รู้เเล้ว! เหตุทำร้ายทหารเกณฑ์ตาย “ขัดแย้งจากการอยู่ร่วมกัน”

รู้เเล้ว! เหตุทำร้ายทหารเกณฑ์ตาย “ขัดแย้งจากการอยู่ร่วมกัน”

รู้เเล้ว! เหตุทำร้ายทหารเกณฑ์ตาย “ขัดแย้งจากการอยู่ร่วมกัน”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

4 เม.ย.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีพลทหารยุทธกินันท์ ทหารเกณฑ์สังกัดมณฑลทหารบกที่ 45 ค่ายวิภาวดีรังสิต จ.สุราษฎร์ธานี เสียชีวิตหลังเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี และนางเรณู  อายุ 41 ปี มารดาผู้ตายเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อขอความเป็นธรรม เพราะเชื่อลูกชายทำร้ายร่างกายขณะถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ มทบ.45 และเสียชีวิตภายหลังถูกนำส่งโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา

ความคืบหน้าล่าสุด  เมื่อเวลา 12.00 น.พนักงานสอบสวนตำรวจภูธรภาค 8 และสภ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี  พร้อมด้วยศาลทหาร เข้าสอบสวนกลุ่มนักโทษภายในเรือจำทหาร มทบ.45 จำนวน 4-5 คน ที่ต้องสงสัยเป็นคนลงมือทำร้ายร่างการพลทหารยุทธกินันท์ โดยพล.ต.วิชัย ทัศนมณเฑียร ผบ.มทบ.45 เปิดเผยว่า จากการสอบสวนในส่วนของทหาร เบื้องต้นทราบตัวผู้ที่ร่วมก่อเหตุแล้ว ซึ่งมีอยู่ 4-5 รายและเป็นนักโทษที่อยู่ในเรือนจำด้วยกัน จากการสอบปากคำ สาเหตุมาจากเรื่องความขัดแย้งเกี่ยวกับพฤติกรรมที่อยู่ร่วมกัน และในเบื้องต้นมีนักโทษรายหนึ่งยอมรับว่าทำร้ายร่างกายพลทหารยุทธกินันท์จริง แต่ไม่คิดว่าจะถึงขั้นเสียชีวิต 

ทั้งนี้แนวทางการสอบสวนผู้ที่ร่วมก่อเหตุทั้งหมด ได้ให้ความสะดวกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 8 และพนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เข้าสอบปากคำนักโทษที่ร่วมก่อเหตุในเรือนจำทหาร มทบ.45 ซึ่งทหารจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับแนวทางการสอบสวนเพื่อต้องการให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานได้เต็มที่ เพื่อความเป็นธรรมของทั้งสองฝ่าย

โดยส่วนตัวไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ เนื่องจากให้การดูแลและเอาใจใส่กับนักโทษในเรือนจำและยังมีการสอนอาชีพให้ด้วย บางรายเสพยาเสพติดก็สมัครใจเข้าเรือนจำเพื่อบำบัดก็มี ส่วนเรื่องการเยียวยาครอบครัว เบื้องต้น พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ได้มอบเงินเยียวยาให้กับครอบครัวจำนวน 1 แสนบาท และมทบ.45 ก็จะดูแลเรื่องการเยียวยาตามลำดับ ซึ่งมารดาผู้ตายก็รู้สึกดีขึ้นที่ได้รับความเป็นทำ และยอมที่จะกำหนดวันณาปนกิจศพของบุตรชายต่อไป

พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่าได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน ดำเนินการอย่างรัดกุมในการสอบสวนกลุ่มต้องสงสัย เพราะจะต้องเก็บรวบรวมหลักฐาน ให้แน่นหนา ก่อนจะขออนุมัติหมายจับได้ส่วนผลตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์อย่างละเอียดได้ประสานไปยังโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี คาดว่าจะได้ผลการชันสูตรในช่วงบ่ายวันนี้ และยืนยันยังว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาและจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook