เค้นสอบร้านโอเกะเมียนมา 3 สาวฆ่าหั่นศพหนีกบดานจริง

เค้นสอบร้านโอเกะเมียนมา 3 สาวฆ่าหั่นศพหนีกบดานจริง

เค้นสอบร้านโอเกะเมียนมา 3 สาวฆ่าหั่นศพหนีกบดานจริง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ความคืบหน้ากรณี น.ส.กวิตา หรือ เอิร์น อายุ 25 ปี น.ส.ปรียานุช หรือ เปรี้ยว อายุ 24 ปี และ น.ส.อภิวันทน์ หรือ แจ้ อายุ 28 ปี  ผู้ต้องหาในข้อหา "ร่วมกันฆ่าผู้โดยเจตนาและปิดบังซ่อนเร้นทำลายศพ" คดีฆ่าหั่นศพ น.ส.วาริสรา หรือน้องแอ๋ม อายุ 22 ปี สาวร้านคาราโอเกะ ที่ ต.คำม่วง อ.เขาสวนกลาง จ.ขอนแก่น เหตุเกิดวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้หายไปจากการติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจเมียนมา หลังจากเจ้าหน้าที่ไทยสืบทราบว่าไปกบดานอยู่ที่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งในฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ตรงกันข้าม อ.แม่สาย จ.เชียงรายนั้น

เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจ ทหารและตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของจังหวัดท่าขี้เหล็ก ยังคงระดมกำลังออกค้นหาตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนตามคำร้องของ คณะกรรมการประสานงานชายแดนส่วนท้องถิ่น ไทย-เมียนมา หรือทีบีซี และตำรวจตรวจคนเข้าเมืองแม่สาย โดยทางทีบีซี ได้เดินทางไปให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับทางทีบีซีเมียนมา

ล่าสุด มีรายงานว่าทาง พ.ต.ท.เท่น วิน ผกก.สถานีตำรวจ จ.ท่าขี้เหล็ก พร้อมกำลัง 15 คน ได้ทำการตรวจสอบภายในร้านโอโซน สปา แอนด์ คาราโอเกะ ซึ่งเป็นจุดที่ถูกระบุว่าบุคคลทั้ง 3 จะหนีมากบดานเพื่อทำงานที่นี่ อยู่ห่างจากพรมแดนแม่สายประมาณ 4 กิโลเมตร ซึ่งไม่พบตัวทั้งหมดจึงทำการเชิญตัวผู้จัดการร้านพร้อมกับพนักงานสาวของร้านประมาณ 8 คน ไปสอบสวนที่สถานตำรวจเพื่อหาเบาะแสของบุคคลทั้ง 3  

โดยเบื้องต้นพนักงานทั้งหมดให้การตรงกันว่าพบเห็นบุคคลทั้ง 3 เข้ามาพักที่ห้องพักภายในร้าน ตั้งแต่ช่วงกลางคืนของวันที่ 25 พฤษภาคม และอยู่จนถึงช่วงเช้าวันที่ 28 พฤษภาคม จากนั้นช่วงบ่ายทั้งหมดก็ได้หายตัวไปโดยไม่ทราบว่าไปอยู่พื้นที่ใด ซึ่งเจ้าหน้าที่เมียนมากำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางหลบหนีและพื้นที่กบดานแหล่งใหม่ ซึ่งคาดว่าจะทราบผลภายใน 1-2 วันนี้่

สำหรับร้านคาราโอเกะดังกล่าวเดิมชื่อว่า สตาร์แทรค คาราโอเกะ ซึ่งบริหารงานโดยกลุ่มชาติพันธุ์ชาวว้าแดงกลุ่มหนึ่ง แต่ประสบปัญหาการขาดทุน จึงมีการปล่อยให้รับช่วงต่อ ซึ่งก็มีคนไทยเข้าไปเช่าทำมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2560 ต้นปีที่ผ่านมา เดือนละประมาณ 180,000 บาท  โดยเปิดเป็นร้านอาหารและคาราโอเกะ ซึ่งคนไทยที่อยู่ร้านดังกล่าวได้ไปรับหญิงสาวทั้ง 3 คนนี้ข้ามพรมแดนเข้าไปที่ร้าน ซึ่งมีรายงานว่าก่อนหน้านี้หญิงสาวทั้งหมด เคยเข้าไปทำงานงานในจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา แล้วหลายครั้งจนเป็นที่รู้จักของกลุ่มนักเที่ยวและคนมีเงินในพื้นที่เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตามการเดินทางเข้าพรมแดนครั้งนี้ ทั้ง 3 คน ได้เดินทางโดยบัตรผ่านแดนชั่วคราวหรือบอเดอร์พาส ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม ซึ่งในวันนี้จะครบกำหนดระยะ 7 วันของการอนุญาตข้ามแดน หากพ้นเวลา 21.00 น. จะถือว่าบุคคลทั้งหมดมีคดีหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของประเทศเมียนมาในทันทีล่าวมีความล่าช้าจนไม่สามารถที่จะปิดคดีได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook