สรุปดราม่า "ศึกแย่งลูก" พม.สั่งให้พ่อดูแลเด็ก เหตุแม่ยังเป็นผู้เยาว์

พม.จังหวัดได้ข้อสรุป ให้ฝ่ายพ่อได้ดูแลเด็กไปก่อน พร้อมเซ็นข้อตกลงไว้ระยะ 1 เดือน แม่สามารถไปเยี่ยมลูกได้ตามปกติ แต่ให้มาค้างด้วยได้แค่สัปดาห์ละครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีคลิปชุลมุนวุ่นวาย 2 ฝ่ายยื้อแย่งเลี้ยงลูกกัน กลายเป็นภาพน่าสะเทือนใจในช่วงวันแม่แห่งชาติที่ผ่านมา ล่าสุดหลังจากที่เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ล่าสุดได้ข้อสรุป หรือเห็นควรให้เด็กได้รับการสงเคราะห์ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มาตรา 32 ข้อ(2)

โดยตาม พ.ร.บ.ดังกล่าว เห็นควรมอบเด็กให้อยู่ในความอุปการะของบุคคลที่เหมาะสมและยินยอมรับเด็กไว้อุปการะดูแลตามระยะเวลาที่เห็นสมควร แต่ไม่เกิน 1 เดือน เนื่องจากมารดาของเด็กยังเป็นผู้เยาว์ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก และครอบครัวของมารดาไม่สามารถเลี้ยงดูเด็กได้ตามมาตรฐานขั้นต่ำ ตามที่กฎหมายกระทรวงกำหนด

ทั้งนี้จากการตรวจสอบ ครอบครัวฝ่ายพ่อของเด็ก มีศักยภาพในการเลี้ยงดูเด็กได้มากกว่า จึงทำบันทึกข้อตกลง ทั้งหมด 7 ข้อ เพื่อให้แม่เด็กยินยอมมอบเด็กให้อยู่ในความอุปการะของฝ่ายพ่อเด็กในระยะเวลา 1 เดือน ระหว่างนี้ทาง พม.จังหวัด จะประสาน พม.จ.นนทบุรี เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงของครอบครัวทดแทน ซึ่งมารดาเด็กมีความประสงค์จะนำเด็กไปอาศัยอยู่ด้วย

ซึ่งระหว่างนี้ นางสาววิภา แม่ของเด็ก ยังสามารถนำลูกชายมาเลี้ยงดูและนอนค้างคืนได้ สัปดาห์ละ 1 วัน แต่สามารถไปเยี่ยมลูกได้ที่บ้านของอดีตสามีตลอด 24 ชั่วโมง แต่ไม่สามารถนำเด็กออกจากบ้านเองโดยไม่ผ่านการได้รับอนุญาตจากฝ่ายพ่อเด็กและญาติ

นอกจากนี้ ในช่วงระหว่าง 1 เดือน ไม่อนุญาตให้ทั้ง 2 ฝ่าย พาเด็กออกจากถิ่นฐานพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ หากมีเหตุอันควร ขอให้แจ้งพนักงานฝ่ายปกครองในพื้นที่ทราบก่อน และฝ่ายแม่ซึ่งเป็นผู้เผยแพร่คลิปและให้ข้อมูลไม่ตรงตามความเป็นจริงทั้งหมด จะโพสต์แก้ไขข้อมูลทางสื่อออนไลน์ให้ตรงตามความจริง ตามที่ฝ่ายพ่อเด็กร้องขอ รวมทั้งจะยินยอมให้ดำเนินคดีในทางกฎหมายได้ หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดทำผิดข้อตกลง จากนั้นก็มีการลงชื่อในข้อตกลงร่วมกัน ณ ที่ สภ.พุเตย อ.วิเชียรบุรี

อย่างไรก็ตาม นางสาววิภา แม่ของเด็กชาย ยืนยันว่าจะเดินทางไปหางานทำที่กรุงเทพมหานคร เพื่อจะพิสูจน์ให้กับทางเจ้าหน้าที่และสังคมเห็นว่า ตนเองมีความรับผิดชอบเพียงพอ และมีความพร้อมในการที่จะขอรับดูแลและเลี้ยงดูลูกตัวเอง