วิษณุปัดแก้คุณสมบัติกก.สรรหาคตง.ไม่รู้ปลดผอ.ทอท.

รองนายกฯวิษณุ ยันยังไม่ปลด ผอ.ทอท. รู้แล้วมีคนพยายามปล่อยข่าว โยน กมธ. เปิดเผยรายละเอียด 5 ข้อเสนอ-ชี้เลิกสัญญา คิงส์พาวเวอร์ เป็นเรื่องหน่วยงานต้นสังกัด ปัดแก้คุณสมบัติ คกก.สรรหา คตง.ชี้ยึดตาม รัฐธรรมนูญ ดูความจำเป็น ใช้ ม.44 แก้ปัญหา

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฏหมาย กล่าวถึงกรณีคณะกรรมาธิการวิสามัญขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ หรือ กมธ. ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศหรือ สปท. เสนอให้ปลด นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ว่า กมธ. มีรายงานส่งมายังรัฐบาล โดย นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ตนเองเป็นผู้พิจารณาเพราะมีเรื่องที่เกี่ยวกับสัญญาของร้านค้าปลอดภาษี ซึ่งเบื้องต้นได้เชิญ กรรมาธิการ ผอ.ทอท. และผู้ว่าสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ร่วมประชุมในประเด็นดังกล่าวซึ่งเป็นการหารืออย่างสร้างสรรค์ ใช้เวลา 3-4 ชั่วโมง รวมถึงชี้แจงประเด็นที่มีข้อสงสัย เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป จากนั้นจะสรุปรายงานเสนอนายกรัฐมนตรี รับทราบต่อไป

ทั้งนี้ นายวิษณุ ยืนยันว่า ในชั้นรัฐบาลไม่เคยปลดผู้อำนวยการ ทอท. อย่างที่เป็นข่าว แต่ทราบว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งพยายามปล่อยข่าว ซึ่งส่วนตัวทราบชื่อแล้วแต่ไม่ทราบวัตถุประสงค์ และไม่ใช่เรื่องผิด แต่หลังจากนี้ต้องระมัดระวังมากขึ้น เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน 

นายวิษณุ ยังกล่าวว่า ไม่ขอเปิดเผย ขณะที่ข้อเสนอ 5 ข้อของ กมธ. ขอให้ กมธ. เป็นผู้เปิดเผยเอง ส่วนการต่อสัญญาหรือยกเลิกสัญญากับกลุ่มบริษัท คิงพาวเวอร์ นั้น เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับตน แต่ขึ้นอยู่หน่วยงานต้นสังกัดของ ทอท. เป็นผู้พิจารณา และส่งให้กับ สตง. เป็นผู้ตรวจสอบด้วย ทั้งนี้เชื่อว่าข้อเสนอของ กมธ.ไม่เป็นการกดดันรัฐบาลเพื่อปลด ผอ.ทอท. แต่อย่างใด

นอกจากนี้ นายวิษณุ กล่าวถึงกรณีคุณสมบัติของคณะกรรมการสรรหาคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ คตง. ที่มีการวิจารณ์ว่าคุณสมบัติสูงว่า ยอมรับว่าเป็นการตั้งคุณสมบัติที่สูง โดยต้องไม่เป็นข้าราชการของหน่วยงานรัฐและอายุไม่เกิน 70 ปี ซึ่งหากสรรหาจากภาคเอกชนอาจมีความรู้ไม่เพียงพอ หรือหากมาจากข้าราชการบำนาญก็จะมีข้อติดขัดอีกมาก ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. เป็นผู้กำหนดไม่ใช่รัฐบาล ซึ่งส่วนตัวได้หารือกับ กรธ. ในประเด็นดังกล่าวเพื่อหาทางออกให้ชัดเจน แต่หากไม่สามารถหาคณะกรรมการสรรหาได้ตามกรอบเวลาก็จำเป็นต้องขยายเวลาออกไปอีก ส่วนจะใช้คำสั่งตามมาตรา 44 แก้ปัญหาดังกล่าวหรือไม่นั้นจะต้องดูความจำเป็นก่อน แต่จะไม่มีการแก้คุณสมบัติแต่อย่างใด เพราะเรื่องนี้อยู่ในรัฐธรรมนูญเพื่อสอดรับกฎหมายลูกอยู่แล้ว ซึ่ง กรธ.ได้เตรียมการแก้ไขเรื่องนี้แล้ว

นายวิษณุ ยังกล่าวถึงกรณีเครือข่ายพยาบาลวิชาชีพ ลูกจ้างชั่วคราว ขู่ลาออกยกกระทรวงในวันที่ 30 กันยายนนี้ เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับมติคณะรัฐมนตรีที่ไม่อนุมัติอัตราข้าราชการครั้งใหม่ ตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพ 1,992 อัตราว่า ทางคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ กพ. จะออกมาชี้แจงอย่างชัดเจนแล้วว่า เรื่องนี้ คณะกรรมการกำลังพลภาครัฐได้พิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบหลายครั้งและมีการอนุมัติตำแหน่งข้าราชการไปแล้วหลายอัตรา แต่อยู่ที่กระทรวงต่างๆ จะจัดสรร ซึ่งมีทั้งคนพอใจและไม่พอใจ จึงขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องอ่านและศึกษาอย่างละเอียดก่อน

ส่วนการไม่อนุมัติอัตราข้าราชการเพิ่มเติมนั้น นายวิษณุ กล่าว ยอมรับว่าส่วนหนึ่งช่วยประหยัดงบประมาณ แต่ไม่ใช่เหตุผลหลัก และยังมีอีกหลายเหตุผลเพราะทุกกระทรวงมีความต้องการเพิ่มอัตราข้าราชการอีก 1 แสนอัตรา ในขณะที่รัฐบาลพยายามตรึงอัตราข้าราชการไว้ที่ 4 แสนอัตรา ซึ่งการขู่ลาออกของพยาบาลวิชาชีพนั้น ทางกระทรวงสาธารณสุขก็ต้องออกมาชี้แจงและเจรจาถึงความจำเป็นในเรื่องนี้

ส่วนปัญหาการกำหนดระยะเวลาสรรหา คตง. และผู้ว่า สตง. ภายในเดือนกันยายนนี้จะสร้างความขัดแย้งในหน่วยงานหรือไม่นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า ความขัดแย้งภายในหน่วยงานย่อมมีอยู่แล้ว แต่ไม่ถึงกับแตกร้าว เพราะเป็นความคิดของแต่ละฝ่าย แต่สุดท้ายจะต้องจบลง