ย้อนรอยคดีโหด!! ผัวเก่าใจเหี้ยมราดน้ำมันจุดไฟเผาเมียท้องปางตาย

ย้อนรอยคดีโหด!! ผัวเก่าใจเหี้ยมราดน้ำมันจุดไฟเผาเมียท้องปางตาย

ย้อนรอยคดีโหด!! ผัวเก่าใจเหี้ยมราดน้ำมันจุดไฟเผาเมียท้องปางตาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากรณีที่สาวขอนแก่นวัย 17 ปี ถูกผัวเก่าวัย 27 ปี ใช้น้ำมันราดและจุดไฟเผาทั้งเป็น ขณะที่ตัวเองกำลังตั้งครรภ์ ซึ่งคดีผ่านมากว่า 1 ปี แต่ยังไม่สามารถจับตัวผู้ก่อเหตุได้ หลังจากที่ผู้ต้องหาหนีไปหลังจากได้รับประกันตัว ที่สำคัญยังกลับมาวนเวียนในหมู่บ้านจนผู้เสียหายจนไม่กล้าที่จะออกจากบ้าน

คดีนี้เกิดเหตุเมื่อวันที่ 24 ม.ค.59  ผู้ต้องหาคือ นายณรงค์ฤทธิ์ หรือ ไผ่ อายุ 26 ปี แฟนเก่าของสาววัย 16 ปี ที่คบหากันมานานกว่า 8 เดือน ก่อนจะเลิกรากันไปหลังจากมีเรื่องทะเลาะกันซึ่งมีสาเหตุมาจากความหึงหวง และนายณรงค์ฤทธิ์เป็นคนบ้านเดียวกันกับผู้เสียหายอีกด้วย

1wwq

ซึ่งหลังจากที่เลิกรากันไปได้ 1 อาทิตย์ นายณรงค์ฤทธิ์ได้โทรศัพท์มาอ้อนวอนให้ผู้เสียหายออกไปหาโดยบอกว่าอยากเจอหน้าเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นได้ชวนขึ้นไปเที่ยวน้ำตกบนเขา แต่ผู้เสียหายได้ปฏิเสธแล้วกำลังขี่รถกลับ แต่นายณรงค์ฤทธิ์ อดีตแฟนได้ขี่จักรยานยนต์ไล่ตามแล้วใช้เท้าถีบรถของจนล้มลง

จากนั้นได้เปิดใต้เบาะรถนำน้ำมันที่ใส่ถุงพลาสติกเตรียมไว้แล้วมาเทราดที่ตัวผู้เสียหายแล้วจุดไฟเผา ซึ่งผู้เสียหายได้ดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด จนกระทั่งมีชาวบ้านผ่านมาเห็นเหตุเหตุการณ์ จึงนำส่งโรงพยาบาล

ขณะที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล แพทย์ตรวจร่างกายจึงรู้ว่าตั้งครรภ์ได้ 1 เดือนเศษแล้ว ต้องทุกข์ทรมานรักษาตัวนานกว่า 1 ปี จนกระทั่งคลอดบุตรเป็นเด็กชาย แม้จะรอดชีวิตมาได้ แต่ร่างกายต้องพิการ มือทั้งสองข้างหงิกงอ มีแผลเป็นทั่วร่าง ไม่สามารถประกอบอาชีพได้

image2l9o9

ซึ่งผู้เสียหายได้เปิดเผยเหตุการณ์ในวันนั้นว่า “อดีตแฟนเก่าชวนหนูไปที่น้ำตกแต่หนูไม่ไปจึงเลี้ยวรถกลับจากนั้นเค้าก็ใช้เท้าถีบรถหนูจนล้มแล้วใช้น้ำมันที่อยู่ใต้เบาะมาราดที่ตัวและจุดไปเผา ตอนนั้นแฟนเก่ายืนดูหนูขณะที่หนูถูกไฟครอกอีกด้วยก่อนที่จะขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป

จากนั้นหนูก็สลบไปและมีคนนำตัวมาส่งที่โรงพยาบาล จึงอยากให้ตามจับตัวให้ได้และอยากให้กลับมาชดใช้ค่าเสียหายให้หนูด้วย เพราะหนูทำงานไม่ได้เลยลูกก็ยังเล็ก”

