AYS Morning Brief - บล.กรุงศรีอยุธยา

AYS Morning Brief - บล.กรุงศรีอยุธยา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Economic NEWS                    สภาทองคำโลกคาดแนวโน้มตลาดทองคำทั่วโลกจะยังคงแข็งแกร่งตลอดปี 2554 สภาทองคำโลก (WGC) เผย แนวโน้มความต้องการทองคำทั่วโลกจะยังคงแข็งแกร่งตลอดปี 2554 ต่อเนื่องจากไตรมาสแรก นอกจากนี้ คาดว่าตลาดทองคำจะได้แรงหนุนจากปัจจัยต่างๆ อาทิ ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจและสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับหนี้สาธารณะของยุโรป แรงกดดันด้านเงินเฟ้อทั่วโลก และสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ จะยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนความต้องการทองคำ (IQ Biz)           ธนาคารกลางญี่ปุ่นมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.1% และคงนโยบายผ่อนปรนทางการเงิน ธนาคารกลางญี่ปุ่นมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.1% ขณะเดียวกันระบุว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นถูกกดดันให้เข้าสู่ภาวะตกต่ำ เพราะผลจากหายนะภัยแผ่นดินไหว โดยเฉพาะภาคการผลิตได้ตกต่ำลงอย่างรุนแรงเนื่องจากสภาพตึงตัวของอุปทาน อย่างไรก็ตาม คาดว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะกลับสู่การฟื้นตัวในระดับปานกลางตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปีการเงิน 2554 เพราะสภาพความตึงตัวของอุปทานได้ผ่อนคลายลงและการผลิตจะกลับมาสู่ภาวะปกติ นอกจากนี้ บีโอเจยังได้มีมติให้คงกองทุนซื้อสินทรัพย์วงเงิน 10 ล้านล้านเยน รวมทั้งคงนโยบายผ่อนปรนทางการเงิน (IQ Biz) พาณิชย์ เผย เม.ย.54 ส่งออกโต 24.6% นำเข้าโต 27.9% ขาดดุล US$797 ล้าน           กระทรวงพาณิชย์ เผยเดือน เม.ย.54 การส่งออกมีมูลค่า 17,564 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 24.6% จากเดือนเดียวกันปีก่อน ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 18,361 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 27.9% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ขาดดุลการค้าจำนวน 797 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้นในทุกหมวดสินค้า โดยสินค้าอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้น 19.8% สินค้าเกษตร/อุตสาหกรรมการเกษตร และสินค้าอื่นๆ 31.5% ด้านการนำเข้า ขยายตัวทุกหมวด สินค้าวัตถุดิบ/กึ่งสำเร็จรูป เพิ่มขึ้น 22.6% สินค้าทุน 22.4% สินค้าเชื้อเพลิง 49.7% สินค้าอุปโภคบริโภค 26.9% และยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง 10.2%  (IQ Biz)   Market Today     (MarketCast ฉบับวันนี้) แนวโน้มระยะสั้นเชิงลบตามตลาดหุ้นต่างประเทศ และความผัวผวนจากกระแสทุนไหลออก  เน้นลงทุนหุ้น Defensive ที่ให้ผลตอบแทนปันผลสูง   Stock news & update         STANLY | ซื้อ/มูลค่าพื้นฐาน 216 บาท News Comment: กำไรสุทธิงวด 4Q54 ลดลง 4%YoY จากค่าใช้จ่ายเพิ่ม   PTTAR | ซื้อ/มูลค่าพื้นฐาน 52 บาท News Comment: ประชุมนักวิเคราะห์ฯ   Technical (TrendTrading ฉบับวันนี้)           SET Index |  ปิด 1072.94 แนวรับ  1064-1060          แนวต้าน  1080           IVL | ราคาปิด 49.25 บาท แนวรับ 47-46, 44.5   แนวต้าน 50-51, 52.5           BLAND|  ราคาปิด 0.78 บาท แนวรับ 0.76         แนวต้าน 0.8, 0.84-0.85           UAC | ราคาปิด 11.70 บาท แนวรับ 11.30        แนวต้าน 12.3-12.6, 13 Events            -  สัปดาห์ที่ 4 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง                    -  31 พ.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยประจำเดือน   Thai Stanley Electrics 4Q54 กำไรลด 4%YoY จากการบันทึก SG&A เพิ่ม           บริษัทรายงานกำไร 4Q54 (สิ้นสุดมีนาคม 54) ที่ 354 ล้านบาท ปรับลดลง 4%YoY และต่ำกว่าประมาณการของเรา 6%  เนื่องจากในไตรมาสนี้บริษัทมีการปรับปรุงทางบัญชีย้อนหลัง และมีค่าใช้จ่ายด้านพนักงานที่เพิ่มขึ้นสูงกว่าคาด ส่งผลให้ SG&A เพิ่มขึ้นถึง 26%YoY  ในขณะที่ภาพรวมในปี 54 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,428 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 49%YoYโดยรับผลบวกจาก 1) การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ในประเทศ และกระแสความนิยมในตลาดรถประ หยัดพลังงาน ที่ยอดผลิตรถยนต์ของประเทศนีก่อนปรับเพิ่มขึ้น 65%YoY เป็น 1.65 ล้านคัน ส่งผลให้ยอดขายของบริษัทเพิ่มขึ้น 22% YoY โดยโมเดลใหม่ที่ได้รับเพิ่มขึ้น เช่น MAZDA2 NISSAN MARCH (Eco-Car) และ HONDA PCX 2) ผลจากขนาดยอดขายที่เพิ่มขึ้น และการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตของโรงงาน Lamp 2 ส่งผลให้ EBITDA Margin ปรับเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 24.6% เป็น 26.8%     ความเห็นและคำแนะนำ           จากผลกระทบสึนามิญี่ปุ่น ส่งผลให้ผลประกอบการในช่วง เม.ย – มิ.ย หรือ 1Q55 ของ STANLY มีแนวโน้มปรับลดลง 20-30% อย่างไรก็ตามยังถือว่าปรับลดลงต่ำกว่าอุตสาหกรรมที่ 50% ซึ่งมีออร์เดอร์จากลูกค้าลดลงหลักๆเพียง 2 เจ้าคือ Honda (ส่วนรถยนต์) สัดส่วนรายได้ 25% ได้รับคำสั่งซื้อลดลง 50% และ Toyota สัดส่วนรายได้ 11%ได้รับคำสั่งซื้อรถลง 40%   อย่างไรก็ตามสำหรับภาพรวมผลประกอบการทั้งปี เราอยู่ระหว่างการทบทวนประมาณการหลังจากเข้าประชุมกับผู้บริหารในวันนี้   โดยเบื้องต้นเราคาดการกำไรในปี 55 สิ้นสุด มี.ค 55 บริษัทมีกำไรสุทธิเติบโต 5.6% เป็น 1,506 ล้านบาท             แม้ผลประกอบการของบริษัทมีแนวโน้มอ่อนตัวในระยะสั้นในช่วง1Q55 – 2Q55 แต่คาดใน 2H55 จะกลับมาเติบโตอีกครั้ง และ STANLY  มีความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน ซึ่งบริษัทไม่มีภาระหนี้สิน และมีสภาพคล่องทางการเงินสูง โดยบริษัทประกาศจ่ายปันผลสำหรับงวดปี 54 (สิ้นสุดมีนาคม 54) ที่ 6.50 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากราคาปัจจุบัน 3.9% ในขณะที่มูลค่าพื้นฐานในเบื้องต้นเรายังคงประมาณการเดิมที่ 216 บาท(อิงกับค่าเฉลี่ย P/E ที่ 11x) เราแนะนำ “ซื้อรับปันผล” (อ่านรายงานฉบับเต็มในบทวิเคราะห์วันที่ 24 พ.ค 54 หลังจากประชุม Analyst meeting)   PTTAR สรุปผลการประชุม Analyst Meeting           แม้ว่าปัจจุบันราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีความผันผวนสูงและมีทิศทางที่เป็นลบ แต่ผู้บริหารยังมีมุมมองเป็นบวกต่อราคาน้ำมันดิบในระยะยาว เนื่องจากความกังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่เชื่องช้าอาจมีผลจำกัดเพราะความต้องการใช้น้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปี ส่วนใหญ่มาจากประเทศจีน อินเดีย และกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง อีกทั้งประเมินว่าฤดูร้อนในประเทศญี่ปุ่นที่กำลังมาถึงขณะที่กำลังการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ลดลงจากเหตุแผ่นดินไหวจะทำให้ความต้องการน้ำมันในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นประมาณ 300,000 บาร์เรล/วัน หากพิจารณาจากอุปทาน พบว่า OPEC Spare Capacity ณ ปัจจุบันที่ 5 ล้านบาร์เรล/วัน และมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องจากความต้องการใช้ที่สูงขึ้นในแต่ละปี           ผู้บริหารคาดว่าค่าการกลั่นน้ำมันยังมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงปี 56 เนื่องจากอุปทานของโรงกลั่นในภูมิภาคเอเชียที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยเพียง 500,000 บาร์เรล/วัน ขณะที่ความต้องการใช้ในปี 53-59 ยังอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะในกลุ่มน้ำมัน Middle distillate (น้ำมันดีเซลและน้ำมันเครื่องบิน) เพื่ออุตสาหกรรมขนส่ง และแนฟทาของโรงงานปิโตรเคมี อย่างไรก็ดี ค่าการกลั่นในปี 57-58 จะมีแนวโน้มลดลง เนื่องจากการเริ่มผลิตของโรงกลั่นใหม่ในภูมิภาค โดยเฉพาะกลุ่มมประเทศตะวันออกกลาง ซึ่งจะทำให้อุปทานเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 1,500,000 บาร์เรล/วัน ในช่วงปีดังกล่าว           ปัจจุบันราคาพาราไซลีนทรงตัวที่ระดับ US$1,500-1,600/ตัน ซึ่งผู้บริหารประเมินว่าระดับราคานับจากนี้จะไม่ปรับตัวลดลง โดยคาดว่าแรงกดดันจากการเพิ่มขึ้นของอุปทานใหม่จาก S-Oil (900,000 ตัน/ปี) และ Urumqi (1,000,000 ตัน/ปี) ในช่วง 2Q54-3Q54 ถูกชดเชยด้วยการปิดซ่อมบำรุงของโรงงานในภูมิภาคและความต้องการของจีนหลังจากโรงงานในญี่ปุ่นกำลังการผลิต 940,000 ตัน/ปี ยังไม่สามารถเริ่มการผลิตจากปัญหาแผ่นดินไหว นอกจากนี้ ผู้บริหารคาดว่าราคาพาราไซลีนจะกลับสูงขึ้นโดดเด่นตั้งแต่ 3Q54 จากการเริ่มผลิตของโรงงาน PTA ในภูมิภาคจำนวน 5 ล้านตัน ในปี 54 และ 7 ล้านตัน ในปี 55           ราคาเบนซีนจะเริ่มเข้าสู่ขาขึ้นอย่างชัดเจนหลังจากอ่อนตัวลงในปี 51-52 เนื่องจากอุปทานใหม่ทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นเพียง 700,000 ตัน ในปี 54 และ 1,400,000 ล้านตัน ในปี 55 ขณะที่อุปทานในกลุ่มประเทศยุโรปกลับขาดแคลนผลจากการลดกำลังการผลิตของโรงกลั่น และความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในสหรัฐอเมริกาที่สูงขึ้น นอกจากนี้ ยังได้แรงหนุนจากการกลับมาผลิตของโรงงาน Styrene Monomer (SM) ในภูมิภาคเอเชีย ตั้งแต่ 3Q54 ตามการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และก่อสร้าง           ปริมาณวัตถุดิบนำเข้าผลิตรวมที่จะเพิ่มขึ้นจาก 19 ล้านบาร์เรล ใน 1Q54 มาสู่ระดับปกติที่ 25 ล้านบาร์เรล ใน 2Q54 เนื่องจากโรงกลั่น AR1 เริ่มผลิตตามปกติหลังปิดซ่อมบำรุง จะช่วยให้กำไร 2Q54 เพิ่มขึ้นประมาณ 700 ล้านบาท รวมกับผลกระทบจากคุณภาพน้ำมันที่ลดลงของการผลิตช่วงปิดซ่อมบำรุง 1Q54 จำนวน 400 ล้านบาท จะช่วยหนุนผลประกอบการ 2Q54   ความเห็นและคำแนะนำ           หลังจากประชุมนักวิเคราะห์ เรายังคงมุมมองเป็นบวกต่อการแนวโน้มขาขึ้นของธุรกิจโรงกลั่นในปี 54 และการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมปิโตรเคมีตั้งแต่ 3Q54 โดยยังประมาณการกำไรสุทธิปี 54 เท่ากับ 13,873 ล้านบาท (+119%YoY) แต่คาดว่าแนวโน้มผลประกอบการ 2Q54 (ไม่รวมผลกระทบจากสต๊อกน้ำมัน) อาจลดลงน้อยกว่าที่เคยคาดไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากปริมาณวัตถุดิบนำเข้าผลิตรวมที่เพิ่มขึ้นสู่ระดับปกติและผลกระทบของคุณภาพน้ำมันที่ดีขึ้นรวมประมาณ 1,100 ล้านบาท จะช่วยลดแรงกดดันจากส่วนต่างราคาพาราไซลีนกับคอนเดนเสทที่ลดลง โดยค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 2Q54 ถึงปัจจุบันอยู่ที่ US$567/ตัน ลดลง 26% เมื่อเทียบกับ 1Q54 ที่ US$771/ตัน เรากำหนดมูลค่าพื้นฐานเท่ากับ 52 บาท (DCF, WACC 11.7%) และยังคงคำแนะนำ ซื้อ เพื่อแลกเป็นหุ้นบริษัทใหม่ที่จะเกิดจากการควบรวมระหว่าง PTTAR กับ PTTCH ในช่วงเดือน ส.ค. นี้ ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขาย ณ ระดับ Prospective P/E ratio เพียง 8.3 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในภูมิภาคที่ 11.7 เท่า            โดย บมจ. หลักทรัพย์กรุงศรีอยุธยา ประจำวันที่ 23 พ.ค. 2554  

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook