มทภ.3มองเหตุวิสามัญชัยภูมิด้วยใจเป็นกลาง

มทภ.3 มองเหตุวิสามัญ 'ชัยภูมิ' นักกิจกรรมชาวลาหู่ ด้วยใจเป็นกลาง ยันทหารปฏิบัติตามหน้าที่

พล.ท.วิจักษณ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 เปิดเผยกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงกรณีที่โลกออนไลน์แห่แชร์ข้อความ พร้อมตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ทหาร ใช้อาวุธปืน M16 ยิงนายชัยภูมิ อายุ 21 ปี นักกิจกรรมชาวลาหู่ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ในการสกัดจับขบวนการค้ายาเสพติดที่อ.เชียงดาว 
จ.เชียงใหม่ ว่า ส่วนตัวตนมองสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความเป็นธรรมและเป็นกลาง ซึ่งทันทีที่ทราบเรื่อง ตนก็ได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า สาเหตุมาจากอะไร ทั้งนี้จากการสอบสวน ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ทหารที่ยิงนายชัยภูมินั้นไม่ได้รู้จัก หรือทราบมาก่อนว่านายชัยภูมิเป็นใคร เพียงแต่ปฎิบัติงานตามภาระหน้าที่ที่ได้
รับมอบหมายเท่านั้น และที่ผ่านมาทางทหารก็ค่อนข้างเข้มงวดเรื่องการสกัดจับยาเสพติดทุกชนิด ที่ผ่านเข้ามาทางภาคเหนือ โดยหากตรวจพบก็จะใช้มาตรการเดียวกันกับทุกฝ่ายอย่างไม่เลือกปฏิบัติ สำหรับเคสของนายชัยภูมิเองก็เช่นกัน คือระหว่างที่มีการตั้งด่านตรวจอยู่ เจ้าหน้าที่ได้เรียกรถคันหนึ่ง เพื่อขอตรวจค้น ก่อนจะพบยา
บ้าจำนวน 2,800 เม็ด อยู่ในที่กรองอากาศ จึงจับกุมนายพงศ์นัย อายุ 19 ปี คนขับรถ แต่ผู้ที่นั่งอยู่ด้านข้างคนขับคือ นายชัยภูมิได้วิ่งหนีออกไป และจังหวะที่ทหารตัดสินใจยิงเกิดจากสัญชาติญาณที่ต้องการจะป้องกันตัว เนื่องจากเห็นว่าผู้ตายมีพิรุธ คือวิ่งหนีการจับกุม อีกทั้งยังมทีท่าว่าจะขว้างระเบิดมาทางเจ้าหน้าที่ จนภายหลังถึง
มาทราบว่านายชัยภูมิเป็นเด็กนักกิจกรรมด้านสร้างสรรค์สังคมและมีประวัติดี ซึ่งจุดนี้ตนรู้สึกเสียใจกับครอบครัวของน้อง แต่อยากให้สังคมเข้าใจวิธีการทำงานของทหารด้วย เพราะ ทหารที่ยิงก็ไม่เคยมีเรื่องหรือทะเลาะเบาะแว้งกับผู้ตายมาก่อน เพียงแต่ตัดสินใจยิงจากการประเมินสถานการณ์เฉพาะหน้าเท่านั้น