แก้ว อ๊อด ร่วมเฟรม ขอบคุณทุกความรักที่ส่งให้ลูกสาว น้องเบลล์

 

ถึงแม้หน้าที่ของสามีภรรยาระหว่าง "แก้ว อภิรดี" กับอดีตสามี "อ๊อด โอภาส" จะจบลงแล้ว แต่หน้าที่ความเป็นพ่อและแม่ยังมีให้เสมอโดยไม่ทำให้ลูกต้องรู้สึกขาดอะไร อย่างล่าสุดก็มีโอกาสได้เห็นทั้งคู่ได้กลับมาร่วมเฟรมถ่ายภาพและสัมภาษณ์พร้อมหน้าพร้อมตา โดยมีลูกสาวคนเล็กอย่าง "เบลล์ เลลาณี" ที่พ่วงตำแหน่งมิสแกรนด์สระบุรีอยู่ด้วย

ซึ่งทั้ง 3 คนได้เปิดใจถึงคำสอนต่างๆ ของพ่อและแม่ร่วมกันเป็นครั้งแรก หลังจากที่น้องเบลล์เริ่มก้าวเข้าสู่วงการนางงามจนมีกระแสดราม่าอื่นตามมาเพียบพร้อมยังขอบคุณทุกคนที่รักและเอ็นดูลูกสาวคนนี้

แก้ว อภิรดี : "สำหรับงานในวันนี้ชื่อก็ชัดเจนอยู่แล้วคือ ขอบคุณที่รักกันนะคะ เพราะพี่แก้วรู้สึกได้ว่าวันนี้ที่น้องเบลล์ได้รับอุปการะคุณทั้งหมดก็เพราะว่ามีทุกคนที่รักเรา"

เบลล์ เลลาณี : "เบลล์ก็มีวันนี้ไม่ได้เลยนะคะถ้าขาดมามี๊กับปะป๋าที่คอยเป็นกำลังใจสำคัญของเบลล์ มันอัดอั้นจนไม่รู้จะพูดออกมาเป็นคำพูดยังไงเลยค่ะ เบลล์ดีใจที่ได้เกิดเป็นลูกคุณพ่อคุณแม่นะคะ และดีใจมากๆ ที่มีวันนี้ คุณพ่อคุณแม่คือเบื้องหลังการประสบความสำเร็จของเบลล์ค่ะ"

อ๊อด โอภาส : "ดีใจกับเขา เพราะเขาไปได้ไกลกว่าที่เคยคิดไว้ ตอนแรกกะแค่ว่าจะทดลองดูเฉยๆ แต่เบลล์เขาเป็นคนที่มีความตั้งใจสูงในการจะทำอะไรเขาจะตั้งใจมาก เราในฐานะคนเป็นพ่อก็จะสนับสนุน ก็เท่านั้นแหละครับเท่าที่เราจะทำได้"

แก้ว อภิรดี : "เราเป็นคนเลี้ยงลูกแบบตามสบายนะคะ ในเรื่องของกรอบระเบียบก็มีพอสมควรแต่ไม่ได้มากอะไรนัก ที่สำคัญการที่จะทำอะไรก็แล้วแต่ต้องอยู่ในความชอบของเขาด้วย ไม่ว่าในเรื่องของความสามารถ หรือเรื่องของการคิดอ่าน เราจะแชร์กันเสมอว่าเขาชอบไหม อันนี้ลูกอยากทำ อยากทำจริงไหม คือเราจะแค่วางแผนให้ แต่ถ้าเขาไม่ทำ เราจะไม่บังคับ แต่อันไหนที่เขาอยากทำเราจะคอยซัพพอร์ตเต็มที่ค่ะ"

ที่ผ่านมาในกองประกวดมีข่าวดราม่าออกมาเยอะมาก อย่างเรื่องที่เพื่อนนางงามคอยเขม่นเราจริงไหม ?
เบลล์ เลลาณี : "เพื่อนเขม่นเหรอคะ ไม่มีนะคะ จริงๆ ในกองทุกคนเป็นเพื่อนกันหมดค่ะ คนจะชอบคิดว่าถ้าประกวดนางงามจะต้องมีสงครามนางงามแน่เลย จริงๆ ไม่มีนะคะ ทุกคนเป็นเพื่อนกัน คอยช่วยเหลือกัน ที่สำคัญเพื่อนจะคอยช่วยเบลล์ดูเรื่องการแต่งหน้า การแต่งตัวหมดเลยค่ะ เพื่อนๆ ทุกคนน่ารักมากค่ะ"

เครียดไหมที่หลายคนมองว่าเราเป็นลูก แก้ว อภิรดี กับ อ๊อด โอภาส จนทำให้มาถึงจุดนี้ ?
เบลล์ เลลาณี : "ถามว่าเครียดไหม ตอนได้อ่านคอมเม้นท์ใหม่ๆ ก็แอบเครียดค่ะ มีกดดันบ้าง แต่หนูรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องปกติ เพราะถ้าเป็นหนูแล้วเจอหนึ่งในผู้เข้าประกวดมิสแกรนด์ฯ คนหนึ่งเป็นลูกคนดัง หนูก็ให้ความสนใจค่ะ แต่สิ่งที่หนูกดดันตัวเองมากกว่าก็คือในเมื่อเรามีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ออกมาก็อยากจะทำให้ดีที่สุด ไม่ใช่ทำเพื่อลบล้างคำที่เขาพูดกันออกมานะคะ แต่ทำเพื่อเอาชนะใจตัวเองค่ะ"

พอกระแสข่าวออกมาแบบนี้ คุณพ่อคุณแม่ให้กำลังใจยังไงบ้าง ?
เบลล์ เลลาณี : "คุณพ่อคุณแม่จะบอกตลอดค่ะว่าอย่าอ่าน เพราะถ้าอ่านแล้วจะทำให้เครียด อยากให้ไปโฟกัสในสิ่งที่เราตั้งใจทำดีกว่า เพราะในโลกนี้เราไม่สามารถไปเปลี่ยนความคิดใครได้ อยากให้เราตั้งใจและเอาตรงนั้นมาเป็นแรงผลักดันดีกว่า"

อ๊อด โอภาส : "ผมพยายามอธิบายกับเขาเรื่องเกรียนคีย์บอร์ดที่เป็นศัพท์ในโซเชียล คำว่าเกรียนคีย์บอร์ดคือไม่ค่อยมีอะไรจะถูกใจเขาหรอกครับ ถ้าขัดใจอะไรสักอย่างก็จะเริ่มขยายความไปกันใหญ่ แต่เรื่องกันเองบ้าง ไปตะมุตะมิกันหมดเลย แต่ส่วนใหญ่จะดีครับ มีน้อยมากที่เป็นแบบนี้ ซึ่งผมเชื่อว่าเกรียนคีย์บอร์ดมีอยู่ทุกวงการครับ"

แก้ว อภิรดี : "เราจะบอกลูกเสมอว่าอะไรที่เราไม่ได้ทำ เราก็ไม่เห็นจะต้องรู้สึกอะไร ซึ่งถ้าเราทำอะไรไม่ถูกไม่ควร แน่นอนว่าเราควรที่จะละอาย แต่ทีนี้เราไม่ได้ทำ เราก็ไม่ต้องรู้สึกอะไรอยู่แล้ว เพราะน่าจะเป็นเรื่องที่เข้าใจผิด และที่สำคัญที่สุดนะคะ อยากจะบอกให้ทุกคนทราบว่าการที่น้องเบลล์เกิดมาเป็นลูกพี่แก้ว ทั้งน้องเบลล์ น้องบูม น้องแบงค์ จริงๆ แล้วคนอื่นอาจจะไม่เข้าใจ คือลูกแก้วทุกคนไม่อยากจะบอกใครเลยว่ามีแม่ชื่อ อภิรดี พ่อชื่อ โอภาส ไม่ใช่ว่าอายนะคะ แต่เขาอยากยืนได้ด้วยตัวเอง ว่าจะเป็นการสมัครงานหรือการหางานทำ น้องจะเป็นคนทำด้วยตัวเอง แม้แต่ก่อนเรียนจบที่ต้องไปฝึกงานที่ไหนก็ไม่เคยบอกใครเลย"

อ๊อด โอภาส : "อย่างน้องบูมลูกคนโตเขาเป็นนักบินอยู่ไทยไลอ้อนแอร์ เขาไปสมัครงานผมก็ไม่ได้ไปช่วยอะไรเลย จะมาบอกว่าพ่อแม่เป็นดารา ลูกก็เลยได้ขับเครื่องบินมันก็ไม่ใช่นะครับ"

เบลล์ เลลาณี : "ความชอบของ 3 พี่น้องจะคนละแบบเลยค่ะ แต่เบลล์จะชอบเหมือนคุณพ่อคุณแม่ เพราะเห็นท่านเป็นแรงบันดาลใจมาตั้งแต่เด็ก ก็เลยรู้สึกว่าเหมือนอยู่ในแวดวงนี้มาตลอด มันเลยไม่แปลกถ้าหนูจะชอบหรืออยากเป็นอะไรในสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่หนูเป็นค่ะ"

มันมีอีกกระแสดราม่า บอกว่าเบลล์ตบตีกับเพื่อนนางงามเพื่อแย่ง อาเมน เดอะสตาร์ ?
เบลล์ เลลาณี : "เบลล์ขอเคลียร์ตรงนี้เลยนะคะ ว่าข่าวนี้ไม่ใช่เรื่องจริง อีกอย่างความปลอดภัยในงานสูงมากสำหรับคนที่จะเข้าไปในงานได้ ในเนื้อข่าวเขียนว่ามีการทะเลาะกันหลังเวที แต่ถ้าการป้องกันความปลอดภัยสูง คนอื่นไม่มีทางจะเข้าไปได้ เรื่องนี้จึงไม่สามารถเกิดขึ้นได้"

อ๊อด โอภาส : "ผมจะเข้าไปหาลูกหลังเวทียังเข้าไม่ได้เลยครับ"

ทำไมอยู่ๆ ถึงมีข่าวแบบนี้ออกมา ?
เบลล์ เลลาณี : "หนูไม่ทราบเหมือนกันว่าเกิดขึ้นได้ยังไง พอเห็นข่าวก็ตกใจ แปลกดีเนอะมันไม่เคยมีเรื่องแบบนี้เลยแต่มีข่าวออกมาได้ยังไง คุณพ่อคุณแม่เขาเชื่อเพราะเขารู้จักเบลล์ดี และเขาก็รู้ว่าเบลล์ไม่มีทางทำอะไรแบบนั้นแน่ แต่คนที่เบลล์เป็นกังวลว่าเขาจะไม่เชื่อ และคิดว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า คือคนที่เสพข่าว ที่สำคัญคือแฟนคลับของเบลล์ กลัวว่าเขาจะคิดว่าเบลล์เป็นคนนิสัยแบบนี้จริงๆ เหรอ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องจริงค่ะ"

อ๊อด โอภาส : "ผมไปตอบในคอมเม้นต์ข่าวนั้นเลยนะ อีกวันจะเป็นวันตัดสิน ข่าวนี้ถูกปล่อยออกมาก่อนวันตัดสิน 1 วัน ผมมีความคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าใช่เรื่องปกติ ก็เลยต้องไปปรามไว้นิดนึงว่า ใครทำอะไรผมรู้นะ คนที่ไปปูดข่าวบอกสื่อคือใคร ทำไมถึงใช้วิธีแบบนี้ เพราะมันไม่ใช่เรื่องจริงแน่ ผมเป็นพ่อเขายังเข้าหลังเวทีไม่ได้เลย ถึงได้บอกว่าพวกนี้เป็นเกรียนคีย์บอร์ดครับ"

แล้วสถานะกับ อาเมน เดอะสตาร์ ตกลงเป็นอะไรกัน ?
เบลล์ เลลาณี : "เป็นพี่น้องกันค่ะ หนูอยู่โรงเรียนหญิงล้วนมา 12 ปี ให้หนูมีเพื่อนผู้ชายบ้างก็ดีค่ะ (หัวเราะ)"

แก้ว อภิรดี : "เรื่องความรักของลูกต้องถามแม่นะคะ พี่คือตัวแทรกแซง พี่ว่าเขายังไม่ถึงวาระ ยังไม่ถึงวัย มีความรักและปรารถนาดีต่อกันก็พอแล้ว พี่ไม่ปิดแต่กั้น พี่เป็นแม่รักและดูแลลูกมาดีขนาดนี้ ถ้าใครก็ตามมาดูแลไม่ได้ครึ่งนึงของพี่ก็ดูแลตัวเองก่อนดีไหม ใครเข้ามาพี่ไม่สกรีนแต่ดูทุกอย่าง"

อ๊อด โอภาส : "เขามีเพื่อนผู้ชายบ้างก็เป็นเรื่องที่ดี มีแต่เพื่อนผู้หญิงเยอะๆ ผมก็ไม่ค่อยแฮปปี้เท่าไหร่ เพราะดูแล้วมันจะยังไงนะลูกเราเป็นผู้หญิง ต้องมีเพื่อนผู้ชายบ้าง เหมือนมีลูกผู้ชายก็ต้องมีเพื่อนหญิงบ้าง เราเป็นห่วงเขา เลี้ยงดูเขามาแบบดีที่สุดเท่าที่เราทำได้ ฉะนั้นใครจะมารับลูกเราไปเลี้ยงดูก็ต้องดูนิดนึงว่าเขาโอเคไหม เบลเป็นน้องเล็ก เขามีพี่ชายอีก 2 คนด้วยนะ มีแฟนได้ไม่ใช่ไม่ได้ เมื่อถึงวัยนึงต้องมีแฟนอยู่แล้ว ไม่มีสิแปลก แต่ตอนนี้เราจะคอยดูให้ว่าคนไหนดีไม่ดี เราจะรู้ น้องยังเด็กบางทีเขายังมองไม่ออก"

อาเมนเขามีท่าทีมาจีบลูกสาวเราไหม ?
แก้ว อภิรดี : "ไม่ถือว่าจีบนะ เพราะถ้ามาจีบคงไม่ได้เข้ามาถึงแน่นอน ถ้าไม่ได้มาในลักษณะดูแลกันแบบพี่ชาย หรือเป็นผู้หวังดีชวนกันไปเที่ยว ก็คงมาไม่ถึงบ้านหรอก เบลล์รู้อยู่แล้วว่าพ่อแม่ไม่ชอบแน่ เขามีสิทธิ์เลือกนะ แต่พี่ก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกด้วยเหมือนกัน คือเลือกที่จะบอกว่าอะไรดีไม่ดี ถามว่าอย่างอาเมนถูกใจไหม เขานิสัยดีเป็นเด็กดี อ่อนน้อมถ่อมตน เคารพผู้ใหญ่ดีมาก พูดจาดี ดีจนไม่รู้ว่าปล่อยของออกหมดหรือยัง (หัวเราะ) เขาเป็นคนพูดน้อยหรือเบลล์สั่งให้ไม่พูดก็ไม่รู้นะ แต่เราเป็นคนดูใครก็ดูนานค่ะ"

น้องเริ่มก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงแล้ว ได้แนะนำหรือสอนเรื่องการวางตัวอย่างไรบ้าง ?
แก้ว อภิรดี : "ก็บอกเขาว่าเป็นเบลล์นั่นแหละ เรายังไม่ได้ดัง เพียงแค่พี่ๆ รักช่วยกระจายข่าวเรื่องของความสามารถ แต่ปกติเขายังทานอะไรริมถนนเหมือนเดิม ไม่ต้องขอตังค์แม่เพิ่ม เท่าไหร่ที่เคยให้ก็ต้องเท่าเดิม ไม่ใช่เป็นนางงามแล้วต้องได้ตังค์เยอะ จะบอกเขาว่าอะไรที่อยากได้ มันไม่ได้ได้มาง่ายๆ หรอก ถ้าเราไม่ตั้งใจ อะไรที่ได้มาง่ายๆ เราจะไม่ค่อยเห็นคุณค่า ไม่ว่าหน้าที่ไหนก็แล้วแต่จะบอกลูกเสมอว่า ให้ตั้งใจทำด้วยตัวเอง ลูกอยากรู้สึกภูมิใจในตัวเองไหม ถ้าอยากก็ต้องทำด้วยตัวเอง"

อ๊อด โอภาส : "ผมสอนเขาเรื่องตรงเวลา ใครนัดอะไรให้ไปก่อนล่วงหน้าเสมอ และตั้งใจทำงานของเราให้ดีที่สุด ต้องทำการบ้านทุกครั้งก่อนจะทำงาน"

จะดันลูกสาวเข้าวงการแบบเต็มตัวเลยไหม ?
แก้ว อภิรดี : "ไม่ได้ดันหรอกค่ะ พี่มองว่าในเมื่อมาตรงจุดนี้แล้ว ถ้าเขามีโอกาส ไม่ว่าจะเรื่องการร้องหรือความสามารถด้านอื่นๆ ในวงการบันเทิง ถ้าเขาทำได้ประชาชนชอบ เราก็ให้เขาทำ ถ้าทำไม่ได้เขาก็มีสายอื่นไว้ลองรับอยู่แล้วเมื่อเขาเรียนจบ"

เบลล์ เลลาณี : "ถ้ามีโอกาสไม่ว่าจะการร้องเพลงหรือการแสดง เราก็อยากเป็น เพราะเบลล์มีไอดอลตัวจริงยืนอยู่ข้างๆ คือพ่อกับแม่ที่เป็นทั้งนักร้องและนักแสดง ที่ผ่านมาไม่ว่าเราจะได้รางวัลอะไรมาก็จะโดนว่าตลอดว่าเราเป็นลูกดารา ลูกคนมีชื่อเสียง แต่เบลล์ต้องขอบคุณทุกคำติชมนะคะที่ทำให้เบลล์มีวันนี้"