เปิดตัวมือปืนลั่นไก “ฆ่ายกครัว” รายที่ 2 คู่ “ซูริก์ฟัต”

ชุดสืบสวนคลี่คลายคดีคนร้ายฆ่ายกครัว 8 ศพที่ จังหวัดกระบี่ พบเบาะแสมือปืนรายที่ 2 ร่วมกับ “ซูริก์ฟัต” ก่อเหตุสังหารโหด และมือปืนรายที่ 2 เป็นคนปลิดชีพผู้ใหญ่วรยุทธ

วันนี้ (18 ก.ค.60) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายซูริก์ฟัต อาจไม่ใช่ผู้ต้องสงสัยที่ฆาตกรรมครอบครัวผู้ใหญ่วรยุทธเพียงคนเดียว ตามที่แถลงข่าวของพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แถลงข่าวเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังจากที่มีข้อมูลที่ยืนยันได้ว่าคนที่ใช้ปืนยิงผู้ใหญ่วรยุทธ คือ ผู้ต้องสงสัยอีกคนที่อยู่ในการควบคุมตัวของตำรวจ

รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ต้องสงสัยรายนี้คือหนึ่งใน 9 คน ที่ตำรวจควบคุมตัว การสอบปากคำตลอดหลายวันที่ผ่านมา ทำให้ตำรวจทราบว่า นายอรุณ คือคนที่ร่วมก่อเหตุยิงนายวรยุทธ ผู้ใหญ่บ้าน เสียชีวิต ส่วนนายซูริก์ฟัต คือมือปืนที่ยิง 7 คนที่เหลือเสียชีวิต

ทั้งนี้ หากเป็นเช่นนี้คดีฆาตกรรมยกครัว 8 ศพ ไม่ใช่นายซูริก์ฟัต เพียงคนเดียวที่เป็นคนวางแผนก่อเหตุ และลงมือก่อเหตุ นอกจากนี้ รายงานระบุว่า ในวันเกิดเหตุนายอรุณและนายธวัฒชัย ผู้ต้องสงสัยอีกคน วิ่งตามจับผู้ใหญ่วรยุทธในสวนปาล์มข้างบ้าน หลังผู้ใหญ่วรยุทธขัดขืนและจะหลบหนี ก่อนที่จะลากเข้ามายิงในบ้าน ถ้าตามข้อมูลนี้หมายความว่า คนที่ก่อเหตุยิง มีสองคน คือนายซูริก์ฟัตและนายอรุณ ซึ่งจะมีผลต่อการตั้งข้อหาของตำรวจด้วย

จากรายงานแจ้งว่าชุดสืบสวนคลี่คลายคดีพบความเชื่อมโยงบางอย่าง หลังได้ผลชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต 8 คน จึงพิเคราะห์ว่า เหตุใดนายซูริก์ฟัตถึงได้ยิงนายสุทธิพงศ์ หนึ่งในกลุ่มผู้เสียชีวิต ด้วยปืนขนาด .38 ถึง 4 นัด แต่ยิงผู้เสียชีวิตคนอื่น 1 นัด ทางชุดสืบสวนจึงเชื่อว่านายนายซูริก์ฟัต อาจมีปัญหาส่วนตัวกับนายสุทธิพงศ์หรือไม่ หรืออีกสมมุติฐานหนึ่งคือขณะควบคุมตัว นายสุทธิพงศ์ได้ต่อสู้หรือไม่ ซึ่งชุดสืบสวนจะสอบปากคำ นายซูริก์ฟัตอย่างละเอียด

สำหรับความคืบหน้าขณะนี้อยู่ระหว่างคัดกรองผู้ต้องสงสัยเพื่อแบ่งเป็นชุดปฏิบัติการที่เข้าไปก่อเหตุเป็นชาย 7 คน ส่วนหญิง 1 คน เป็นคนสนิทของนายซูริก์ฟัต คอยสนับสนุนซื้ออาหาร น้ำดื่ม และชุดลายพรางให้ผู้ก่อเหตุ

ส่วนข้อหาตำรวจเตรียมตั้งกับผู้ต้องสงสัย คือร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวโดยทำร้ายจิตใจผู้อื่น แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ทหาร นอกจากนี้ ยังมีข้อหาอื่นๆ ที่เป็นส่วนย่อยจะต้องแจ้งกับผู้ต้องสงสัยบางคนด้วย

นอกจากนี้ ยังมีความชัดเจนเรื่องข้อพิพาทที่ดิน หลังพบว่าที่ดิน 2 แปลง ที่ผู้ใหญ่วรยุทธนำไปจำนองกับนายซูริกฟัต เพื่อกู้เงิน 750,000 เป็นการทำสัญญาซื้อขาย ไม่ใช่สัญญากู้ยืม และไม่ใช่การฝากขายตามที่ปรากฏก่อนหน้านี้ และยังพบว่าทำธุรกรรมที่เรียกว่าสัญญาใจ ที่ตกลงกันว่า เมื่อจ่ายเงินคืนครบพร้อมดอกเบี้ย จะได้รับที่ดินคืน 

แต่เมื่อผู้ใหญ่วรยุทธ จ่ายเงินค่าที่ดิน พร้อมดอกเบี้ย คืนหมดแล้ว กลับไม่ได้ที่ดินคืนตามสัญญาใจ เพราะที่ดินถูกโอนเป็นชื่อนายซูริก์ฟัต ก่อนที่นายซูริก์ฟัต จะนำที่ดิน 2 แปลงนี้ และอีกหลายแปลงของลูกค้ารายอื่น ทำโอดีกับธนาคาร เพื่อเอาเงิน 10 ล้านบาทออกมา แต่เมื่อถูกทวงโฉนดที่ดินคืนกลับไม่มีให้ เพราะไม่มีเงินพอที่จะไปถอนคืนจากธนาคาร จึงเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งขึ้น

ผู้ต้องสงสัยทั้งหมด 9 คนที่ถูกควบคุมตัว คาดว่าจะถูกแจ้งข้อหาหลังตำรวจขอศาลอนุมัติออกหมายจับ คาดว่าไม่เกิน 2 วันนี้ โดยในช่วงบ่าย พลตำรวจเอกสุชาติ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษา สบ.10 จะประชุมเร่งรัดเรื่องเอกสาร เพื่อขอศาลอนุมัติออกหมายจับ ที่ กองบังคับการตำรวจภูธร จังหวัดกระบี่