รัฐบาลฮ่องกงเร่งสนับสนุนวงการแฟชัน หวังพลิกฟื้นให้เกิดเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผลิตสินค้าขายสู้แบรนด์ดัง

รัฐบาลฮ่องกงเร่งสนับสนุนวงการแฟชัน หวังพลิกฟื้นให้เกิดเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผลิตสินค้าขายสู้แบรนด์ดัง

รัฐบาลฮ่องกงเร่งสนับสนุนวงการแฟชัน หวังพลิกฟื้นให้เกิดเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผลิตสินค้าขายสู้แบรนด์ดัง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจากวงการแฟชั่นฮ่องกงซบเซามาเป็นเวลานาน  ดีไซเนอร์ขาดการสร้างสรรค์ผลงาน ไม่มีแบรนด์หรู ไม่มีแฟชั่นในแบบฉบับเฉพาะตัว ในท้องตลาดมีเพียงเสื้อผ้าราคาถูก เพราะไม่สามารถแข่งขันกับความนิยมของแฟชั่นจากฮาราจูกุ ของโตเกียว และย่านฮงแด ของเกาหลีใต้ได้  ล่าสุด ดีไซเนอร์อิสระคลื่นลูกใหม่ในฮ่องกง พยายามจะปฏิวัติวงการแฟชั่นด้วยการทำให้ฮ่องกง กลายเป็นแหล่งรวมแฟชั่น หรือ International fashion map ให้ได้

Jasmine Smith ผู้ก่อตั้งบริษัทผลิตชุดชั้นใน Raven + Rose บอกว่า โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางสู่ความสำเร็จ โดยที่ผ่านมาก็ได้เห็นบรรดาธุรกิจใหม่ หรือสตาร์-อัพ ประสบความสำเร็จเพราะโซเชียลมีเดียมามากแล้ว ดังนั้นโอกาสในการสร้างแบรด์ผ่านช่องทางนี้จึงมีมาก ล่าสุดเธอได้ตกลงทำธุรกิจกับแบรนด์ใหญ่ระดับโลกอย่าง La Perla จึงนับว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่จะทำให้ธุรกิจในระดับท้องถิ่นของเธอก้าวขึ้นสู่ระดับสากล ซึ่งขณะนี้ผลงานของเธอนั้น ถูกนำไปใช้กับแดนเซอร์ของมาดอนน่า รวมทั้งกลุ่มดาวเด่น Alana ของอเมริกัน

Smith ไม่ใช่ดีไซเนอร์เพียงคนเดียวที่พยายามผลักดันแฟชั่นท้องถิ่น ให้เป็นที่สนใจในตลาดโลก Anais Mak ของแบรนด์ Jourden ก็เริ่มเตรียมผลงาน เพื่อนำออกโชว์ใน Vogue เช่นกัน คอลเล็กชันของเขานั้น มีให้เห็นทั้งใน Barneys สหรัฐอเมริกา และ Isetan ในโตเกียว

นอกจากนี้ เมื่อเดือนที่แล้ว Polly Ho จาก Loom Loop ก็เพิ่งชนะการประกวดในงาน New York Fashion Week ส่วน Fiona Lau และ Kain Picken แห่ง  Ffixxed Studios ก็ประสบความสำเร็จในปารีสเช่นกัน

Ho บอกว่า เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เขาเริ่มให้คนรุ่นใหม่ ทำแบรนด์ของตนเองเพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่า นี่เป็นผลสะท้อน เมื่อมีแต่แบรนด์ใหญ่ แฟชั่นเดิม ๆ คนเริ่มรู้สึกเบื่อ 

ด้านGrana บอกว่า ตอนนี้เราเริ่มได้เห็นแฟชั่นแบรนด์หรู ที่มีราคาไม่แพงในฮ่องกงมากขึ้น พวกแบรนด์ใหญ่ ที่แฟชั่นโหล คุณภาพต่ำ ยอดขายก็เริ่มตกลง

ทั้งนี้ ทางรัฐบาลก็ให้การสนับสนุนวงการแฟชั่นของฮ่องกง โดยในปี 2016 และ 2017 นั้น ได้มีการตั้งงบประมาณ สนับสนุนกลุ่มธุรกิจที่มีความสามารถ เป็นจำนวนเงินถึง 500 ล้านดอลล่าร์ฮ่องกง หรือประมาณ 65 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook