นครศรีฯยังอ่วม5อำเภอท่วม50ซม.หวั่นฝนซ้ำอีกระลอก

นครศรีฯยังอ่วม5อำเภอท่วม50ซม.หวั่นฝนซ้ำอีกระลอก

นครศรีฯยังอ่วม5อำเภอท่วม50ซม.หวั่นฝนซ้ำอีกระลอก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

5 อำเภอนครศรีธรรมราช ยังอ่วม น้ำท่วม 40 - 50 ซม. หวั่นฝนซ้ำอีกระลอก ผู้ว่าฯ กำชับทุกหน่วยเตรียมความพร้อมทุกด้าน

นายณรงค์พร ณ พัทลุง ปลัดจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ขณะนี้ใน จ.นครศรีธรรมราช คงเหลือ 5 อำเภอ ที่ยังประสบปัญหาน้ำท่วมขังบริเวณลุ่มแม่น้ำปากพนัง ประกอบด้วย อ.เมือง (บางส่วน), ปากพนัง, เชียรใหญ่, เฉลิมพระเกียรติ และ ชะอวด วัดระดับน้ำสูงสุดประมาณ 40 - 50 เซนติเมตร เบื้องต้นพบสถานการณ์มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปริมาณน้ำค่อย ๆ ลดลง แต่ทั้งนี้หลายฝ่ายยังคงต้องจับตาปริมาณฝนหลังกรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศแจ้งเตือนว่าจะเกิดฝนตกหนักในวันที่ 25 ธ.ค. 2560 

ล่าสุด นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมทั้งอุปกรณ์เครื่องมือ, กำลังพล อาหาร และ น้ำดื่ม ไว้รองรับกรณีเกิดน้ำท่วมอีกระลอก สำหรับพื้นที่ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด หากเกิดอุทกภัย คือ อ.ปากพนัง, ชะอวด และ เชียรใหญ่ เพราะเป็นจุดที่มวลน้ำจากทางตอนเหนือจะมากองรวมกัน โดยหากเกิดภาวะทะเลหนุนสูงร่วมด้วย ก็จะทำให้น้ำระบายออกสู่ทะเลช้าและเน่าเสียสะสม จนกระทบกับชาวบ้านทั้งด้านการใช้ชีวิตประจำ รวมถึงสุขอนามัย


อ.ลุ่มแม่น้ำปัตตานี-สายบุรียังอ่วม

นายอำนาจ ผลมาตย์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปัตตานี (ปภ.ปัตตานี) กล่าวกับ สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า ขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยยังคงมีน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่  ซึ่งเป็นรอบที่ 3แล้ว และได้ประกาศพื้นที่เขตภัยพิบัติฉุกเฉินแล้ว 12 อำเภอ 103 ตำบล 493 หมู่บ้าน 7 ชุมชน รวมแล้วประมาณ 87,000 กว่าคน ที่ได้รับผลกระทบ กระจายอยู่ใน12 อำเภอ  คือ อำเภอเมืองปัตตานี อำเภอโคกโพธิ์ อำเภอหนองจิก อำเภอปะนาเระ อำเภอมายอ อำเภอทุ่งยางแดง อำเภอสายบุรี อำเภอไม้แก่น อำเภอยะหริ่ง อำเภอยะรัง อำเภอกะพ้อ อำเภอแม่ลาน  ส่วนที่ยังมีระดับน้ำสูงอยู่ในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำปัตตานี เช่น   อำเภอยะรัง  อำเภอแม่ลาน  อำเภอหนองจิก อำเภอเมืองปัตตานี ส่วน ลุ่มน้ำสายบุรี อย่าง อำเภอสายบุรี อำเภอกะพ้อ อำเภอไม้แก่น ยังประสบปัญหาอยู่ ทั้งนี้ปัจจัยหลักมาจากปริมาณฝนที่หนักมากใน 1-2 วันที่ผ่านมา นอกจากนี้แล้วยังต้องรับน้ำจากจังหวัดนราธิวาส และ จังหวัดยะลา มาสมบทบอีก ทำให้น้ำระบายออกได้ช้า คาดว่าถ้าไม่มีฝนเพิ่ม สถานการณ์น่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ ในปลายเดือน มกราคมนี้ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาทาง ปภ. ได้มีการแจ้งเตือน พร้อมกับเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเรือ ถุงยังชีพ ฯลฯ 


อ.สุไหงโก-ลกยังท่วมสูง60ซม.จับตาชุมชนริมน้ำ

นายปรีชา นวลน้อย นายอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เปิดเผยกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า สถานการณ์น้ำท่วมในเขต อ.สุไหงโก-ลก มีแนวโน้มดีขึ้น แต่ล่าสุดยังพบบางจุดประสบปัญหาน้ำท่วมขังอยู่ โดยเฉพาะชุมชนริมแม่น้ำโก-ลก ทั้ง 3 ตำบลของอำเภอ คือ ต.มูโนะ, สุไหงโก-ลก และ ปาเสมัส สาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำท่วมขังมาจากการที่ฝนตกต่อเนื่อง ทำให้มีมวลน้ำสะสมในแม่น้ำโก-ลกมาก จนระบายออกสู่ทะเลไม่ทัน ส่งผลให้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนประมาณ 50 - 60 เซนติเมตร ส่วนที่หมู่ 4 บ้านกูแบอีแก ต.ปูโยะ ก็พบว่า มวลน้ำจากป่าพรุโต๊ะแดง ได้ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ระดับน้ำสูง 50 - 60 เซนติเมตร เช่นกัน ภาพรวมทั้งอำเภอขณะนี้มีผู้ได้รับผลกระทบแล้วประมาณ 6,000 คน 

ทั้งนี้ จากการประเมินข้อมูลคาดว่าหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติม ภายใน 4 - 5 วัน ระดับน้ำของทุกจุดจะลดลงจนกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ทางกรมอุตุนิมยมวิทยา ได้ออกประกาศแจ้งเตือนให้เฝ้าระวังฝนระลอกใหม่ที่จะตกหนักในช่วง 1 - 2 วันนี้ ทำให้หลายฝ่ายต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ควบคู่กับการเตรียมความพร้อมรับมือในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการอพยพราษฎร, ปศุสัตว์ ออกจากจุดเสี่ยงไปอยู่ในที่ปลอดภัย รวมถึงการสำรองหญ้าแห้งไว้ อย่างไรก็ตาม นายปรีชา ระบุว่า พื้นที่ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษในส่วนของ อ.สุไหงโก-ลก คือ ตำบลซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำโก-ลก ทั้งหมด 


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook