ชาวพังงาแห่กู้เงิน5หมื่นใช้ปลดหนี้นอกระบบ

ประชาชนแห่ขอยื่นกู้โครงการเงินฉุกเฉิน ตามมติคณะรัฐมนตรี ที่ ธ.ก.ส.สาขาพังงา รายละไม่เกิน 50,000 บาท เพื่อใช้ปลดหนี้นอกระบบ

ประชาชนจำนวนมากในเขตเทศบาลเมืองพังงา เดินทางมาเข้ารับบริการที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ตามโครงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการและยั่งยืน พร้อมออกมาตรการ โครงการสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉิน ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2560 ซึ่งเริ่มเปิดโครงการในวันที่ 1 มีนาคม 2560 โดยทางธนาคาร ธ.ก.ส.สาขาพังงา ได้ตั้งโต๊ะไว้ให้บริการประชาชนที่เข้ารับบริการ มีวัตถุประสงค์ให้สินเชื่อแก่ผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกรรายย่อยที่มีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเงินฉุกเฉินเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนภายในครอบครัว เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าเล่าเรียน 

ด้าน นายจุใจ นวลศรี ผู้จัดการธนาคาร ธ.ก.ส.สาขาพังงา เปิดเผยว่า ตามที่ประชุม ครม. เห็นชอบโครงการสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉิน โดยให้ธนาคารออมสิน และ ธ.ก.ส. ปล่อยสินเชื่อธนาคารละ 5,000 ล้านบาท โดยกำหนดให้กู้รายละไม่เกิน 50,000 บาท มีระยะเวลาเงินกู้ไม่เกิน 5 ปี คิดอัตราดอกเบี้ยเป็น 3 กรณี 1. กรณีใช้บุคคลค้ำประกัน 1 คน คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.85 ต่อเดือน หรือประมาณ 10% ต่อปี 2. กรณีใช้หลักประกันจำนองบางส่วนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของวงเงินกู้ ร่วมกับการใช้บุคคลค้ำประกัน 1 คน เป็นประกันหนี้ คิดอัตราร้อยละ 0.75 ต่อเดือน 3. กรณีใช้หลักประกันจำนองไม่ต่ำกว่าร้อยละ 100 ของวงเงินกู้ คิดอัตราร้อยละ 0.50 ต่อเดือน โดยหลักเกณฑ์การพิจารณาให้สินเชื่อ จะดูความสามารถในการชำระหนี้จากรายได้ และค่าใช้จ่ายรวมของบุคคลในครอบครัวเป็นหลัก ซึ่งโครงการดังกล่าว ทาง ธ.ก.ส.ได้กำหนดกลุ่มเป้าหมายช่วยเหลือประชาชนที่มีการประกอบอาชีพเป็นเกษตรกร ส่วนประชาชนทั่วไปสามารถไปขอยื่นกู้ได้ที่ธนาคารออมสิน ที่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้จ่ายฉุกเฉิน เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนภายในครอบครัว โดยต้องไม่เป็นการรีไฟแนนซ์หนี้ในระบบเดิม ซึ่งจะต้องยื่นขอกู้เงินภายใน 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ.60 – 20 ก.พ.61