รักต้องฆ่า! ย้อนดูคดีสิบเอกหึงโหดฆ่าเผา "น้องพลอย"

รักต้องฆ่า! ย้อนดูคดีสิบเอกหึงโหดฆ่าเผา "น้องพลอย"

รักต้องฆ่า! ย้อนดูคดีสิบเอกหึงโหดฆ่าเผา "น้องพลอย"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กลายเป็นโศกนาฏกรรมสะเทือนใจสังคมไทย เมื่อความรักเปลี่ยนเป็นความแค้น เมื่อการปันใจเปลี่ยนเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดการฆาตกรรมสุดเหี้ยมโหด

จากคำสารภาพของอดีตสิบเอกพลกฤต ทหารสังกัดศูนย์การทหารปืนใหญ่ลพบุรี ได้ทำการอุ้มน้องพลอยอดีตแฟนสาวก่อนนำตัวไปฆ่าและเผาอำพรางศพทิ้งในเขตอำเภอแก่งคอย จ.สระบุรี ซึ่งสาเหตุทั้งหมดเกิดจากความหึงหวงเพราะน้องพลอยตีตัวออกห่าง หลังทราบว่าตนมีภรรยาแล้ว 

คดีนี้ต้องใช้เวลากว่า 3 ปี ถึงจะพบความจริงอันน่าสะพรึงกลัว ตามไปย้อนรอยเหตุการณ์การหายตัวไปของน้อยพลอยก่อนถูกฆ่าและเผาศพเพื่ออำพรางคดี

image

เมื่อ 3 ปีที่แล้ววันที่ 21 พฤษภาคม 57  น้องพลอย หรือ น.ส.พลอยรินทร์ วัย 28 ปี ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ

ทางครอบครัวจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความที่ สภ.ท่าเรือ และผู้ต้องสงสัยคืออดีตสิบเอกพลกฤต ที่กำลังคบหาดูใจกับบุตรสาว ก่อนบุตรสาวจะตีตัวออกห่างเพราะทราบว่าฝ่ายชายมีครอบครัวแล้ว หลังจากนั้นทางครอบครัวก็ถูกข่มขู่ถึงชีวิตจากทางไลน์ ก่อนที่บุตรสาวจะหายตัวไป

7 กรกฎาคม 57 ศาลทหารออกหมายจับ อดีตสิบเอกพลกฤต หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจพบหลักฐานสำคัญเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าอดีตสิบเอกพลกฤต ได้ขับรถมาดักรอหน้าที่ทำงานของน้องพลอย ก่อนจะหายตัวไปนอกจากนี้ยังพบเส้นผมน้องพลอยในรถที่ใช้ก่อเหตุอีกด้วยด้วย แต่ขณะนั้นไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้และไม่ทราบชะตากรรมของลูกสาว

1ew32

1 สิงหาคม 60 นางพัชรี แม่ของนางสาวพลอยนรินทร์ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยมีเนื้อหาระบุรายละเอียดการหายตัวไปของบุตรสาว โดยอ้างว่าถูกนายพลกฤต อดีตทหารลักพาตัวไปในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งตลอด 3 ปีที่ผ่านมาคดีไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควรและยังมีความหวังว่าลูกสาวยังมีชีวิตอยู่ 

11 สิงหาคม 60 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าปิดล้อมรอบบ้านภรรยาคนปัจจุบันของอดีตสิบเอกพลกฤต ที่บ้านพักหลังหนึ่ง ภายในหมู่บ้านหนองไม้ไผ่ อำเภอหนองบุญมาก จ.นครราชสีมา ก่อนผู้ต้องหาจะไหวตัวทันและหลบหนีไปได้

12 สิงหาคม 60 พบโครงกระดูกที่คาดว่าเป็นน้องพลอยถูกฝังดินในป่าข้างทางที่บริเวณเนินเขากบฏ หมู่ 2 ตำบลท่าค้อ อำเภอแก่งคอย เขตติดต่ออำเภอวังม่วง จังหวัดสระบุรี ภายหลับตรวจสอบ DNA พบว่าเป็นกระดูกของน้องพลอยจริง

13 สิงหาคม 60 อดีตสิบเอกพลกฤต ได้ขอเข้ามอบตัวที่บริเวณชายป่าของหมู่บ้านหนองไม้ไผ่ ก่อนถูกนำตัวไปควบคุมไว้ที่ค่ายทหารสุรธรรมพิทักษ์ จ.นครราชสีมา

1e3

ซึ่งคำสารภาพจากอดีตสิบเอกพลกฤต ให้การว่าได้คบหากับน้องพลอยประมาณ 4-5 ปี  ต่อมาน้องพลอย พยายามตีตัวออกห่างและมีปัญหาทะเลาะกันหลายเรื่อง ซึ่งวันเกิดเหตุได้นัดน้องพลอยออกมาพูดคุยบริเวณหน้าโรงงาน ก่อนพาขึ้นรถยนต์ โดยนำรถจักรยานของน้องพลอยไว้ด้านหลังรถ จากนั้นได้พูดคุยชักชวนให้หนีตามกันไปแต่น้องพลอยไม่ยอม

ระหว่างนั้นแม่ของน้องพลอยโทรศัพท์ตามให้กลับบ้านหลายสายตนเองจึงโยนโทรศัพท์ทิ้งระหว่างทาง ทำให้เกิดการทะเลาะกันอย่างรุนแรง  ซึ่งน้องพลอยได้ใช้มีดพับเล็กที่ติดอยู่กับกรรไกรตัดเล็บแทงเข้าที่แขน ตนเองจึงทำร้ายน้องพลอยและบีบคอจนถึงแก่ความตาย

จากนั้นขับรถยนต์ วิ่งตามถนนสายคันคลองมุ่งหน้าอำเภอโคกกระเทียม นำจักรยานของน้องพลอยทิ้งตรงสะพานข้ามคลองชลประทาน แล้วเลี้ยวขวาออกไปยังค่ายทหารแล้วนำกระเป๋าทรัพย์สินทิ้งถังขยะ ส่วนนาฬิกาข้อมือโยนทิ้งข้างทางก่อนกลับเข้าไปบ้านพักของพ่อในค่ายทหารนำยางรถยนต์ที่ใช้แล้วซึ่งวางอยู่หน้าบ้านพัก จำนวน 3 เส้นขึ้นท้ายรถยนต์

1e34

และแวะซื้อน้ำมันดีเซลใส่แกลลอนจำนวน 2 แกลลอน ก่อนขับรถออกจากอำเภอเมืองลพบุรีมุ่งหน้าอำเภอหินซ้อน เพื่อนำศพน้องพลอยเผาทิ้งบริเวณทางขึ้นเขาเลยศาลประมาณ 5-6 ร้อยเมตร โดยจอดรถข้างแบริเออร์แล้วเดินอุ้มศพเข้าป่าไปประมาณ 10-15 ก้าว นำยางรถยนต์ 3 เส้นวางกับพื้น แล้วนำศพห่อผ้าห่มราดน้ำมันจุดไฟเผา

จากนั้นก็ขับรถยนต์หนี มาพักอาศัยอยู่ที่อำเภอเมืองจังหวัดนครราชสีมา โดยเช่าห้องอยู่คนเดียวไม่ได้ติดต่อใคร มีเงินติดตัวในการใช้จ่ายจำนวน 100,000 บาทจากการกู้ และ ในแต่ละวันก็จะเล่นเกมหารายได้จากการขายของในเกม จากนั้นก็ย้ายไปทำงานที่บาร์แห่งหนึ่งในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ก่อนจะถูกล้อมจับที่บ้านของภรรยาปัจจุบันและตัดสินใจเข้ามอบตัวในที่สุด

ไม่น่าเชื่อว่าเพียงเพราะความหึงหวงตีตัวออกห่างจะกลายเป็นชนวนเหตุที่ฆาตกรใช้เป็นข้ออ้างในการกระทำผิดนี่หรือคำว่ารักที่ต้องฆ่าเพราะการปันใจ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook