ครูจอมทรัพย์ ถือเคล็ดไหว้วิญญาณเหยือ ก่อนขึ้นศาลรื้อคดี

ครูจอมทรัพย์ ถือเคล็ดไหว้วิญญาณเหยือ ก่อนขึ้นศาลรื้อคดี

ครูจอมทรัพย์ ถือเคล็ดไหว้วิญญาณเหยือ ก่อนขึ้นศาลรื้อคดี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ครูจอมทรัพย์ ถือเคล็ดขอพรพระธาตุพนม ไหว้วิญญาณผู้ตายก่อนขึ้นศาล หลั่งน้ำตาขอขมาเจ้ากรรมนายเวรตรงจุดเกิดเหตุ วอนช่วยปรากฏความจริง

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า บรรยากาศเตรียมพร้อมเกี่ยวกับคดีครูจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 54 ปี อดีตข้าราชการครู ที่ออกมาร้องทุกข์กับกระทรงยุติธรรมว่าตกเป็นแพะ หลังถูกตัดสินจำคุกเกี่ยวกับคดี ขับรถชนคนตาย เหตุเกิดเมื่อ 11 มีนาคม 2548 ในพื้นที่ สภ.นาโดน อ.เรณูนคร จ.นครพนม

หลังติดคุก 1 ปี 6 เดือน จากคำพิพากษาตัดสินของศาลฎีกา ให้จำคุก 3 ปี 2 เดือน เมื่อปี 2556 แต่ได้รับการอภัยโทษออกมา เมื่อปี 2558 จนกระทั่งศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำสั่งให้ศาลชั้นต้น คือ ศาลจังหวัดนครพนม พิจารณารื้อคดี โดยมีกำหนดนัดสืบพยานในระหว่างวันที่ 8 -10 กุมภาพันธ์ 2560

เมื่อวานนี้ (7 ก.พ.) ครูจอมทรัพย์ ได้เดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร ถึงสนามบินนครพนม พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ทีมกฎหมายศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรม และเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ที่ดูแลรับผิดชอบคดี เพื่อเตรียมพร้อมขึ้นศาลจังหวัดนครพนม ในการนัดสืบพยานฝ่ายผู้ร้องในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2560

ครูจอมทรัพย์ ได้ถือฤกษ์ดี เดินทางไปนมัสการขอพรองค์พระธาตุพนม ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม พร้อมกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นสิริมงคล ก่อนวันขึ้นศาล นอกจากนี้ยังได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ บริเวณถนน พระซอง – เรณูนคร เขตบ้านบริเวณถนนสาย พระซอง – เรณูนคร ฝั่งมุ่งหน้าไปยัง อ.เรณูนคร จ.นครพนม ห่างจากสะพานเทศบาลตำบลพระซองประมาณ 500 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชน นายเหลือ พ่อบำรุง อายุ 75 ปี เสียชีวิตขณะปั่นรถจักรยาน

ครูจอมทรัพย์ ได้จุดธูป 1 ดอก กล่าวคำขอขมาทั้งน้ำตาถึงดวงวิญญาณผู้ตาย รวมถึงเจ้าที่เจ้าทางและเจ้ากรรมนายเวร เพื่อขอให้อโหสิกรรม หากมีเวรต่อกัน ไม่ว่าแต่ชาติปางไหน พร้อมขอให้ตนหมดเคราะห์กรรมและขอให้ความจริงปรากฏต่อสังคม เพื่อให้ต้นพ้นจากมลทิน ก่อนเดินทางกลับไปพักที่ตัวเมืองนครพนม ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม และเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ซึ่งยังไม่ขอให้สัมภาษณ์จนกว่าจะมีการสืบพยานของศาลจังหวัดนครพนม แล้วเสร็จ

ทั้งนี้มีรายงานข่าวแจ้งว่า ในเช้าวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2560 ทางศาลจังหวัดนครพนม จะมีการนัดสืบพยานของฝ่ายผู้ร้อง คือ นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป ซึ่งทางทีมกฎหมายกระทรวงยุติธรรม จะมีการนำพยานขึ้นสู่ศาลเพื่อสืบพยาน จำนวน 10 ปี รวมถึงครูจอมทรัพย์ด้วย

โดยมีพยานปากสำคัญ คือ นางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ อายุ 61 ปี พร้อมด้วย นางทองเรศ วงศ์ศรีชา อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นพยานผู้เห็นเหตุการณ์ในคดี ช่วงเกิดเหตุที่เคยยืนยันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงกันทั้งสองคน ว่าพบเห็นคนขับรถยนต์ที่เกิดเหตุ เป็นผู้ชายลงมาดูศพผู้ตาย หลังขับรถยนต์ชนรถจักรยาน ทำให้ นายเหลือ เสียชีวิต

พยานยังพบเห็นว่า ผู้ก่อเหตุได้ขับรถยนต์หนีไป แต่จำได้เพียงตัวเลขทะเบียน 56 ส่วนอื่นไม่สามารถจำได้ รวมถึง นายสับ วาปี ที่ออกมารับสารภาพว่าเป็นคนขับรถชนตัวจริง คือ รถยนต์ ทะเบียน บค 56 มุกดาหาร ไม่ใช่รถยนต์ บค 56 สกลนคร ซึ่งเป็นรถยนต์ของครูจอมทรัพย์

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ทางฝ่ายกฎหมายกระทรวงยุติธรรม จะมีการนำเอาหลักฐานสำคัญ คือ รถยนต์โตโยต้า สีบรอน ทะเบียน บค 56 สกลนคร ซึ่งเป็นรถยนต์ของครูจอมทรัพย์ มาแสดง และยื่นคำร้องต่อศาลให้มีการลงเดินเผชิญสืบ ตามขั้นตอนของกฎหมาย นอกเหนือจากการสืบพยานในบัลลังก์เท่านั้น เพื่อเป็นการพิสูจน์ข้อเท็จจริง ยืนยันว่ารถยนต์ดังกล่าวไม่เคยมีการเฉี่ยวชน

พร้อมได้การรับรองยืนยันการตรวจสอบของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งถือเป็นหลักฐานสำคัญในการสืบพยานของผู้ร้อง ส่วนในวันที่ 9 -10 กุมภาพันธ์ 2560 จะเป็นการสืบพยานของฝ่ายผู้คัดค้านคือ พนักงานอัยการจังหวัดนครพนม ต่อไป โดยทางตำรวจยังคงยืนยันว่าจะต้องรอขบวนการของศาลเสร็จสิ้น จึงจะมีการตรวจสอบดำเนินคดี ในส่วนเกี่ยวข้องหากพบว่ามีขบวนการรับจ้างทำผิดแทนจริง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook