อย่าขัดใจแม่! ชมพู่ อารยา เตรียมอุ้มท้องลูกแฝด เดินพรมแดงเมืองคานส์

ต้องขอแสดงความยินดีรัวๆ ให้กับว่าที่คุณแม่คนต่อไปของวงการบันเทิงกันอีกสักครั้ง สำหรับนางเอกซุป'ตาร์ "ชมพู่ อารยา" หลังจากที่ต้องเก็บตัวนานหลายเดือนเนื่องจากมีอาการแพ้ท้องอย่างหนักและเสี่ยงที่จะเป็นอันตรายต่อลูกในท้อง

โดยล่าสุดสาวชมพู่ก็ได้ออกมาประกาศข่าวดีอย่างเป็นทางการกับกองทัพสื่อเป็นครั้งแรกว่า เบบี๋ในท้องของเธอตอนนี้คือลูกชายฝาแฝดที่มีอายุครรภ์กว่า 4 เดือนแล้ว ซึ่งสุขภาพโดยรวมแข็งแรงปกติดีทุกอย่าง แต่ก็อาจจะต้องมีการดูแลอย่างใกล้ชิดอยู่เป็นระยะ

ส่วนโปรเจคต์ใหญ่เดินพรมแดงเมืองคานส์ปีนี้เธอยังคงทำหน้าที่เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ลอรีอัล ปารีส ไปร่วมงานเช่นเดิม แต่จะเป็นลุคไหนบ้างนั้นคงต้องให้แฟนๆ รอติดตามอีกที...

"วันนี้ตื่นเต้นมาก เพราะเรายังไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่ต้นปี และงานนี้ก็เป็นงานแรก (ยิ้ม) สำหรับการเดินทางไปคานส์ปีนี้ก็ไม่ได้ไปคนเดียวแล้ว ซึ่งจริงๆ มันก็เป็นความตั้งใจของชมด้วย เพราะทุกๆ ปีที่ชมไปชมก็จะเห็นคนดังหลายๆ คนเขาก็พาลูกไปด้วยกัน หรือไม่ก็อุ้มท้องไป เราก็เลยคิดว่าถ้าหากเราได้ผ่านช่วงเวลานั้นของชีวิตและได้ทำหน้าที่ตรงนี้ไปพร้อมๆ กันสักปีหนึ่งมันก็น่าจะเป็นช่วงเวลาที่ดีค่ะ (ยิ้ม)"

ทำไมเราถึงตัดสินใจไปเดินเพราะเราเองก็ยังตั้งท้อง ?
"ก็อย่างที่บอกค่ะ ชมค่อนข้างวางแผนมาพอสมควร เพราะปีที่แล้วชมเองก็เคลียร์งานไว้เยอะ และปีนี้ช่วงที่ผ่านมาเราก็รับแต่งานเบาๆ เพราะเราเล็งไว้แล้วว่าถ้าหากเป็นคานส์อายุครรภ์มันก็จะครบ 5 เดือนพอดี ไม่มีอาการแพ้ เดินทางได้ และยังเป็นช่วงที่คล่องตัวด้วย"

พออายุครรภ์ 5 เดือนแบบนี้ ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษไหม ?
"จริงๆ มันก็พ้น 3 เดือนแล้วนะคะ และเอาตรงๆ ตอนนี้ชมเองก็ยังรู้สึกชิลด้วยซ้ำ เพราะอายุครรภ์มันก็ 4 กว่าแล้วเนอะ แต่หลังจาก 7 ปลายๆ มันก็อาจจะไม่ชิลแล้ว (ยิ้ม)"

การไปคานส์ครั้งนี้ต้องขออนุญาตคุณสามีไหม ?
"ปีนี้คุณสามีไปด้วยค่ะ ส่วนทีมงานที่นั่นเขาก็รู้อยู่แล้วว่าจะรับมือยังไงกับดารานักแสดงที่กำลังตั้งท้องและต้องเดินทางไปร่วมงาน คือมีพาร์ทเนอร์เข้ามาช่วยดูแลเยอะมากค่ะ ดังนั้นก็เลยค่อนข้างวางใจในตรงนี้"

ชุดปีนี้จะต้องฟู่ฟ่าอลังการเหมือนทุกปีเลยหรือเปล่า ?
"ปีนี้ก็มีการทำการบ้านไว้บ้างแล้วค่ะ แต่ด้วยข้อจำกัดด้านสรีระของเรามันไม่เหมือนเดิม ดังนั้นก็อาจจะต้องมีการเดินทางไปล่วงหน้าเพื่อทำการฟิตติ้ง เพราะชุดอาจจะต้องใช้เวลาในการปรับแก้ แต่สำหรับความรู้สึกชมนะ ชมอยากให้ชุดมันโฟกัสมาที่น้องมากคือตั้งใจมาก แต่เท่าที่คุยกับทีมงานฝรั่งเขากลับบอกว่าชมไม่ได้ดูเหมือนคนท้องเลย ดูเหมือนคนมีพุงมากกว่า แต่ชมก็ยังมีเวลาอีก 2 อาทิตย์นะ อาจจะดูชัดขึ้นก็ได้ (ยิ้ม) ส่วนการเลือกชุดอันไหนที่มันใส่แล้วไม่สบายช่วงท้องเราก็คงต้องข้ามไป ดังนั้นปีนี้ก็ต้องหาตัวเลือกไว้ค่อนข้างเยอะพอสมควรค่ะ"

พี่น็อตเขามีฟีดแบคหรือขอเราไว้ยังไงบ้างเรื่องการทำงาน ?
"เขาไม่ค่อยจุกจิกอะไรนะคะ แต่พอรู้ว่าปีนี้ต้องไปเขาก็ให้ไป เพราะเอาจริงๆ ตอนที่ทางลอรีอัลเขาทราบเรื่องท้องเขาก็ถามความสมัครใจนะคะว่าเราโอเคไหม แต่ชมก็บอกว่ามันคือความตั้งใจของชมเอง เพราะชมอยากทำในเวอร์ชั่นนี้ และโมเม้นท์นี้มันเป็นอะไรที่พิเศษมากๆ"

เราได้บอกลูกบ้างไหมว่าปีนี้แม่จะพาเขาไปเดินด้วยกัน ?
"มีบอกบ้างค่ะ ก็มีบ้าง (ยิ้ม)"

สรุปแล้วว่าตอนนี้น้องในท้องเราก็คือเด็กผู้ชายฝาแฝด ?
"ใช่ค่ะ คือเดี๋ยวนี้เขารู้เร็ว สักประมาณ 11-12 สัปดาห์ก็ตรวจเลือดได้แล้ว เพราะดีเอ็นเอเขาจะหลุดมาในกระแสเลือดเราเลยทำให้ทราบได้ (ยิ้ม)"

ด้วยความที่เป็นแฝดมันจะทำให้หนักกว่าเดิมไหม ?
"คือชมก็ไม่เคยท้องเดี่ยวนะคะเลยไม่รู้จะเปรียบเทียบยังไง บ่นไม่ถูกเหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ ชมคอนเฟิร์มได้เลยว่าฮอร์โมนส์เฮชซีจีสูงมาก ดังนั้นมันก็จะแพ้"

การท้องครั้งนี้คือเป็นความตั้งใจให้เป็นแฝดของเราเลยใช่ไหม ?
"ก็อย่างที่บอกชมอยากได้ไทม์ไลน์นี้ มันก็เลยทำให้ต้องมีการปรึกษาคุณหมอบ้าง และอย่างที่เห็นปีที่แล้วชมก็ฟิตร่างกายมาตลอดเพื่อเตรียมความพร้อม ดังนั้นพอช่วงเดือนพฤศจิกายนชมก็ตัดสินใจปล่อยเลย และด้วยความที่เราดูแลตัวเองอย่างดีบวกกับปรึกษาคุณหมอบ่อยๆ น้องก็เลยมา"

แฝดนี้ก็คือเป็นกรรมพันธุ์เลยใช่ไหม ?
"จริงๆ ทางบ้านที่น็อตก็มีแฝดนะคะ พี่สาวพี่น็อตก็มีลูกแฝด และปู่ของชมก็มีน้องชายฝาแฝดที่บังเอิญเสียชีวิตไปตอนคลอด"

สรุปก็คือเป็นวิธีธรรมชาติ ?
"ถ้าจะบอกว่าไม่หาหมอเลยก็คือโกหก มีหาหมอบ้างปรึกษาหมอบ้าง มีวิทยาศาสตร์ช่วยบ้าง"

เรียกว่าเป็นวิธีการฉีดเชื้อได้ไหม ?
"อันนี้ขอคุยกันในบ้านดีกว่านะคะว่าเป็นวิธีไหน (หัวเราะ)"

แบบนี้ทางครอบครัวมีวิธีดูแลยังไงบ้างเป็นลูกชายทั้งคู่ด้วย ?
"ก็ไม่ได้อะไรพิเศษมากนะคะ เพราะเขาเองก็ดูแลปกติอยู่แล้ว แค่ถ้าหากเขาทราบว่าตอนนั้นชมต้องการอะไรหรืออยากทานอะไรเขาก็จะหาให้เลยก็เท่านั้นเอง"

ช่วงแรกเห็นว่าเราเองก็แพ้หนักมาก ?
"หนักมากค่ะ เพราะระดับฮอร์โมนส์มันสูงมากจริงๆ"

ผู้ใหญ่ที่บ้านเตรียมรับขวัญหลานแฝดยังไงบ้าง ?
"ทุกคนก็คงตื่นเต้นกันนะคะ เพราะแม่ชมเองช่วงนี้ท่านก็เดินทางมาหาบ่อย หรือช่วงไหนที่คุณน็อตเขาต้องเดินทางไปต่างประเทศ คุณแม่เขาก็จะแวะมานอนด้วย อย่างช่วงที่ชมแพ้หนักๆ ชมก็จะอยากทานแต่อาหารที่คุณแม่ทำ คือตอนแพ้ท้องชมจะเรื่องมากสุดๆ ชมใช้สิทธิ์คนท้องตั้งแต่ประกาศว่าจะปล่อย (หัวเราะ)"

อาการแพ้ของเราตอนนี้ดีขึ้นยังไงบ้าง ?
"อาการเวียนหัวไม่มีแล้วค่ะ เวลาทานอาหารก็อร่อยขึ้น รู้รสชาติมากขึ้น แต่อาการอ่อนเพลียก็มีบ้างเวลาที่เราทำอะไรเร็วๆ"

เรื่องการออกกำลังกายเห็นว่าเราเองก็ยังออกกำลังกายอยู่ หลายคนถึงกับชมว่าคุณแม่ฟิตมาก ?
"ที่เห็นก็คือลูกชมไงคะ คือเราไม่มีพุง ดังนั้นข้างในท้องก็คือลูกล้วนๆ (หัวเราะ) ส่วนเรื่องออกกำลังกายชมก็ตั้งใจจะออกเรื่อยๆ นะคะ คือดูสภาพไปเรื่อยๆ เพราะคุณหมอเองก็ยังไม่ได้ห้ามอะไร คือออกกำลังกายอย่างปลอดภัย"

คุณหมอว่ายังไงบ้างเรื่องลูกในท้อง ?
"ลูกตัวโตนะคะ เพราะอัลตราซาวน์ครั้งล่าสุดมันเพิ่งจะ 16 สัปดาห์ แต่ว่าไซส์เขาเท่ากับเด็ก 18 สัปดาห์แล้ว ทั้งสองคนเลย น่าจะตัวใหญ่เหมือนกันค่ะ"

เอมมี่เขาเอาท้องมาชนเราบ้างไหมเพราะเขาเองก็ดูเหมือนอยากมีลูก ?
"คนนั้นเขาแล้วแต่อารมณ์ค่ะ ลมเพลมพัด (หัวเราะ)"

การใช้ชีวิตของเราตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ?
"ก็ทำทุกอย่างช้าลงค่ะ คือช้าลงแบบไม่น่าเชื่อ (หัวเราะ) ชีวิตตอนนี้นิ่งมาก สะดวกแบบนี้ เรื่องอะไรที่เมื่อก่อนเราเคยยี่หระเราก็ไม่ยี่หระ เพราะเรารู้แล้วว่าเรามีอะไรที่สำคัญมากกว่าในชีวิต"

ถามถึงเรื่องรองเท้าที่โพสต์อันนี้คือคุณพ่อเขาเห่อหรือว่ายัง ?
"อ๋อ คือก่อนหน้านี้มีคนให้ชมมาแล้วคู่หนึ่ง แต่ว่าเขาให้มาคู่เดียวไง พี่น็อตเขาก็เลยต้องไปหาอีกคู่หนึ่งมา (หัวเราะ)"

จะคลอดเองธรรมชาติหรือว่าผ่าคลอด ?
"ลูกแฝดคลอดเองคงไม่ไหวค่ะ (หัวเราะ)"

หลังจากกลับจากคานส์การทำงานของเราวางแพลนไว้ยังไงบ้าง ?
"มีจัดรายการ และก็ถ่ายโฆษณา คืองานก็ยังทำอยู่ ส่วนละครก็ปิดกล้องวันพุธนี้แล้ว คือถ้าจบละครทุกอย่างมันก็เบาไปหมด (ยิ้ม) ชิวๆ ค่ะ งานอีเว้นท์ก็ยังมี"