ซึ่งเหตุการณ์นี้น้องวัย 17 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกไฟไหม้ถึงระดับ 4 ซึ่ง เป็นระดับสูงสุดและได้พักรักษาตัวอยู่ประมาณ 3 เดือน ที่โรงพยาบาลก่อนกลับมาพักฟื้นที่อยู่บ้าน หลังจากนั้นก็ได้คลอดลูกชายขณะนี้อายุได้ 7 เดือนแล้ว

แต่ทางน้องไม่สามารถเลี้ยงลูกได้ เพราะไฟได้ไหม้ไปครึ่งตัวขยับตัวไม่ได้เพราะแผลตึงไปทุกส่วน นิ้วหงิกงอไม่สามารถจับของใหญ่ได้เลย รวมทั้งลูกแท้ๆของก็กลายเป็นภาระของแม่และญาติๆที่ต้องมาเลี้ยงแทน

1we

หลังจากเกิดเรื่องทางบ้านผู้ต้องหาได้ให้เงินช่วยเหลือแค่ 5,000 บาท พร้อมกับคำสัญญาว่าจะดูแลไปตลอดชีวิต แต่ถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ นอกจากนี้ยังมีข่าวลืออีกว่าพบนายณรงค์ฤทธิ์ ยังมาวนเวียนอยู่ภายในหมู่บ้าน ทางครอบครัวจึงอยู่ด้วยความหวาดระแวงเพราะนายณรงค์ฤทธิ์เป็นบุคคลอันตรายชอบทุบตีทำร้ายร่างกายกับทุกคนที่ทำให้เค้าไม่พอใจและจะพกพาอาวุธปืนตลอดเวลา

ทางทีมข่าว Sanook News! จึงได้สอบถามไปยัง พ.ต.อ.พิชิต ดียา ผกก.สภ.ภูผาม่าน ถึงความคืบหน้าของคดีซึ่งได้รับการเปิดเผยว่า คดีนี้เกิดเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2559 หลังเกิดเหตุเพียง 2 วัน ผู้ต้องหาคือ นายณรงค์ฤทธิ์ อายุ 27 ปี ได้เข้ามอบตัวกับกับพนักงานสอบสวน สภ.ภูผาม่าน และให้การรับสารภาพว่า

หึงหวงแฟนสาวที่เพิ่งอยู่กินกันไม่นานและระแวงว่าจะปันใจให้ชายอื่นจึงนัดเคลียร์ปัญหากัน แต่ตกลงกันไม่ได้จึงเกิดอารมณ์ชั่ววูบก่อเหตุดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตรวจจึงตั้งข้อหาพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและทำให้เสียทรัพย์ จากนั้นได้ทำสำนวนส่งอัยการและฝากขังที่ศาล แต่ผู้ต้องหาได้ยื่นประกันตัวในชั้นศาลและหลบหนีขณะได้รับการประกันตัว

18557378_964258280344007_3868

ซึ่งการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้นิ่งนอนใจได้ส่งสายสืบเข้าไปติดตามตลอดทั้งที่บ้านของผู้ต้องหา ซึ่งผู้ใหญ่บ้านก็ได้ให้ข้อมูลว่าผู้ต้องหาไม่ได้กลับมาที่บ้านเลยตั้งแต่ได้รับการประกันตัวในชั้นศาล รวมทั้งได้ส่งหมายศาลไปตามบ้านของญาติๆเพื่อขอความร่วมมืออีกด้วย

นอกจากนี้หากประชนพบเบาะแสหรือข้อมูลคนร้ายสามารถแจ้งมาได้ที่ สภ.ภูผาม่าน หรือ สถานีตำรวจใกล้เคียง และทางเราจะนำตัวมาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

คดีนี้ถือว่าเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญอย่างยิ่งเพราะคนร้ายมีพฤติการณ์ที่โหดเหี้ยมเป็นอย่างมาก ถึงขนาดวางแผนเตรียมการมาเป็นอย่างดี ถึงแม้ว่าผู้เสียหายจะสามารถรอดชีวิตมาได้แต่แผลกายและแผลใจยังคงบาดลึกอยู่ในความรู้สึกตลอดไป

“หนึ่งชีวิตต้องพังทลายเพราะอารมณ์ชั่ววูบของคนเพียงคนเดียว”

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook