จันทบุรีส่อแล้งหลังน้ำเขื่อนพลวงลด

จังหวัดจันทบุรี ส่อแล้ง หลังปริมาณน้ำในเขื่อนพลวงลดลง ปภ. เร่งบริหารจัดการ ยันไม่ขาดแคลน

จากการสำรวจปริมาณน้ำในเขื่อน 4 แห่งหลักของ จ.จันทบุรี พบมีน้ำสำหรับรองรับปัญหาภัยแล้งแต่ละจุดแตกต่างกัน โดยเขื่อนพลวง มีปริมาณน้ำคิดเป็นร้อยละ 35 สาเหตุมาจากเขื่อนได้ปล่อยน้ำออกเพื่อซ่อมแซมประตูระบายน้ำ คาดว่าน้ำที่เหลืออยู่จะเพียงพอกับการใช้เพื่อการเกษตรในเขตชลประทาน ของ อ.เขาคิชฌกูฏ, มะขาม และ ขลุง ได้อย่างเพียงพอ ส่วนปริมาณน้ำเขื่อนคีรีธารคิดเป็นร้อยละ 82.44, อ่างเก็บน้ำสันทรายคิดเป็นร้อยละ 74.31 และ อ่างเก็บน้ำคลองพระพุทธ คิดเป็นร้อยละ 89 

ด้าน นายวิสุทธิ์ ประกอบความดี ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า ขณะนี้ยังสามารถคุมสถานการณ์ได้เมื่อดูจากน้ำในเขื่อนหลัก ถือว่ามีปริมาณมากกว่าปีที่ผ่านมา ยกเว้นเขื่อนพลวงที่เดียว จากการประสานในพื้นที่เขื่อนพลวง โดยเฉพาะ อ.เขาคิชฌกูฏ สามารถปล่อยน้ำเลี้ยงพืชผลทางการเกษตรได้ ยกเว้นในเขต อ.มะขาม ตรงนี้จะต้องใช้วิธีการสูบขึ้นมาซึ่งต้องใช้ไฟฟ้า เบื้องต้นกลุ่มผู้ใช้น้ำได้ระดมทุน ช่วยเหลืออย่างเต็มกำลังแล้ว ขณะที่จังหวัดก็จะใช้เงินช่วยด้วย แต่ต้องมีการประกาศภัยแล้งก่อน สำหรับพื้นที่นอกเขตชลประทาน ซึ่งถือว่ามีจำนวนมาก ขณะนี้ได้มีการกั้นฝายในทุกจุดที่เป็นคลองเพื่อเก็บน้ำไว้ใช้ แต่ก็ยังมีจุดที่น่าเป็นห่วงอยู่ คือ ต.บางชัน อ.ขลุง เพราะเป็นพื้นที่ทะเล เสี่ยงเกิดปัญหาเรื่องน้ำอุปโภค - บริโภค ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ส่งรถบรรทุกน้ำให้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบรรทุกน้ำไปช่วยแจกให้กับประชาชน 

ขณะที่ อ.สอยดาว ขณะนี้ได้มีการแจ้งเตือนให้งประชาชนเก็บกักน้ำ และใช้น้ำอย่างประหยัด โดยเฉพาะการใช้น้ำร่วมกันระหว่างเกษตรกร กับน้ำเพื่อทำการประปาเพื่ออุปโภคบริโภค อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าปีนี้ชาวบ้านจะไม่ขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้แน่นอน