รถพ่วงเหยียบสยอง 2 ศพ แก๊งมอเตอร์ไซค์นับร้อยขี่ไปชะอำ
แก๊งมอเตอร์ไซค์นับร้อยขี่บนถนนเพชรเกษม บึ่งจะไปร่วมงานที่ชะอำ ระหว่างทางประสบเหตุถูกรถพ่วงเหยียบดับสยอง 2 ศพ
(21 พ.ค.) ร.ต.อ.นิพนธ์ ศรนรินทร์ ร้อยเวร สภ.เขาย้อย อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักล้มแล้วรถบรรทุกเหยียบซ้ำ มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บสาหัส บนถนนเพชรเกษม ขาลงใต้ กม.ที่ 128+100 หน้าปั้มน้ำมันพีที หมู่ 2 ต.ห้วยโรง อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถานเพชรบุรี
จุดเกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์คาวาซากิ สีเขียว รุ่น KR150 ทะเบียน กลต 390 ราชบุรี จอดอยู่ไหล่ทางข้างซ้ายของถนน ส่วนผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลเขาย้อย ทราบชื่อต่อมาคือ นายนิพัทธ์ อายุ 21 ปี และ น.ส.สุภาภรณ์ อายุ 21 ปี สภาพท่อนล่างตั้งแต่เอวลงไป ถูกรถบรรทุกเหยียบทับ อาการสาหัส และได้เสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาลทั้งคู่
นอกจากนี้ยังพบรถบรรทุกกึ่งพ่วง ส่วนหัวทะเบียน 80-6605 นราธิวาส และส่วนพ่วงทะเบียน 80-6606 นราธิวาส สภาพรถมีร่องรอยครูดอยู่ที่ล้อหลังข้างซ้าย และมีรอยคราบเลือด ติดอยู่ที่ขอบล้อหลังข้างขวา นายพนม อายุ 34 ปี แสดงตัวเป็นผู้ขับรถ
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเบื้องต้นทราบว่า นายนิพัทธ์ และ น.ส.สุภาภรณ์ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันมา พร้อมกับขบวนรถจักรยานยนต์เพื่อนๆ อีกนับร้อยคัน โดยจะมุ่งหน้าไป อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ระหว่างทางรถจักรยานยนต์เกิดเสียหลักและล้มทำให้ นายนิพัทธ์ และ น.ส.สุภาภรณ์ กระเด็นเข้าไปในท้องรถบรรทุกที่ขับตามมาเหยียบจนเสียชีวิต
นายพนม คนขับรถพ่วงเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถบรรทุกพ่วงมุ่งหน้าลงใต้อยู่เลนกลาง เมื่อถึงจุดเกิดเหตุเห็นจักรยานยนต์กลุ่มใหญ่ ขับขี่อยู่เต็มช่องจราจรด้านซ้ายรวมถึงไหล่ถนน ก่อนจะรู้สึกว่ารถบรรทุกที่ตนขับอยู่เหยียบวัตถุบางอย่าง จึงพยายามเบี่ยงเข้าริมทาง แต่ก็ใช้ระยะทางพอสมควรเนื่องจากติดขบวนรถจักรยานยนต์ดังกล่าว
ช่วงที่รอจังหวะเลี้ยวเข้าข้างทางได้เห็นมีผู้ประสบเหตุอยู่กลางถนน โดยมีรถจักรยานยนต์ล้มอยู่ เมื่อจอดรถได้ลงไปตรวจสอบพบว่ารถบรรทุกที่ขับมาได้เหยียบวัยรุ่นหญิงชายที่ขับขี่กันมาเป็นขบวนดังกล่าว แต่ยืนยันว่าไม่ได้ขับชนแต่อย่างใด อีกทั้งตัวเองก็ขับอยู่เลนกลางขณะเกิดเหตุ
ส่วนสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า กลุ่มวัยรุ่นที่ขับขี่กันมาจำนวนมากอาจเกี่ยวกันเองจนเสียล้มและกระเด็นไปใต้ท้องรถบรรทุกและเหยียบจนเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เรียก นายพนม คนขับรถบรรทุกและทางกลุ่มของเพื่อนผู้เสียชีวิตมาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป