ผัวสารภาพ อ้างทำปืนลั่นใส่เมียดับ ก่อนอุ้มศพส่งรพ.

จากกรณีเมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา รพ.แม่ทะ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ได้รับศพของ น.ส.กรรณิการ์ อายุ 27 ปี โดยสภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนที่บริเวณหน้าผาก 1 นัด ซึ่งมีนายไพโรจน์ อายุ 39 ปี สามีของผู้ตาย และนายบุญมา อายุ 29 ปี  ได้ขับรถเก๋งมาส่งที่รพ. ก่อนที่ทั้งสองคนจะออกไป และกลับมาอีกครั้งพร้อมกับทนายความ

เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวทั้ง 2 คนมาทำการสอบสวน ซึ่งจากการตรวจปัสสาวะพบว่าสามีของผู้ตาย พบว่ามีปัสสาวะสีม่วง และได้รับสารภาพว่าเสพยาบ้ามา ส่วนเพื่อนที่มาด้วยตรวจไม่พบสารเสพติด ก่อนจะนำตัวมาสอบสวนโดยละเอียดอีกครั้ง

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (18 ก.ค.) พ.ต.ท.ประภาส อุบลศรี รอง ผกก.ป.สภ.แม่ทะ ได้เปิดเผยว่าหลังจากเกิดเหตุดังกล่าวขึ้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนก็ได้ลงพื้นที่หาข่าวและมุ่งปมไปที่เรื่องยาเสพติดเพราะว่าจากการตรวจสอบประวัติผู้ตายพบว่าเคยต้องโทษในคดียาเสพติดและพึ่งพ้นโทษเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา นายไพโรจน์และนายบุญมา ก็มีประวัติพัวพันเกี่ยวข้องกับยาเสพติด

โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ควบคุมตัวทั้ง 2 คนมาทำการสอบปากคำเป็นเวลานานหลายชั่วโมงจนในที่สุดนายไพโรจน์ฯ สามีของผู้ตายก็ได้เปิดปากรับสารภาพว่าตนเป็นคนยิง น.ส.กรรณิการ์ฯ จนเสียชีวิตจริงดังกล่าว

นายไพโรจน์ เผยว่าในคืนเกิดเหตุตนได้ขับรถไปส่งผู้ตายที่จุดเกิดเหตุคือสะพานบ้านหัวเสือ ต.หัวเสือ อ.แม่ทะ โดยผู้ตายได้นัดพูดคุยตกลงกับพ่อค้ายาบ้ารายหนึ่งในพื้นที่ ซึ่งเมื่อไปถึงผู้ตายก็ได้นั่งรอในรถแต่ตนเองและนายบุญมา ได้ลงจากรถและเดินไปปัสสาวะที่ข้างทางจริง แต่เมื่อกลับมาที่รถพบผู้ตายได้นำปืนที่พกมาด้วยเอามาถือเล่นแกว่งไปมา

ตนจึงได้บอกให้ผู้ตายเก็บแต่ผู้ตายไม่ยอมเก็บ จึงได้มีการยื้อแย่งกันเกิดขึ้น ซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่าผู้ตายได้ขึ้นลำกล้องปืนไว้ จนทำให้เกิดปืนลั่นกระสุนเจาะเข้าที่หน้าผากผู้ตายจนฟุบหมดสติ ด้วยความตกใจตนจึงรีบพาตัวผู้ตายไปส่ง รพ.แม่ทะ ส่วนปืนกระบอกดังกล่าวพ่อค้ายาบ้าที่มาหาได้เป็นคนเก็บเอาไปซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามต่อไป

อย่างไรก็ตาม นายไพโรจน์ ยังได้ให้การเปิดปากพูดทั้งน้ำตากับพนักงานสอบสวน สภ.แม่ทะลำปาง ว่าตนเองรักเมียของตนเองมาก ซึ่งไม่ได้ตั้งใจที่จะทำปืนลั่น แต่ตนเพียงต้องการให้ผู้ตายเก็บปืน เพราะมันอันตราย แต่ผู้ตายไม่ยอมเชื่อฟังจนเกิดเหตุสลดดังกล่าวขึ้น

ซึ่งหลังเกิดเหตุตนเอง ก็ได้รีบขับรถอย่างเร็วเพื่อนำตัวผู้ตายไปส่งโรงพยาบาลแต่ก็ไม่ทันการณ์ผู้ตายได้เสียชีวิตก่อนแล้ว ซึ่งตนเองรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหากระทำการโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป