นายกฯชวนปชช.ยึดแนวทางในหลวงร.9แก้โลกร้อน

นายกฯชวนปชช.ยึดแนวทางในหลวงร.9แก้โลกร้อน

นายกฯชวนปชช.ยึดแนวทางในหลวงร.9แก้โลกร้อน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกรัฐมนตรี ชวน ปชช. ร่วมกันลด ก๊าซเรือนกระจก แก้ปัญหาโลกร้อน วัน 'คุ้มครองโลก' ยึดแนวทางในหลวง ร.9 ขณะ พอใจผลดำเนินการสืบสานประเพณีสงกรานต์

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)กล่าวในรายการ  "ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน" ทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ว่าได้เห็นพัฒนาการที่ดี ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่เป็นผลมาจาก รัฐบาลใช้มาตรการจัดระเบียบสังคมโดยเฉพาะเรื่อง"ขยะ" ที่ประกาศให้เป็น"วาระแห่งชาติ" สามารถกำจัดขยะมูลฝอย ตกค้าง สะสมมานานมากกว่า 20 ล้านตัน จากทั้งหมด 30 ล้านตัน, การกำหนดพื้นที่รวบรวมของเสียอันตราย 83 แห่งทั่วประเทศ เพื่อง่ายต่อการบริหารจัดการ  ถูกหลักวิชาการ และการรณรงค์เพื่อลดปริมาณการเกิดขยะมูลฝอย ซึ่งวันพรุ่งนี้ 22 เมษายน เป็นวัน "คุ้มครองโลก" จึงถือโอกาสนี้เชิญชวนชาวไทยทุกคน ร่วมกันลด ก๊าซเรือนกระจก อย่างจริงจัง เพราะองค์กรสิ่งแวดล้อมในเยอรมนี จัดอันดับให้ไทยเป็น 1 ใน 10 ของประเทศที่จะได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนมากที่สุดในโลก ดังนั้นจำเป็นต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาดังกล่าว 

ทั้งนี้ เกี่ยวกับปัญหา "ก๊าซเรือนกระจก" พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีสายพระเนตรยาวไกล มีพระราชดำริในเรื่อง "โลกร้อน" มาตั้งแต่ปี  2532  จึงได้พระราชทาน ศาสตร์พระราชา และโครงการตามแนวทางพระราชดำริ หลายๆ เรื่อง ให้รัฐบาลและปวงชนชาวไทย ได้น้อมนำไปสู่การปฏิบัติ เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว และขอยกย่อง หมู่บ้านป่าเด็ง ตำบลป่าเด็ง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี เป็นตัวอย่างในการลดก๊าซเรือนกระจก โดยยึด “หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” 

นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวด้วยว่า เทศกาลสงกรานต์ 2560 ผ่านพ้นไปด้วยดี รัฐบาลได้มุ่งรณรงค์ ภายใต้แนวคิด "สงกรานต์แบบไทย ใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า ทุกชีวาปลอดภัย"และยกระดับประเพณีสงกรานต์ของไทย ให้เป็นงานระดับโลก เพื่อสืบสานแนวคิดแบบไทยๆ สู่สากล ซึ่งรู้สึกปลาบปลื้มใจที่ได้เห็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ แต่งชุดไทย  ทักทายด้วยการไหว้และยิ้มแบบไทยๆ บนเวทีประกวดเทพีสงกรานต์ด้วย ตลอดจนมีการเชิญคณะทูตานุทูตและภริยา จาก 17 ประเทศ เข้าร่วมงานสงกรานต์ที่วัดปทุมวนาราม เพื่อจะสานความสัมพันธ์ร่วมกันด้วยมิติทางวัฒนธรรม  รวมทั้งจัดสงกรานต์ในต่างประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา, เยอรมนี และ ออสเตรเลีย เป็นต้น โดยเชื่อว่านักท่องเที่ยวได้ซึมซับประเพณีอันงดงามของเรา ที่มีเอกลักษณ์ มีประวัติศาสตร์ ควรค่าแก่อนุรักษ์การศึกษา และสืบสานให้คงอยู่คู่สังคมไทย ชั่วลูกชั่วหลานต่อไป ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว 

เช่นเดียวกับ การอำนวยความสะดวกและการสร้างบรรยากาศความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สำหรับทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสัญจร ของประชาชนในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว โดยไม่อยากย้ำ เรื่องสถิติการสูญเสีย ว่ามากขึ้น หรือน้อยลง เพราะในความเป็นจริงไม่ต้องการให้เกิดการสูญเสียเลย พร้อมย้ำถึงการพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการใช้รถใช้ถนนให้ปลอดภัย นั้น หวังทำเพื่อทุกคน และจะต้องทบทวนให้มีความสมดุล และเป็นไปได้ เพื่อไปสู่จุดหมายสุดท้ายที่ต้องการ ก็คือ การอยู่ร่วมกันโดยสวัสดิภาพ เมื่อได้ข้อสรุปร่วมกันแล้ว ก็จะปลูกจิตสำนึก และการสร้างวินัยจราจร ซึ่งถือเป็นหลักสำคัญที่สุด เพื่อให้เกิดวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนนอย่างยั่งยืน ให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ได้รับการยอมรับ เชื่อถือจากประชาชน


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook