นายกฯ ระบุ จำเป็นต้องกู้เงินจากต่างประเทศกู้เศรษฐกิจ

นายกฯ ระบุ จำเป็นต้องกู้เงินจากต่างประเทศกู้เศรษฐกิจ

นายกฯ ระบุ จำเป็นต้องกู้เงินจากต่างประเทศกู้เศรษฐกิจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกฯ พอใจการชุมนุมไม่เกิดความสูญเสียขอบคุณทหาร-ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ด้ายดี ยืนยันข้อเรียกร้องม็อบทางคดีมีความคืบหน้า คาดซักฟอกปลายมีนาคม ระบุรัฐบาลมีความจำเป็นต้องกู้เงินจากต่างประเทศ แต่ยืนยันจะรักษาวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัด

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ซึ่งเป็นการบันทึกเทปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า สัปดาห์ที่ผ่านมามีการชุมนุมของประชาชนกลุ่มหนึ่งซึ่งต้องขอขอบคุณผู้ชุมนุม เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารที่ปฏิบัติหน้าให้การชุมนุมผ่านพ้นไปโดยไม่ความรุนแรงสูญเสีย รวมทั้งให้การทำงานของรัฐบาลดำเนินไปอย่างปกติ ซึ่งตนเคารพผู้ชุมนุมและเมื่อมีการสลายการชุมนุมก็ถือว่าทำให้มีการจัดการ ประชุมอาเซียนสงบ

อย่างไรก็ตามข้อเรียกร้องต่างๆ อาทิการดำเนินการทางคดีนั้นรัฐบาลไม่ได้เพิกเฉยได้เดินหน้าดำเนินการอย่าง ต่อเนื่องตรงไปตรงมาไม่มีใครอยู่เหนือกฏหมายรัฐบาลคงไม่กลั่นแกล้งใคร ซึ่งอีก 1 เดือนที่จะมีการชุมนมต่อไปก็คงมีความคืบหน้าทางคดี

ส่วนการแก้รัฐธรรมนูญสถาบันพระปกเกล้าจะมีการประชุมในวันที่ 6 มี.ค. ส่วนประเด็นเกี่ยวกับตนและรมต.นั้นฝ่ายค้านได้ดำเนินการตามกระบวนการทาง รัฐสภาในการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ คาดว่าประมาณปลายเดือนมีนาคมซึ่งก็เป็นไปตามกระบวนการรัฐธรรมนูญและกฏหมาย ซึ่งหากเรารักษาบรรยากาศบ้านเมืองโดยรัฐสภาก็ทำหน้าที่ไป ประชาชนก็ใช้สิทธิ์ตามกรอบกฏหมายก็ไม่น่าจะมีอปัญหาอะไร

นายกฯ ตั้งเป้าไตรมาสสี่ศก.ขยายตัวในแดนบวก

นายอภิสิทธิ์กล่าวในรายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์ ซึ่งเป็นการบันทึกเทปเมื่อวันศุกร์ ที่ผ่านมาว่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมารัฐบาลได้เดินหน้าแก้ปัญหาทุกอย่างโดยเฉพาะเศรษฐกิจ ซึ่งหลายประเทศตัวลดเศรษฐกิจลดลงเช่น ญี่ปุ่นการส่งออกลดลง ร้อยละ 45 ประเทศอื่น ๆ ร้อยละ 35 และ ร้อยละ 40 เป็นการสะท้อนให้เห็นว่าการค้าระหว่างประเทศหายไป 30-40 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งภาวะดังกล่าวกระทบกับทุกประเทศโดยเฉพาะประเทศใดที่ใช้การส่งออกในการ สร้างงานสร้างรายได้ และจะเป็นการตอกย้ำว่าการฝ่าวิกฤติต้องผนึกกำลัง

อย่างไรก็ตามต้องขอบคุณวุฒิสภาที่ได้ผ่านการเห็นชอบพรบ.งบประมาณ กลางปีหรือแผนกระตุ้นศก.ซึ่งหลังจากนำขึ้นทูลเกล้าฯก็จะประกาศใช้เดือน มีนาคม ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการไปแล้วเช่นเบี้ยยังชีพคนสูงอายุที่ให้ไปขึ้น ทะเบียนก่อนภายใน 15 มี.ค.โดยจะสามารถจ่ายเบี้ยยังชีพ 500 บาท ให้กับผู้ไม่มีรายได้จากองค์กรท้องถิ่น บำเหน็จ บำนาญก่อน ตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นไปต้นไปและจะจ่ายให้ตลอดไม่ใช่ 6 เดือนตามที่มีการเข้าใจกัน

รัฐบาลได้ประเมินสถานการณ์ตัวเลขการส่งออกที่หดตัวรุนแรงและเชื่อ ว่าเศรษฐกิจ 3 เดือนแรกจะติดลบรุนแรงหรือมากกว่าในสามเดือนสุดท้ายของปลายปีที่แล้วติดลบไป ไปร้อยละ 4.3 แต่มั่นใจว่ามาตรการที่เราดำเนินการเช่นเรียนฟรี มาตรการ 2000 บาทจะนำไปสู่การใช้จ่าย ซึ่งจะทำให้ไตรมาสสองการหดตัวทางศก.ลดลง และประเมินว่าไตรมาส 3 ศก.จะกลับมายืนอยู่โดยไม่เติบโตหรือไม่หดตัวหรือไม่ก่อนไตรมาสสี่จะสามารถทำ ให้ศก.ขยายตัวในแดนบวกได้อีก

อย่างไรก็ตามงบประมาณที่รัฐบาลจะใช้จ่ายใช้ด้านศก.อาจไม่พอซึ่ง รัฐบาลได้เตรียมกู้เงินจากตปท.เพื่อใช้ในโครงการก่อสร้างพื้นฐานและการ กระตุ้นศก.ซึ่งกระทรวงการคลังจะได้นำกรอบการเจรจาเงินกู้นำเสนอต่อการ พิจารณาของสภาหากสภาเห็นชอบและนำไปสู่การเจรจา และนำมาสู่การใช้จ่ายในไตรมาส 3 ก็จะเป็นช่องทางในการบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน แม้จะมีข้อห่วงใยว่าจะเป็นการไปสร้างภาระนั้น รัฐบาลให้คววามมั่นใจว่าการขอกู้เงินไม่ได้หลุดจากกรอบวินัยการเงินการคลัง

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook