สุราษฎร์ระทึก วางระเบิดหลายจุดป่วนเมืองหลังป้ายปชป. ใกล้ที่ทำการพรรค ตชด.ใช้ปืนฉีดน้ำกู้ได้แล้ว

สุราษฎร์ระทึก วางระเบิดหลายจุดป่วนเมืองหลังป้ายปชป. ใกล้ที่ทำการพรรค ตชด.ใช้ปืนฉีดน้ำกู้ได้แล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
สุราษฎร์ระทึก วางระเบิด 2 จุด 3 ลูก ต่อโทรมือถือหวังวินาศกรรมล้มเสาไฟฟ้า ที่ อ.เมือง และหลังป้ายปชป. อ.กาญจนดิษฐ์ ตชด.กู้ได้ ใกล้ที่ทำการปชป. เทพเทือกเชื่อลอบบึ้มป่วน หวังสร้างความวุ่นวาย

เวลา 07.00 น.วันที่ 18 มีนาคม ร.ต.อ.ฐานัน ช่วยหนู รอง สว.กลุ่มงานเก็บกู้วัตถุระเบิด กก.ตชด.ที่ 41 ชุมพร ได้รับรายงานพบวัตถุต้องสงสัยอีก 1 จุด อยู่ด้านหลังป้ายอวยพรสวัสดีปีใหม่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.สุราษฎร์ธานี บริเวณสามแยกคูหา หมู่ 1 ต.กะแดะ อ.กาญจนดิษฐ์ ที่มีภาพนายอภิสิทธิ์เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายชวน หลีกภัย นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ประธานและรองประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคและ ส.ส.ทั้ง 6 คนติดอยู่

จากการตรวจสอบพบ กระเป๋าเดินทางแบบผ้าขนาดใหญ่ ยี่ห้อโปโล สีดำคาดลายแดง วางบนพื้นหญ้าห่างจากป้ายประมาณ 2 เมตร ภายในมีแท่งพลาสติก พีวีซี.สีดำ ยาวประมาณ 1 ฟุต น้ำหนักประมาณ 2 ก.ก.จำนวน 2 ท่อนวางอยู่ โดยทั้ง 2 ท่อนต่อเชื่อมด้วยแผงวงจรไฟฟ้าโทรศัพท์มือถืออยู่ในกล่อง 1 เครื่อง จึงได้นำหุ่นยนต์แบบบังคับเก็บกู้วัตถุระเบิด เข้าประชิดใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงยิงทำลายวงจร และต่อสายชนวนระเบิดซ้ำอีกครั้ง

ทั้งนี้ นายไพศาล ตรีธัญญา นอภ.กาญจนดิษฐ์ พร้อม พ.ต.อ.จำโนช แก้วขาว ผกก.สภ.กาญจนดิษฐ์ เข้าร่วมตรวจสอบพบเป็นท่อ พีวีซี.สีฟ้าถูกพ่นทับด้วยสีดำ ภายในตรงกลางบรรจุสารพาวเวอร์เจล หรือไดนาไมค์ ประมาณ 0.5 ก.ก.ต่อเชื่อมสายฝักแคจุดชนวนล้อมด้วยปุ๋ยยูเรีย ผสมน้ำมันโซล่าร์อัดเต็ม มีสายไฟต่อออกภายนอกสำหรับเชื่อมวงจรโทรศัพท์มือถือ

สอบสวนทราบว่า เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 17 มี.ค.เ จ้าหน้าที่เทศบาล ต.กาญจนดิษฐ์ ได้นำป้ายไวนิลข้อความไปติดที่โครงป้ายดังกล่าว และหันไปพบกระเป๋าสีดำใบใหญ่วางทิ้งไว้ จึงเข้าไปรูปซิปเปิดดูพบท่อพีวีซี.สีดำมีสายไฟต่อกล่องอยู่ จึงแจ้ง สภ.กาญจนดิษฐ์ ประสานชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าเก็บกู้

ต่อมา นายบุญส่ง เตชะมณีสถิต รอง ผวจ.สุราษฎร์ธานี ในฐาน รอง ผอ.กอ.รมน.จังหวัด ได้เรียกประชุมด่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร รวมทั้งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

นายบุญส่ง กล่าวว่า ได้สั่งกำชับให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องตรวจสอบหาข่าวความเคลื่อนไหวเป็นการด่วน โดยเฉพาะกลุ่มบุคคลแปลกหน้าที่เข้ามาในพื้นที่ ซึ่งเชื่อว่าเหตุที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำของคนจากนอกพื้นที่

ข่าวแจ้งว่า การวางระเบิดทั้ง 2 จุดของคนร้ายได้วางในลักษณะหวังผลการวินาศกรรม เพื่อให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง โดยจุดที่ 1 หวังผลเสาไฟฟ้าแรงสูงที่ส่งกระแสไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้า สำนักงานบ้านดอน ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เข้าไปยังตัวเมืองสุราษฎร์ธานี และจุดที่ 2 ที่ อ.กาญจนดิษฐ์ ถูกวางในแนวสายไฟฟ้าแรงสูงบริเวณสนามแยกคูหดกาญจนดิษฐ์ และไปยัง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งมีรัศมีทำลาย 50 เมตร โดยสายไฟฟ้าและบ้านเรือน รวมทั้งรถยนต์ที่ผ่านไปมาอาจได้รับความเสียหายทั้งหมด

ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 17 มีนาคม ร.ต.ท.โกมล ทิศพ่วน ร้อยเวร สภ.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดวางที่ใต้โค่นไฟฟ้าแรงสูง ริมถนนชนเกษม (สุราษฎร์-นาสาร) ฝั่งขาเข้าตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ช่วงระหว่างสนามไดร์กอล์ฟท่าเพชร กับโรงงานรมยางพารา บริษัทเซ้าท์แลนด์รับเบอร์ จำกัด หมู่ 6 ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จึงพร้อม พ.ต.ท.วรพงษ์ วงค์จอม รอง ผกก.ป.นำกำลังไปตรวจสอบ พบเป็นถังโลหะสีดำ ยาวประมาณ 1 ฟุตวางนอนบนฟุตบาตด้านหลังโค่นเสาไฟฟ้า และที่ท่อนหัวผูกติดด้วยเครื่องโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อโนเกีย รุ่น 3310 โดยที่ด้านหลังเครื่องโทรศัพท์เปิดฝาเปลือยเห็นแผงวงจรสัญญาณมีไฟกระพริบติดอยู่ตลอด

ทั้งนี้ เบื้องต้น พ.ต.ท.วรพงษ์ ได้ใช้เชือกผูกเครื่องโทรศัพท์มือถือ เมื่อกระชากดึงออกมาพบมีการต่อสายไฟเชื่อมโยงเข้าไปยังในถังโลหะดังกล่าว ซึ่งมั่นใจว่าน่าจะเป็นวัตถุระเบิด จึงได้ประสานขอความช่วยเหลือ ร.ต.อ.ฐานัน ช่วยหนู รอง สว.กลุ่มงานเก็บกู้วัตถุระเบิด กก.ตชด.ที่ 41 ชุมพร เข้าตรวจสอบ และสั่งการให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยสุราษฎร์ธานีปิดเส้นทางจราจรทั้ง 2 ฝั่งที่จะไป อ.บ้านนาสารและเข้าตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ส่งผลให้การจราจรติดขัดเป็นแถวยาวร่วม 2 ก.ม.โดยให้เลี่ยงไปใช้เส้นทาง ถ.เลี่ยงเมือง เข้าทางโรงเรียนสุราษฎร์ธานีแทน

ต่อมา ร.ต.อ.ฐานัน ได้นำหุ่นยนต์แบบบังคับเก็บกู้วัตถุระเบิด เข้าประชิดถังโลหะและใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงยิงทำลายวงจรถึง 3 ครั้ง โดยแรกทำลายระบบวงจร ครั้งที่ 2 ทำลายสารวัตถุระเบิดและครั้งที่ 3 ยิงทำลายสารวัตถุระเบิดซ้ำ ใช้เวลาร่วม 5 ชั่วโมงจนสามารถเก็บกู้ได้ ซึ่งระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังวุ่นอยู่กับการเก็บกู้วัตถุระเบิดและได้มีการเปิดช่องจราจรระบายรถเป็นระยะๆ ได้มีผู้สังเกตเห็นวัยรุ่นมุสลิม 2 คน ลักษณะตัดผมสั้นเกรียนขับรถจักรยานยนต์วนเวียนไปมาดูเหตุการณ์หลายรอบแล้วหายตัวไป

จากการตรวจพบระเบิดเป็นถังดับเพลิง ขนาด 5 ก.ก. จำนวน 2 ลูก ถูกตัดท่อนหัวทิ้งนำท่อนท้ายต่อเชื่อมกันพ่นทับด้วยสีดำ ภายในบรรจุปุ๋ยยูเรีย ผสมน้ำมันโซล่าร์ มีสารพาวเวอร์เจล(ไดนาไมด์)ต่อสายชนวนฝักแคแทรกอยู่ตรงกลางเชื่อมต่อกับสายไฟฟ้าออกนอกถังสำหรับเชื่อมกับวงจรโทรศัพท์มือถืออีกทอดหนึ่ง ซึ่งเป็นระเบิดชนิดที่เรียกว่า " ไฟว์บอม ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

จากการสอบสวนทราบว่า เบื้องต้นได้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งของบริษัทเซ้าท์แลนด์รับเบอร์ จำกัด ได้เห็นถังโลหะสีดำดังกล่าววางอยู่ที่โค่นเสาไฟฟ้า ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 17 มี.ค.แต่ไม่ได้สัยอะไร จนถึงช่วงค่ำได้เดินยามแถวรั่วหน้าบริษัทพบว่าที่ถังโลหะมีแสงไฟกระพริบติดดับสลับไปมาเป็นระยะๆ เกรงจะเกิดอันตรายจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจทราบ

วางระเบิดหลายจุดป่วนเมืองสุราษฎร์ ใกล้ที่ทำการปชป. ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 18 มี.ค.ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา(คืนวันที่ 17มีนาคม)เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ขุนทะเล อ.เมืองสุราษฎร์ธานี รับแจ้ง พบวัตถุต้องสงสัยมีลักษณะคล้ายระเบิดที่บริเวณเสาไฟฟ้า บริเวณหน้าสนามไดร์กอล์ฟ ถนนชนเกษม ม.6 ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี จึงประสานไปยังหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด ตชด.ที่ 417 เพื่อ ทำการตรวจสอบ พร้อมยิงด้วยปืนแรงดันน้ำทำลาย

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า เป็นลักษณะของระเบิดประเภทแสวงเครื่องทำเอง จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือระยะไกล มีลักษณะเหมือนกับที่พบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมกันนี้ ยังได้รับแจ้งพบระเบิดลักษณะดังกล่าวอีกหลายจุดในพื้นที่ จ .สุราษฎร์ธานี อาทิ บริเวณใกล้เคียงกับที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ อ.กาญจนดิษฐ์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้ระเบิดจะทำการเก็บกู้ และตรวจสอบอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุได้ว่า ผู้กระทำมีจุดประสงค์เพื่ออะไร รวมถึงยังตรวจสอบไม่ได้ว่า มีที่มาอย่างไร ซึ่งจะติดตามหาเบาะแสต่อไป

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวเมื่อวันที่ 18 มี.ค. ถึงเหตุการณ์ลอบวางระเบิด ใกล้ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ว่า ตนได้รับรายงานเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อให้เกิดความวุ่นวายเท่านั้น และเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบดูแล อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า น่าจะเป็นการกระทำเพื่อหวังผลทางการเมือง ส่วนจะถือเป็นการลองของหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook