มาร์คลั่นเอาจริงปราบยาเสพติดเชื่อ 3 เดือนลดแน่ ป.ป.ส.ขู่มียาลดน้ำมูกเกิน 6 แผงจำคุก 15 ปี

มาร์คลั่นเอาจริงปราบยาเสพติดเชื่อ 3 เดือนลดแน่ ป.ป.ส.ขู่มียาลดน้ำมูกเกิน 6 แผงจำคุก 15 ปี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
มาร์ค ขึงขังลั่นเอาจริงปราบยาเสพติด เปิดยุทธศาสตร์ 5 รั้วป้องกัน ตั้งแต่รั้วชายแดน ชุมชน สังคม โรงเรียนและครอบครัว จี้ทหาร ตำรวจ กอ.รมน. ผู้ว่าฯผนึกกำลังลุยล้างเด็ดขาดตามกม. ตีกรอบ 6 เดือนประเมิน คาด 3 เดือนลดแน่ ป.ป.ส.เตือนประชาชนครอบครองยาลดน้ำมูกแก้หวัดเกิน 6 แผง มีโทษถึงจำคุก 15 ปี หลังอย.ประกาศคุมเข้ม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินหน้าประกาศยุทธศาสตร์ปราบปรามยาเสพติดแล้วเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 18 มกราคม ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ในระหว่างเป็นประธานพิธีมอบนโยบายความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และนโยบายด้านยาเสพติดแก่ผู้บริหารระดับสูง อาทิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯด้านความมั่นคง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. รวมทั้งพล.ต.อ.กฤษณะ ผลอนันต์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ(ป.ป.ส.) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด แม่ทัพภาค ฯลฯ กว่า 500 คน เข้าร่วม

นายอภิสิทธิ์กล่าวมอบนโยบาย ตอนหนึ่งว่า ปัญหาหนึ่งซึ่งยืดเยื้อมานานคือ ปัญหายาเสพติด แน่นอนที่สุดใหญ่ที่สุดคือ ผลกระทบต่อตัวประชาชนโดยเฉพาะเด็กและเยาวชนโดยตรง ในแง่เศรษฐกิจคือการเสียโอกาส ความอ่อนแอในแง่ของคน ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ สำคัญไปกว่านั้นคือ ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อชีวิตคนและครอบครัว เหมือนเป็นการสูญเสียคนไปจากครอบครัว เป็นสิ่งที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง ในสถานการณ์ปัจจุบัน ยาเสพติดเป็นปัญหาที่เรื้อรังและมีแนวโน้มที่จะขยายตัวมากยิ่งขึ้น ถ้านำข้อมูลจากป.ป.ส. ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาพบตัวเลขเพิ่มขึ้น 150,000 คนทั้ง ๆ มีเครื่องมือ มีกลไก มีนโยบายมากมาย แต่สภาพปัญหาไม่ได้ดีขึ้น

ในช่วงที่ผ่านมาว่รุนแรงเข้าปราบปรามปัญหาใดปัญหาหนึ่ง แต่สุดท้ายทำให้ปัญหาเกิดความซับซ้อนมากขึ้น ยากต่อการแก้ไขมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เรื่องของการปราบปรามเป็นสิ่งที่ต้องทำ และต้องทำอย่างเด็ดขาด แต่ต้องทำโดยคำนึงถึงหลักกฎหมาย

นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า รัฐบาลมีความมุ่งมั่นชัดเจน ที่จะลดปัญหายาเสพติดและขจัดความเดือดร้อนของประชาชน จึงตั้งเป้าหมายว่า แผนที่จะดำเนินการและนำไปสู่การปฏิบัตินั้น ได้ตั้งกรอบเวลาไว้ 6 เดือน แต่คาดว่าระยะเวลาเพียง 3 เดือน จะทำให้ยาเสพติดลดลงได้ เพราะรัฐบาลจะนำพลังของทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ "5 รั้วป้องกัน ซึ่งถือเป็นยุทธศาสตร์หลักของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ประกอบด้วย รั้วที่ 1. รั้วชายแดนหรือการสร้างแนวป้องกันชายแดน โดยมี กองบัญชากองทัพไทย กอ.รมน. กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจ รับผิดชอบ ขอให้ผบ.สส.เป็นผู้รับผิดชอบหลัก

รั้วที่ 2 ชุมชนหรือการสร้างแนวห้องกันชุมชน เป็นภารกิจหลักของ กระทรวงมหาดไทย กอ.รมน. ทั้งระดับภาค ระดับจังหวัด มีสำนักงาน ป.ป.ส. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัคร และภาคประชาสังคม เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการ ให้ปลัดกระทรวงมหาดไทย รั้วที่ 3. รั้วสังคมหรือการสร้างแนวป้องกันทางสังคม ถือเป็นภารกิจหลักที่ทุกกระทรวง ทบวง กรม ต้องร่วมกัน โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมรับผิดชอบหลัก

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า รั้วที่ 4. รั้วโรงเรียนหรือการสร้างแนวป้องกันโรงเรียน ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญต่อคุณภาพทางการศึกษา เป็นภารกิจหลักของ กระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ปลัดกระทรวงศึกษาธิการรับผิดชอบหลัก และ รั้วที่ 5. รั้วครอบครัวหรือการสร้างแนวป้องกันครอบครัว (อ่านรายละเอียดหน้า 2)

ด้าน นายชาติชาย สุทธิกลม ที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ออกมามาตรการควบคุมยาแก้หวัดที่มีส่วนผสมของสารสูโดเอฟรีดีน (Pseudo ephedrine) หลังพบเริ่มลักลอบนำไปเป็นสารผลิตยาบ้า ว่า สำหรับยาแก้หวัด ประเภทยาลดน้ำมูกที่ขายทั่วไปตามร้านขายยามีสารสูโดเอฟรีดีน ประมาณ 20 -30 เปอร์เซ็นต์ และจากข้อมูลป.ป.ส.เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมาพบขบวนการค้ายาเสพติด เปลี่ยนแปลงแหล่งที่มาของสารตั้งต้น นำสารสูโดเอฟรีดีน ในยาลดน้ำมูกไปเป็นสารตั้งต้น เพราะมาตรการปราบปรามสารตั้งต้น และได้รับความร่วมมือจากหลายประเทศเร่งสกัดกั้นและปราบปรามอย่างหนัก ทำให้ผู้ผลิตยาบ้าต้องดัดแปลงและคิดค้นสูตรผลิตยาบ้าตลอดเวลา

นายชาติชาย กล่าวอีกว่ายาสูตรผสม หรือประเภทยาลดน้ำมูก จะหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป แต่อย.ได้ออกมาตรการควบคุมการซื้อยาชนิดดังกล่าวแล้ว คือ ซื้อได้ไม่เกินครั้งละ 60 เม็ด หรือครั้งละ 6 แผง หากเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่าประชาชนทั่วไปครอบครองยาชนิดดังกล่าวเกิน 6 แผง จะถูกดำเนินคดีเป็นความผิดมีวัตถุประเภทสารออกฤทธิ์ ประเภท 2 ไว้ในครอบครองเกินกำหนด มีโทษจำคุก 15 ปี

สำหรับขบวนการดังกล่าวจะตระเวนซื้อยาลดน้ำมูกตามร้านขายทั่วประเทศตั้งแต่ภาคเหนือจนถึงภาคใต้ ที่ผ่านมาป.ป.ส.เคยจับกุมได้มากถึง 900,000 เม็ด และพบมีการซื้อยาลดน้ำมูกจากพื้นที่ภาคใต้จำนวนมากเพื่อไปส่งทางภาคเหนือ ที่ปรึกษาป.ป.ส.ระบุ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook