดจนอาจเป็นอันตรายกับประชาชนและนักท่อวงเที่ยว  สภาพบึงสีไฟไม่ต่างกับพื้นที่รกร้าง  การดำเนินโครงการพัฒนาบึงสีไฟอย่างเป็นระบบอีกครั้งจึงเป็นสิ่งที่เป็นความหวังของประชาชนในการฟื้นชีวิตบึงสีไฟเพื่อเป็นประโยชน์อย่างยั่งยืนต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook