วิษณุเผยที่ประชุมปยป.รับทราบคืบหน้าแต่ละด้าน

วิษณุเผยที่ประชุมปยป.รับทราบคืบหน้าแต่ละด้าน

วิษณุเผยที่ประชุมปยป.รับทราบคืบหน้าแต่ละด้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

'รองนายกฯวิษณุ' เผย ที่ประชุม ปยป. รับทราบคืบหน้าแต่ละด้าน มอบ 'อำพน' ศึกษากฏหมาย เพื่อทำโครงสร้างบุคลากร-งบประมาณใหม่

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฏหมาย เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ครั้งที่ 1/2560  ว่าการประชุมดังกล่าวเป็นการประชุม ปยป.เต็มคณะครั้งแรก ที่มีการรายงานการดำเนินการของคณะกรรมการย่อย 4 คณะ ตั้งแต่ดำเนินการจัดตั้งขึ้นมา โดยคณะกรรมบริหารราชการแผ่นดินเชิงยุทธศาสตร์ ได้รายงาน เกี่ยวกับการตัดสินใจเรื่องสำคัญ อาทิ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน รถไฟไทย-จีน ที่จะมีการดำเนินการในอีก 2 เดือนข้างหน้า /ราคาผลผลิตทางการเกษตร อาทิ ข้าว อ้อย มัน และเรื่องสำคัญล่าสุด คืออำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจลงทุนที่จะมีการแก้ กฏหมายสำคัญ 4-5 ฉบับ ส่วนคณะกรรมการเตรียมการยุทธศาสตร์ชาติ ได้รายงานให้ทราบการเตรียมยุทธศาสตร์ชาติ 6 ด้าน รวมถึงการเสนอ กฏหมายยุทธศาสตร์ชาติเข้าสภา โดยถือเป็นกฏหมายฉบับหนึ่งที่สำคัญที่สุดของรัฐบาล ที่จะต้องออกมาบังคับใช้ใน 4 เดือน

ทั้งนี้ ในส่วนของคณะกรรมการเตรียมการปฏิรูปประเทศได้มีการรายงานสิ่งที่สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เสนอมา 27 วาระ เพื่อนำมาขับเคลื่อน รวมถึงสิ่งที่รัฐบาลเสนอในส่วนของการปฏิรูปเพื่อมาจัดลำดับความสำคัญ ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญเรื่องที่ต้องเร่งดำเนินการภายใน 1 ปี รวมทั้งหมด 27 วาระ โดย สปท.ยังได้เสนอเรื่องต่างๆอีก 4 เรื่อง ที่นายกรับมาพิจารณาทั้งหมด คือ 1.เรื่องตลาดชุมชนหรือตลาดคนจน ที่จะต้องส่งเสริมให้มีทุก จังหวัด 2.การประกันภัยการเกษตร ที่บริษัทประกันไม่ค่อยรับ โดยให้หาช่องทางขับเคลื่อน และมอบหน่วยงานเกี่ยวข้องไปดู 3.การจัดตั้งศาลสิ่งแวดล้อม ที่ต้องดูว่ามีความพร้อมหรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมามีการร้องเรียนเรื่องสิ่งแวดล้อมกว่า 1 หมื่นคดี และ 4.การผ่อนคลายมาตราการกฏหมายร่วมทุน

ขณะที่คณะกรรมการสร้างความสามัคคีปรองดอง ได้รายงานการจัดตั้งอนุกรรมการ 4 ชุด และรายงานการรับฟังข้อเสนอ จากพรรคการเมือง กลุ่มเอกชน กลุ่มนักการเมืองต่างๆ โดยมีข้อเสนอครอบคลุมและหลายเรื่องตรงกับที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ จึงต้องมีการจัดคู่และจัดลำดับความสำคัญ 

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมอบหมายให้สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ดำเนินงานเพิ่มเติม โดยให้เป็นฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาตร์ชาติและการปฏิรูป 11 ด้าน จึงมอบหมายให้ตนเองและนายอำพน กิตติอำพน ผู้อำนวยการสำนักบริหารนโยบายนายกรัฐมนตรี ไปศึกษากฏหมาย เพื่อทำโครงสร้างบุคลากรและงบประมาณใหม่



แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook