นายกฯแจงปมโรสลส์รอยซ์ชี้ให้คค.ดูการบินไทย

นายกฯแจงปมโรสลส์รอยซ์ชี้ให้คค.ดูการบินไทย

นายกฯแจงปมโรสลส์รอยซ์ชี้ให้คค.ดูการบินไทย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกรัฐมนตรี แจงปมโรสลส์ - รอยซ์ ชี้ ให้ คค. ตรวจสอบองค์กรการบินไทยอยู่แล้ว ยัน รบ. พยายามปรับแก้การจัดซื้อจัดจ้างไม่ให้มีการทุจริตเกิดขึ้น - ชี้ให้เงินช่วยผู้ประสบอุทกภัยใต้ตามมาตรการเดิม

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้รัฐบาลเป็นเจ้าภาพในการตรวจสอบการติดสินบนของบริษัท โรลส์ - รอยซ์ ให้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ว่า รัฐบาลนี้อยู่ภายใต้การตรวจสอบ มีคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ตัดสินตามหลักฐาน วัตถุพยาน ซึ่งต้องมีการตรวจสอบ และรัฐบาลนี้ก็ถูกตรวจสอบจาก ป.ป.ช. รวมทั้งสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ก็มีการตรวจสอบเช่นกัน และหน่วยงานต่าง ๆ ก็ต้องมีการชี้แจงให้เข้าใจ 

ทั้งนี้ ในคดีดังกล่าว รัฐบาลมีหน้าที่ตรวจสอบอยู่แล้ว โดยให้กระทรวงคมนาคมตรวจสอบภายในองค์กร คือ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) รวมถึง ป.ป.ช. และ สตง. ก็จะทำหน้าที่ตรวจสอบเช่นกัน โดยจะดำเนินการลงโทษตามความผิด ซึ่งขณะนี้รัฐบาลก็พยายามอุดช่องโหว่ และปรับแก้เรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง ให้รัดกุมเพื่อไม่ให้มีการทุจริตเกิดขึ้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการปรับภูมิทัศน์ทำเนียบรัฐบาล โดยมีการนำอ่างบัวสี มาประดับที่บริเวณสวนหย่อม ทำเนียบรัฐบาล จำนวน 10 ใบ ว่า เป็นการปรับเปลี่ยน เพื่อความสวยงาม และเพื่อให้เป็นที่ประทับใจต่อแขกที่มาเยือน เนื่องจากทำเนียบรัฐบาล นั้น เป็นหน้าตาของประเทศ  อีกทั้งดอกบัวก็ถือเป็นพืชชั้นสูงที่นำมาใช้ในการไหว้พระ เพื่อความเป็นสิริมงคล และเพื่อเตือนสติว่าทุกคนจะต้องพัฒนาตัวเอง อย่าทำตัวเป็นบัวใต้น้ำ หรือเป็นอาหารเต่า และงูปลา

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ปฏิเสธเรื่องการปรับภูมิทัศน์ ทำเนียบรัฐบาล ว่า ไม่เกี่ยวกับการปรับฮวงจุ้ยแต่อย่างใด

นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ในวันพรุ่งนี้ (25 ม.ค.) จะมีการหารือทุกมิติทั้งความเสียหาย ช่วยเหลือผู้ประกอบการ เยียวยาฟื้นฟูจิตใจ ฝึกอาชีพ การจ่ายเงินทดแทนการว่างงาน จัดตั้งศูนย์อาชีวะซ่อมแซม ทีมแพทย์สาธารณสุขลงพื้นที่ และเปิดช่องทางไกล่เกลี่ยหนี้ เป็นต้น

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีการเพิ่มเงินเยียวยาให้กับผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ว่า รัฐบาลจะต้องช่วยเหลือตามมาตรการเดิมที่เคยมีอยู่แล้ว ซึ่งตามมติ ครม. คือ 3,000 บาท ส่วนนอกเหนือจากนี้ต้องพิจารณาทั้งเรื่องการเกษตร ประมง ปศุสัตว์ และระบบสาธารณูปโภคเพื่อให้ใช้งานได้ตามปกติ โดยขณะนี้มีสถานที่ราชการเสียหาย รวมถึงเส้นทางคมนาคม เส้นทางถนนชนบท และเส้นทางอื่นๆ กว่า 4,000 จุด แนวกันคลื่น 330 แห่ง และสนามบินสามารถใช้งานได้ตามปกติ 

ส่วนด้านการเกษตรนั้น ได้รับผลกระทบกว่า 1,000 ไร่ โดยพื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำกว่า 32,000 ไร่ ปศุสัตว์กว่า 88,000 ตัว และแปลงหญ้ากว่า 119,400 ไร่ ดังนั้นรัฐบาลต้องลงรายละเอียดในการช่วยเหลือ ที่ต้องพิจารณาว่า สามารถทำได้หรือไม่ตามกฏหมาย หากทำไม่ได้ต้องนำเข้าที่ประชุม ครม.เพื่อหางบประมาณต่อไป โดยให้กระทรวงการคลังไปดูเรื่องเงินทดลองราชการที่แต่ละจังหวัดเคยได้ 50 ล้านบาท และล่าสุดเพิ่มให้ 150 ล้านบาท รวมวงเงิน 200 ล้านบาท เพื่อเข้าไปช่วยเหลือขั้นพื้นฐานก่อนในการซ่อมแซมบ้านเรือนหลังน้ำลด 

นอกจากนี้ ยังมีมาตรการด้านภาษีนิติบุคลธรรมดา ห้างร้าน และการยื่นแบบชำระภาษี ที่อยู่ระหว่างการพิจารณา มี 2 มาตรการ คือ การพักชำระเงินต้นออกเบี้ยต่ำขึ้นอยู่กับเงื่อนไข แบบสถาบันเป็นที่กำหนด ส่วนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต้องช่วยเหลือเฉพาะหน้า 



แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook