เจ้าของอู่จับเสี่ยเรียกค่าไถ่ 2.9 ล้าน ฉุนไม่ให้ยืมเงินล้างหนี้

เจ้าของอู่จับเสี่ยเรียกค่าไถ่ 2.9 ล้าน ฉุนไม่ให้ยืมเงินล้างหนี้

เจ้าของอู่จับเสี่ยเรียกค่าไถ่ 2.9 ล้าน ฉุนไม่ให้ยืมเงินล้างหนี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(19 พ.ค.) บุตรชายของ นายสุรพล อายุ 57 ปี เสี่ยเจ้าของกิจการรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศชื่อดังในอำเภอแม่สาย เข้าแจ้งความต่อตำรวจ สภ.แม่สาย ระบุว่าบิดาของตนได้โทรศัพท์มาขอความช่วยเหลือ บอกว่าถูกทำร้ายร่างกายและถูกลักพาตัวไปกักขังไม่ทราบว่าที่ใด จากนั้นชุดสืบสวน สภ.แม่สาย จึงได้ออกสืบสวนหาข่าว จนทราบว่าครั้งสุดท้ายนายสุรพล เดินทางไปพบ นายเฉิน เจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์แห่งหนึ่งในอำเภอแม่สาย

จากนั้นบุคคลทั้งสองได้หายตัวไป พร้อมรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน สีขาว หมายเลขทะเบียน บน 8636 พะเยา และไม่สามารถติดต่อได้ จนกระทั่งเวลาประมาณ 09.00 น.เช้าวันนี้ ญาติของนายสุรพล ที่อยู่ประเทศเมียนมา ได้โทรมาแจ้งว่ามีโทรศัทพ์มาเรียกเงินค่าไถ่ตัวนายสุรพล จำนวน 2.9 ล้านบาท จากนั้นมีการโทรศัพท์ติดต่อมาเรียกเงินค่าไถ่ทุกระยะ จนกระทั่งชุดสืบสวนทำการสืบสวนทราบว่านายเฉิน ได้นำตัวนายสุรพลมากักขังไว้ในโกดังร้าง พื้นที่บ้านสันโค้งเหนือ ม.3 ต.ศรีเมืองชุม อ.แม่สาย ชุดสืบสวนจึงเข้าทำการช่วยเหลือนายสุรพล และจับกุมตัวนายเฉินไว้ได้

จากสอบสวนนายเฉินให้การว่า ได้นำตัวนายสุรพลมากักขังเพื่อเรียกค่าไถ่จริง โดยจับตัวนายสุรพลมัดติดกับเบาะนั่งข้างคนขับภายในรถกระบะ โดยใช้เชือกและเส้นลวดเท่าที่จะหาได้มามัดแขน ขา เอว และคอ ติดกับเบาะรถ ส่วนสาเหตุนายเฉินสารภาพว่า นายสุรพลเคยรับปากจะช่วยไถ่ถอนบ้านที่ติดจำนองกับบริษัทไฟแนนซ์ จำนวนเกือบ 4 ล้านบาทให้ เพราะตนเองขาดส่งมาได้ 3 เดือน จนบริษัทไฟแนนซ์โทรมาขู่ว่าจะฟ้องยึดบ้านและที่ดิน จึงได้นัดหมายกับนายสุรพลเพื่อให้มาพูดคุยกันที่อู่ซ่อมรถของตน

โดยการเจรจาไม่เป็นผล นายสุรพลได้ปฏิเสธที่จะให้การช่วยเหลือ ด้วยความโมโหตนจึงทำร้ายร่างกายมัดมือเท้านายสุรพลติดกับรถไว้เพื่อเรียกค่าไถ่ จนกระทั่งมาถูกจับตัวได้ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายเฉินส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่สาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook