ป้าTAXIมหาภัยมอบตัวคดีฉกทรัพย์-ปัดชิงเงินผู้โดยสาร

'ผุสดี อัญชัญภาติ' หญิงขับแท็กซี่ไล่ผู้โดยสารลงรถ มอบตัว สน.บางเขน ให้การภาคเสธยันไม่เคยชิงเงินผู้โดยสาร เหตุที่ไล่ลงรถ แค่ยุติปัญหา พร้อมยอมรับเวลาโมโหควบคุมตัวเองไม่ได้

นางผุสดี อัญชัญภาติ คนขับรถแท็กซี่ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์ผู้โดยสาร พร้อมทนายความเดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผู้กำกับการ สน.บางเขน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา หลังตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ของศาลอาญา ในข้อหาลักทรัพย์ จากกรณี เมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2558 โดยผู้เสียหายได้เรียกรถแท็กซี่ ที่นางผุสดี ขับก่อนที่จะไล่ผู้โดยสารลง โดยได้หยิบกระเป๋าเงิน ซึ่งมีเงินสดจำนวน 10,000 บาทขับหลบหนีไป โดยวันนี้ ผู้ต้องหา มีสีหน้าเรียบเฉย เมื่อเดินทางมาถึง สน.บางเขน ตร.ได้นำตัวเข้าห้องประชุมชั้น 2 ทันที โดยยังไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวได้ซักถามแต่อย่างใด

โดย พ.ต.อ.อำนาจ เปิดเผยว่า วันนี้ หลังการสอบปากคำผู้ต้องหาแล้ว จะคุมตัวไปฝากขังที่ศาลอาญา รัชดา ซึ่ง ตำรวจ สน.พหลโยธิน จะมาขออายัดตัว นางผุสดี ซึ่งมีหมายจับในข้อหาหน่วงเหนี่ยวกักขังและวิ่งราวทรัพย์ผู้โดยสารหญิง ได้เงินไป 2,000 บาท เหตุเกิดเมื่อปี 2557

อย่างไรก็ตาม วันนี้ พล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม รอง ผบช.น. จะเดินทางมาสอบปากคำ ผู้ต้องหา ด้วยตนเอง

ป้าTAXIปัดชิงเงินเหตุที่ไล่ผู้โดยสารลงรถแค่ยุติปัญหา 

พล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เดินทาง เข้าสอบปากคำตัวนางผุสดี อัญชัญภาติ คนขับรถแท็กซี่หญิงผู้ต้องหาในคดีทรัพย์ผู้โดยสารในเวลากลางคืน จากการสอบสวน นางผุสดี ให้การภาคเสธ โดยยอมรับว่ามีปากเสียงกับผู้โดยสารหลายครั้ง แต่ยืนยันไม่เคยชิงเงินผู้โดยสาร ซึ่งปกติไม่ใช่คนอารมณ์ร้อน แต่เวลาโมโหไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ จนต้องทานยาคลายเครียดเป็นประจำ ส่วนการพกพาอาวุธมีดคัตเตอร์นั้น พกไว้ประจำเพื่อใช้ซ่อมรถ ส่วนที่ต้องมาขับรถแท็กซี่เนื่องจากต้องหาเงินใช้หนี้สินของครอบครัว ที่ผ่านมามักจะมีปัญหากับผู้โดยสารเรื่องออกนอกเส้นทาง ทุกครั้งแจ้งผู้โดยสารขอไปทางลัดเนื่องจากรถติด และผู้โดยสารส่วนใหญ่เข้าใจผิด จึงทำให้มีปัญหากับผู้โดยสารทุกครั้ง พร้อมยืนยันเหตุที่ไล่ผู้โดยสารลงจนถูกแจ้งความจับนั้น ไม่ได้มีเจตนา แค่ยุติปัญหา

พล.ต.ต.มนตรี เปิดเผยว่า หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ สน.บางเขน จะแจ้งข้อหา ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และสน.พหลโยธิน ในข้อหาวิ่งราวทรัพย์ หน่วงเหนี่ยวกักขัง และทำร้ายร่างกาย ให้แล้วเสร็จก่อนจะรวบรวมสำนวนทั้ง 2 ท้องที่ ส่งฟ้องต่ออัยการคดีอาญา

ด้านเจ้าหน้าที่กรมการขนส่ง มาสังเกตการณ์การสอบปากคำ พร้อมยอมรับว่า หลังปรับเงินนางผุสดีไปเมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา ก็ไม่ทราบว่านางผุสดีกลับมาขับรถอีก

กรมขนส่งแจ้ง3ข้อหาป้าแท็กซี่ปรับ9,000บาท

นายเล็ก ทับพิสิทธิ์ ผู้ชำนาญการ กรมการขนส่งทางบก ได้ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหา และเปรียบเทียบปรับ นางผุสดี อัญชันภาติ คนขับรถแท็กซี่ไล่ผู้โดยสารลงจากรถ รวม 4 ข้อหา ประกอบด้วย

1. ฝ่าฝืนข้อกำหนดว่าด้วยความปลอดภัย ปรับเงิน 5,000 บาท
2. กระทำการใดๆให้ผู้โดยสารลงจากรถก่อนถึงที่หมายปรับเงิน 1,000 บาท
3. แสดงกิริยาวาจาไม่สุภาพกับเงิน 1,000 บาท
4. ขับรถในระหว่างใบอนุญาตขับขี่สิ้นอายุ ปรับเงิน 2,000 บาท
รวบปรับเงินทั้งสิ้น จำนวน 9000 บาท

ทางด้านนายวิเชียร เพชรจำนงค์ ทนายความของนางผุสดี กล่าวว่า ตนเองได้เตรียมหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 200,000 บาท เพื่อยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว หลังจากพนักงานสอบสวนได้คุมตัว ไปฝากขังที่ศาลอาญาในช่วงบ่ายวันนี้

พร้อมกันนี้นายวิเชียร ยัง ระบุด้วยว่า ตนเองเป็นเพื่อน กับนางผุสดี ตั้งแต่ยังอยู่ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งก่อนหน้านี้นางผุสดีถือว่าเป็นคนมีฐานะในระดับเศรษฐี แต่ต้องล้มละลาย และเลิกรากับสามี จนต้องมาขับแท็กซี่และเลี้ยงดู ลูก 2 คนเพียงลำพัง ตนเองเห็นใจ จึงเข้ามาช่วยดูแลในเรื่องของคดีความให้ในฐานะที่เป็นเพื่อนกัน