คกก.คุ้มครองผู้บริโภคดำเนินคดีผู้ประกอบธุรกิจ

คกก. คุ้มครองผู้บริโภคดำเนินคดี ผู้ประกอบธุรกิจ เสริมความงาม ฟิตเนส การท่องเที่ยว ส่วน กรณีรถฟอร์ดผู้บริโภคขอเงินคืนทั้งหมดไม่ได้ ขณะ สคบ.ยังไม่พิจารณาปมแบงก์ชาติฟ้อง'เพย์ออล'

นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาและมีมติให้ดำเนินคดีกับผู้ประกอบธุรกิจหลายรายการ หลังจากมีประชาชนส่งเรื่องร้องเรียนมาจำนวนมาก โดยแบ่งเป็นการดำเนินคดีแพ่งกับผู้ประกอบธุรกิจด้านสินค้าและบริการทั่วไป อาทิ ธุรกิจเสริมความงาม ธุรกิจฟิตเนส และธุรกิจด้านการท่องเที่ยว 22 เรื่อง และการดำเนินคดีกับผู้ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อาทิ การซื้อบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม และไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการก่อสร้าง รวม 21 เรื่อง ซึ่งทั้งหมด สคบ. จะติดตามฟ้องร้องให้กับประชาชนทั้งหมด

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ใช้เวลาในการหารือเกี่ยวกับกรณีตรวจสอบผักผลไม้ที่จำหน่ายอยู่ในห้างสรรพสินค้า หลังพบว่าบางรายการมีการแปะเครื่องหมายปลอดสารพิษ ทำให้ราคาจำหน่ายสูงขึ้น ซึ่ง สคบ. ได้เก็บตัวอย่างมาตรวจสอบและพบว่า ผักผลไม้ที่แปะเครื่องหมายปลอดสารพิเษ กลับมีปริมาณสารพิษเทียบเท่ากับผลิตภัณฑ์ปกติ ซึ่ง สคบ. จะดำเนินการตรวจสอบรายละเอียด ก่อนประกาศแจ้งเตือนให้กับประชาชนรับทราบต่อไป

นายออมสิน ยังกล่าวถึงความคืบหน้ากรณีเรื่องร้องเรียนของรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด รุ่น เฟียซต้า และ โฟกัส ว่า คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ได้นำรถยนต์ไปทดสอบเมื่อวานนี้ พบว่า รถยนต์มีปัญหาเรื่องซีลน้ำมันรั่ว ส่งผลให้ครัชและระบบเกียร์ได้รับความเสียหาย ซึ่งได้มีการพูดคุยกับทางบริษัทผู้ผลิต และได้รับการยืนยันว่าจะมีการเปลี่ยนและซ่อมให้กับรถยนต์ที่มีปัญหาดังกล่าว ส่วนกรณีที่ผู้บริโภคบางคนใช้รถยนต์มานานกว่า 5 - 6 ปี ไม่ยินยอมที่จะนำรถยนต์เข้าซ่อมบำรุง แต่จะขอเงินคืนทั้งหมดนั้น สคบ. ก็เห็นว่า คงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ 

นอกจากนี้ นายออมสิน ยังกล่าวอีกว่า ได้มอบหมายให้ สคบ. สร้างการรับรู้เรื่องสิทธิของตัวเอง ซึ่งก็ทราบว่า สคบ. มีช่องทางให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร และร้องเรียนได้หลายช่องทาง เช่น สายส่วน 1166 เว็บไซต์ สคบ. รวมไปถึงการจัดทำแอปพลิเคชั่นที่ประชาชนสามารถเข้าไปติดต่อกับ สคบ. ได้โดยตรงอีกด้วย 

ทางด้าน พล.ต.ต.ประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์ เลขาธิการ คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวถึงกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัท เพย์ออล กรุ๊ป จำกัด ในข้อหาประกอบธุรกิจให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อี-มันนี่ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางการ ซึ่งเป็นบริษัทที่มี ฟิล์ม หรือ นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ดาราชื่อดังเป็นประธานกรรมการ ว่า เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในวาระพิจารณาในวันนี้ ได้แต่รายงานให้ที่ประชุมรับทราบในเบื้องต้น ว่า บริษัทดังกล่าวได้จดทะเบียนเป็นบริษัทขายตรง ตามพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พุทธศักรราช 2545 ซึ่งพบว่าแผนธุรกิจไม่ตรงตามที่แจ้งไว้กับ สคบ. จึงได้มีการดำเนินคดีกับ นายรัฐภูมิ และพวก โดยเป็นการเปรียบเทียบปรับรายละ 300,000 บาท รวมบริษัทในฐานะนิติบุคคล รวมวงเงินทั้งหมด 1.8 ล้านบาท