ผู้ป่วยหอบหืดเสียชีวิตหลังวัดพระธรรมกาย

ผู้ป่วยหอบหืดเสียชีวิตหลังวัดพระธรรมกาย

ผู้ป่วยหอบหืดเสียชีวิตหลังวัดพระธรรมกาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้ป่วยหอบหืดเสียชีวิตหลังวัดพระธรรมกาย-กู้ภัยยัน จนท. ไม่ปิดกั้นพื้นที่ ด้าน ศิษย์วัดประณาม จนท.ปิดทางให้ล่าช้า ขณะที่ ด้าน DSI ยันหญิงป่วยเสียชีวิตก่อนรถพยาบาลจะเข้าไปรับ 5 ชม.

ที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พนักงานสอบสวนได้เชิญเจ้าหน้าที่ กู้ภัยของอุบัติเหตุฉุกเฉิน 1669 มาสอบปากคำ หลังเฟสบุ๊คของพระสนิทวงศ์ วุฒิวังโส ผอ.สำนักสื่อสารองค์การวัดพระธรรมกาย โพสข้อความ ระบุว่า มีผู้ป่วยโรคหอบหืดซึ่งพักอยู่ที่หลังวัดพระธรรมกาย ต้องการยาพ่น และได้ประสานทางหน่วยกู้ชีพรัตนเวชเข้าไปรับตัวผู้ป่วย แต่ติดด่านตำรวจทหาร จึงได้ประสานงานให้รถหน่วยกู้ชีพ 1669 ให้ไปรับคนไข้แทน แต่รถ 1669 มาตามเส้นทางไม่ถูก และไม่ได้รับอนุญาตให้รับคนไข้ที่อื่นนอกจากประตู 7 เท่านั้น เมื่อไปถึงในเวลา 12.39 น. พบผู้ป่วยได้เสียชีวิตแล้ว และระบุอีกว่า เสียเวลาในการติดต่อและผ่านเจ้าหน้าที่ ทั้งหมดกว่า 1 ชั่วโมง

ด้านเจ้าหน้าที่สาธารณะจังหวัดปทุมธานี ที่อยู่กองอำนวยการซึ่งตั้งอยู่ หน้า สภ.คลองหลวง ให้ข้อมูล ว่า ได้รับการประสานจากศูนย์การแพทย์ ฉุกเมื่อเวลา 12.10 น. ว่ามีผู้ป่วยเป็นลมชัก อยู่ใกล้ประตู 14 วัดพระธรรมกาย ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ควบคุมพิเศษ โดยก่อนหน้านี้ได้ทำข้อตกลงว่าหากมีผู้ป่วยในพื้นที่ควบคุมพิเศษจะนัดหมายให้เข้าไปรับที่ประตูที่ 7 เท่านั้น ซึ่งได้ปฏิบัติตามขั้นตอน เมื่อไปถึงได้มีพยาบาลซึ่งเป็นเพื่อนผู้ตายที่อยู่ในวัดพระธรรมออกมาที่ประตู 7 และพาไปยังจุดเกิด ถึงเวลาประมาณ 12.35น. เมื่อไปถึงพบว่าล็อคประตู 2 ชั้น เจ้าหน้าที่จึงพังประตูเข้าไป พบผู้ป่วยนั่งคว่ำหน้าอยู่ และไม่สัญญานชีพแล้ว แต่เจ้าหน้าก็ยังคงช่วยเหลือเบื้องต้น โดยการกดนวดหัวใจ เป็นเวลา 5 นาที แต่ไม่สามารถกู้สัญญานชีพกลับมาได้ ทั้งนี้ยืนยันว่า ขั้นตอนหลังรับแจ้งไม่ได้ล่าช้า และไม่ได้หลงทาง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการปิดกั้นพื้นที่ ให้ทีมกู้ชีพเข้าไปช่วยเหลือ ขณะเดียวกันย้ำว่าเจ้าหน้าที่ดำเนินการด้วยความเป็นกลาง ช่วยเหลือทางการแพทย์ทุกฝ่าย

บริเวณตลาดกลางคลองหลวง จ.ปทุมธานี พระปลัดเสกสรรค์อัตตโม พร้อมด้วยกลุ่มลูกศิษย์ วัดพระธรรมกายออกมาแถลงคำประณามการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ จากเหตุการณ์ที่ น.ส.พัฒนา เชียงแรง อายุ 48 ปี ผู้ช่วยเภสัชกรของวัดพระธรรมกาย เสียชีวิตด้วยโรคหอบหืดกำเริบเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ว่า เกิดอาการหอบอย่างรุนแรง อยู่ในพื้นที่ 58 ไร่ ซึ่งได้มีการประสานทางกู้ชีพ 1669 มาช่วยเหลือ แต่ปรากฎว่า เสียเวลาในการเดินทางเข้าไป นานกว่า 1 ชั่วโมง เนื่องจากติดด่านทหาร และต้อง ประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ดีเอสไอก่อน จึงจะผ่านเข้าไปได้ ทำให้ไม่สามารถช่วยเหลือ น.ส.พัฒนาได้ทัน

ขณะเดียวกัน ศิษยานุศิษย์วัดธรรมกาย ยังได้ร่วมกันจัดพิธี สวดพระอภิธรรมศพ ให้กับ น.ส.พัฒนา เชียงแรง ที่บริเวณตลาดกลางคลองหลวง โดยในพิธี มีพระสงฆ์จำนวน 4 รูป มานั่งสวดพระอภิธรรม ก่อนที่ทางลูกศิษย์จะถวายผ้าบังสุกุล และกรวดน้ำ อุทิศส่วนกุศล ใหักับ น.ส.พัฒนา พร้อมกับปล่อยนก เพื่อเรียกร้องสันติภาพ

พระเสกสรร กล่าวว่า วันนี้ได้เกิดเหตุสลดสังเวย มาตรา 44 อีกหนึ่งศพ เป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้น เพราะเจ้าหน้าที่กู้ชีพไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือผู้ป่วยได้ทัน เนื่องจากติดขั้นตอนการประสานงาน จากเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เพื่อขอผ่านเข้าไปรับผู้ป่วยในที่พัก และระบุว่า หากไม่เลิก มาตรา 44 ก็ควรจะเอาเจ้าหน้าที่มีศักยภาพในการดูแลสิทธิขั้นพื้นฐานของพระและประชาชนที่อยู่ในบ้าน อย่าเอาแต่เจ้าหน้าที่ทีมีแต่ศักยภาพในการทำลายมาดูแล พร้อมประณามการกระทำของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอที่ไร้ศักยภาพในการดูแลความปลอดภัยของคนผู้บริสุทธิ์


จัดพิธีสวดพระอภิธรรมให้เภสัชกรกลางตลาด 

พระปลัดเสกสรรค์ อัตตทโม ตัวแทนพระสงฆ์ บริเวณตลาดกลางคลองหลวง จัดพิธีสวดพระอภิธรรมให้กับนางสาวพัฒนา เชียงแรง เภสัชกรที่เสียชีวิตจากโรคหอบหืด บริเวณอาคารที่พักหลังวัดพระธรรมกาย เนื่องจากไม่สามารถออกไปร่วมงานศพได้  พร้อมมองว่า การใช้ ม.44 ทำให้เกิดความลำบากในการติดต่อและการสัญจร ทำให้ผู้ป่วยที่อาจอยู่ในพื้นที่รอบวัดเกิดความเสี่ยงที่จะเป็นอันตรายได้ 

ขณะที่ บริเวณที่พระสงฆ์เคยใช้ในการอดอาหารประท้วง จะเปลี่ยนเป็นจัดกิจกรรมนั่งสมาธิ ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจะแบ่งเป็น 4 ช่วง โดยจะมีพระสงฆ์หมุนเวียนกันมาตลอด และในวันพรุ่งนี้จะจัดกิจกรรมตักบาตรพระสงฆ์ 300 รูป เป็นกิจกรรมที่จัดปกติ พร้อมยังยืนยันว่า ได้พูดคุยกับเจ้าของตลาดพบว่า เจ้าของตลาดไม่ได้มีเจตนาขอติดป้ายเรื่องบุกรุกตลาด แต่เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ ซึ่งหลังจากนี้ทุกเย็นจะจัดพิธีสวดมนต์เพื่อบูชามหาธรรมกายเจดีย์ต่อไป 



แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook