วิษณุ บอกเรือดำน้ำเอกสารลับให้ ประวิตร แจง

รองนายกฯ วิษณุ ย้ำไม่แถลงผล ครม.เรื่องเรือดำน้ำ เพราะเป็นเรื่องความลับ "พล.อ.ประวิตร" ผู้รับผิดชอบชี้แจงแล้ว ย้ำกลไก ป.ย.ป.ใช้เร่งรัดงานกระทรวง มั่นใจทหารดูยุทธศาสตร์ชาติได้

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบแผนการจัดซื้อเรือดำน้ำจีนลำแรกวันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมา ว่าสาเหตุที่กลาโหมเสนอเรื่องเป็นเอกสารชั้นความลับ หรือ เอกสารมุมแดง เพราะเป็นดุลพินิจของกลาโหมที่เห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นความลับ และเป็นวิธีปฏิบัติที่ทำต่อเนื่องกันมา 50 ปีแล้ว แต่หากประชาชนอยากรู้รายละเอียดก็ต้องเปิดเผยได้ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รมว. กลาโหม จะแถลงกรณีการจัดซื้อดังกล่าวในวันนี้ 

อย่างไรก็ตาม วันนี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เตรียมพิจารณายกเลิกข้อมูลในชั้นความลับหลายเรื่อง เพราะอาจขัดกับ พ.ร.บ. การรับรู้ข้อมูลข่าวสารของภาครัฐในอนาคต

นายวิษณุ กล่าวถึงความคืบหน้าการปฏิบัติงานของคณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ว่า ตามโครงสร้าง ป.ย.ป. สำนักบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรี (พีเอ็มดียู) มีหน้าที่ประสานงานเท่านั้น ส่วนหน้าที่ในการเร่งรัดการดำเนินงานของกระทรวงฯ เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการทั้ง 4 ชุด ที่อยู่ภายใต้ ป.ย.ป. 

ทั้งนี้ หากกระทรวงฯ ไม่สามารถดำเนินการตามมติ ป.ย.ป. คณะกรรมการทั้ง 4 ชุด สามารถเสนอต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อออกมาตรการบังคับหรือเร่งรัดการดำเนินการได้ 

อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการใช้มาตรการดังกล่าว เพราะทุกกระทรวงสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ นายวิษณุ กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ยุทธศาสตร์ชาติ ของคณะกรรมาธิการวิสามัญ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่า แม้จะมีทหารเป็นคณะกมธ.วิสามัญฯ จำนวนมาก แต่ไม่ส่งผลต่อการตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ และคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ เพราะตามรัฐธรรมนูญกำหนดองค์ประกอบของทั้ง 2 คณะไว้ชัดเจนแล้ว ทั้งกรณีที่คณะกรรมการยุทธศาสตร์ฯ 32 คน กันตำแหน่งสำหรับผู้บัญชาการเหล่าทัพไว้ เพราะผู้ร่างรัฐธรรมนูญเห็นความจำเป็นที่จะมีผู้พิจารณายุทธศาสตร์เกี่ยวกับความมั่นคง 

ส่วนคณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ฯ จะมี 15 คน ซึ่งจะเป็นผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญมีทั้งคนรุ่นใหม่และผู้อาวุโส แต่จะไม่ที่มาจากสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) แน่นอน