ตี๋ เอเอฟ ขอโทษ ภาพว่อนโซเชียลกินไข่จากหน้าอก เอมมี่

กลายเป็นกระแสฮือฮาขึ้นมาทันที เมื่อมีภาพหลุดของหนุ่ม “ตี๋ วิวิศน์” หรือ “ตี๋ เอเอฟ 4” กำลังก้มกินไข่ต้มจากหน้าอกของสาวทรงโต “เอมมี่ อมลวรรณ” ซึ่งหลังจากที่ภาพถูกว่อนกระจายเต็มโลกโซเชียลก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมอย่างหนักหน่วง

ล่าสุด หนุ่มตี๋ได้ออกมาชี้แจงกับสื่อมวลชนให้ฟังว่า ภาพที่เห็นเป็นการเล่นเกมจากการถ่ายรายการซึ่งตั้งใจจะไม่นำมาเผยแพร่ตั้งแต่อัดเทปจบ และยังเผยต่อว่าส่วนตัวรู้จักกับเอมมี่อยู่แล้วเพราะเคยร่วมงานกันมาก่อน ไม่ได้มีอะไรเกินเลยแน่นอน พร้อมขอโทษภาพที่ออกมาทำให้เป็นแบบอย่างไม่ดีแก่เยาวชน

กับรูปที่ออกมากระแสวิพากษ์วิจารณ์เยอะมาก ?
“เริ่มจากวันแรกที่ผมตื่นมาตอนเช้าแล้วมีพี่ทีมงานทรูโทรมาบอกว่าพี่นักข่าวอยากขอสัมภาษณ์หน่อย ผมก็งงจะสัมภาษณ์อะไรเหรอ เขาบอกจะสัมภาษณ์เรื่องตี๋อมไข่ (หัวเราะ) ผมก็งงเพราะผมไม่เคยอมไข่ใคร จนวางสายไปเพื่อนก็เริ่มแชร์รูปให้ดู ผมเลยเข้าใจว่าวันนั้นจริงๆ เป็นวันที่ถ่ายรายการครับ เหมือนไปกินไปชิมตามที่ต่างๆ กับพี่กอล์ฟ เบญจพล ซึ่งเทปนั้นจะมีพี่เอมมี่ แม็กซิม ด้วยที่มาร่วมรายการ”

“จริงๆ มันคือการเล่นเกมที่จะมีในแต่ละเทปครับ ใครแพ้จะต้องโดนลงโทษ แต่ยอมรับว่าครั้งนี้อาจจะมันส์ไปหน่อย สนุกเกินไปหน่อย เล่นอาจจะดูล่อแหลมไปนิดนึง อันนี้ผมก็ต้องขอโทษทุกๆ ท่าน และขอโทษเยาวชนด้วยที่ภาพออกมาแล้วดูไม่ดี แต่จริงๆ หลังจากที่เล่นจบ ผมก็มีโอกาสได้คุยกับพี่กอล์ฟเลยว่ามันจะโอเคไหม ซึ่งเขาก็บอกว่าช็อตนี้ตอนออกอากาศต้องตัดทิ้งอยู่แล้ว เราก็คุยตั้งแต่ตอนนั้นเลย คือเราสามคนรู้จักกันมาก่อนหน้านี้เพราะเคยถ่ายรายการมาด้วยกัน เราจะรู้อยู่แล้วว่ามันเป็นงาน มันคือเกมที่เล่นกันสนุกๆ แต่ครั้งนี้อาจจะดูเกินเลยไปนิดนึง”

“พี่กอล์ฟตั้งจะตัดภาพนี้ตั้งแต่แรก แต่รูปดันหลุดออกมาซะก่อน ทั้งๆ ที่เทปนี้ยังไม่ได้ออกอากาศเลย เพิ่งถ่ายไปได้ 2-3 วันเอง แต่ครั้งนี้ผมก็ยอมรับนะ เพราะผมเป็นคนทำเอง ต้องขอโทษด้วยครับ”

กฎกติกาของรายการเป็นอย่างไร ทำไมถึงมีภาพนั้นออกมาได้ ?
“เวลาผมไปตามร้านแต่ละที่จะมีของกินอร่อยๆ เราจะเล่นเกมกันว่าใครแพ้อดกินอาหารเมนูนั้นๆ ถ้าผมแพ้ผมก็อดกิน แต่ถ้าอยากจะกินก็ต้องมีบทลงโทษอะไรสักอย่างเพื่อจะได้กิน มันเลยมีช็อตนี้ขึ้นมา”

พอภาพหลุดออกมาส่งผลกระทบกับเรามากแค่ไหน ?
“ก็มีคนใกล้ตัวแชร์ให้ดูเยอะมาก มีมาแซว แต่ผมไม่ค่อยกล้าเข้าไปอ่านคอมเม้นท์เท่าไหร่ เพราะกลัวเฟลเหมือนกัน อีกอย่างผมก็รู้อยู่แล้วว่าอันนี้ผมก็พลาดไปเอง”

บางคอมเม้นท์บอกว่าเราไม่ให้เกียรติผู้หญิง ถึงแม้จะเป็นการเล่นเกมก็ตาม ?
“ส่วนตัวผม ผมให้เกียรติผู้หญิงทุกคนแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่อันนี้ได้มีการคุยกับเอมมี่ล่วงหน้าแล้วว่ามันคือเกม และตัวเอมมี่เองก็สนุก เราสนุกกับเกมกันหมดเพราะเรารู้จักกัน มันคืองาน ไม่มีอะไรเกินเลยไปมากกว่านั้น แต่ถ้าผิดพลาดยังไงก็ต้องขอโทษเอมมี่ด้วยครับ และตั้งแต่มีข่าวผมยังไม่มีโอกาสได้คุยกับเอมมี่ แต่คือทุกคนรู้กันอยู่แล้ว”

ตอนทำเราได้คิดไว้ไหมว่าจะมีกระแสด้านลบออกมา ?
“(หัวเราะ) ตอนทำมันยังไม่ทันได้คิดไง แต่พอทำเสร็จก็ อุ๊ย! แต่ก็อย่างที่ผมบอกครับ ผมมีโอกาสได้คุยกับพี่กอล์ฟตอนถ่ายช็อตนั้นเสร็จเลยว่าตัดทิ้งอยู่แล้ว”

เราได้ถามไหม ว่ารูปหลุดออกมาได้ยังไง ?
“อันนี้ไม่ทราบจริงๆ ครับ พี่กอล์ฟกับทีมงานเขาก็บอกว่าไม่ได้ปล่อยจริงๆ ซึ่งตรงนั้นเป็นร้านอาหารไง ผมก็ไม่รู้ว่าจะมีคนถ่ายไว้หรือเปล่า”

หลังจากนี้จะเล่นอะไรต้องระวังมากขึ้นไหม ?
“แน่นอนครับ เราถือว่าเป็นคนสาธารณะแล้ว คิดอะไรต้องทำให้รอบคอบและถี่ถ้วนขึ้น บางทีเราทำอะไรไปมีเยาวชนดูอยู่เยอะ อาจจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ครั้งนี้ก็ให้ถือว่าเป็นเคสตัวอย่างกับในสิ่งที่ไม่เหมาะไม่ควร ต้องขอโทษด้วยครับ”

หลายคนมองภาพพจน์เราเป็นตี๋สายหื่นไปแล้ว ?
“(หัวเราะ) ก็แล้วแต่จะมองแล้วกัน คือผมเองก็ไม่ได้จะปฏิเสธว่าเป็นคนขนาดนั้น ฟิวส์ผู้ชายผมต้องยอมรับว่าเห็นผู้หญิงสวยๆ ผมก็ชอบ แต่บางทีการออกรายการอาจจะต้องมีบวกเพิ่มไปนึกออกใช่ไหมครับ มันคือการเอนเตอร์เทรนให้คนดูสนุก แต่สุดท้ายให้มันอยู่ในความพอดีแล้วกัน”

ทางครอบครัวเราว่าอย่างไรบ้าง ?
“เขารู้อยู่แล้วว่าผมเป็นคนแบบไหน ผมไม่เคยที่จะไม่ให้เกียรติผู้หญิง ส่วนทางต้นสังกัดผมก็มีโอกาสได้คุย ก็ได้อธิบายไปตามที่ผมได้บอกพี่ๆ ครับ เขาก็เข้าใจ”

แฟนว่ายังไงบ้าง ?
“(หัวเราะ) ก็มีที่คุยอยู่ เขาก็เข้าใจนะครับ มันเป็นงาน ส่วนเขาจะเป็นใครนั้นผมยังไม่ขอบอกได้ไหม ยังคุยๆ กันอยู่ ถามว่าคนในหรือนอกวงการ คือเขามีทำงานในวงการบ้าง เข้าๆ ออกๆ ผมเพิ่งเริ่มคุยได้ 2-3 เดือนเองครับ ขอให้มันชัวร์ก่อนดีกว่า”

เรียกว่าเป็นรักครั้งใหม่ได้เลยใช่ไหม ?
“ก็ถือว่าโอเคครับ”

ที่ผ่านมาเราค่อนข้างจะผิดหวังเสียใจในเรื่องความรัก ตอนนี้มีเข็ดไหม ?
“ผมคงไม่เข็ดหรอกครับ ชีวิตยังมีอะไรอีกเยอะ แต่อาจจะต้องมีความละเอียดรอบคอบขึ้น ทุกครั้งเวลาผมคบใครและต้องเลิก ผมจะมองที่ตัวผมเองก่อนว่ามันเกิดเพราะอะไร เราไม่ได้โทษเขาฝ่ายเดียว”