​ครอบครัววอนรัฐบาล ช่วย 'วรรณา' และลูก พ้นคุกตุรกี

​ครอบครัววอนรัฐบาล ช่วย 'วรรณา' และลูก พ้นคุกตุรกี

​ครอบครัววอนรัฐบาล ช่วย 'วรรณา' และลูก พ้นคุกตุรกี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ครอบครัววรรณาฯ ผู้ต้องหาตามหมายจับเหตุเอี่ยวแก๊งระเบิดราชประสงค์เมื่อ 2 ปีก่อน ร้องสื่อขอให้รัฐบาลไทยเห็นใจนำตัวน้องสาวและลูกน้อยที่เกิดในห้องขังใน ตม.ประเทศตุรกี กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยหลังจากถูกกักตัวนาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (30 ก.ย.) ที่บ้านของครอบครัว นางวรรณา สวนสัน หรือ นางไมซาเราะห์ อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดพังงา อยู่ในพื้นที่ ม. 6 บ้านห้วยทรัพย์ ต.คุระ อ.คุระบุรี จ.พังงา ซึ่งเป็น 1 ในผู้ต้องหา และ นายเอ็มระห์ ดาวูโตกลู ชาวตุรกี สามีนางวรรณา ผู้ต้องหาตามหมายจับในข้อหาร่วมกันมียุทธภัณฑ์ และครอบครองวัตถุระเบิดฯบริเวณศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 17 ส.ค.58 หลังจากเดินทางไปยังประเทศตุรกีก่อนเกิดเหตุระเบิด โดยการสืบสวนสอบสวนพบว่านางวรรณา เกี่ยวข้องในการเปิดห้องพัก และเช่าบ้านให้กลุ่มผู้ต้องหาซึ่งเป็นเพื่อนของสามี

ล่าสุด นางรู้เกี้บ สวนสัน มารดา และนางเอมอร สวนสัน พี่สาว พร้อมครอบครัวได้ร้องของความเป็นธรรมให้ทางรัฐบาลไทยเข้าช่วยเหลือครอบครับของ นางวรรณา สวนสัน ผู้ต้องหาในคดีระเบิดราชประสงค์ ก่อนจะถูกจับตัวพร้อมสามีที่ ตม.ตุรกี พร้อมถูกยึดพาสปอร์ตห้ามเดินทางออกนอกประเทศตุรกี และถูกคุมขังไว้ที่ ตม.ตุรกี เป็นเวลากว่า 2 ปี

จนทำให้ทางญาติพี่น้องที่อาศัยอยู่ในจังหวัดพังงา เกิดความกังวลใจและสงสารหลานอีก 2 คน ที่เกิดในห้องขังต้องใช้ชีวิตอย่างลำบาก จึงต้องการให้ทางรัฐบาลไทยเข้าช่วยเหลือนำตัวกลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทย แม้ว่าก่อนหน้านี้ทางญาติๆ ได้มีการทำหนังสือไปถึงทางสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อของให้ทางรัฐบาลขอตัวนางวรรณา สวนสัน กลับมาที่ประเทศไทย แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ จึงฝากสื่อให้ช่วยเหลือ

นางเอมอร สวนสัน พี่สาว กล่าวว่า น้องสาวถูกออกหมายจับในคดีระเบิดเหตุราชประสงค์ เมื่อปี 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นน้องสาวของตนเองได้ไปเช่าโรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯและมีการเช็คเอาท์ออกไปก่อนหน้าแล้ว 2 เดือนกว่า ก่อนจะมีเหตุการณ์วางระเบิด และมีคนไปเช่าห้องที่น้องสาวพักอาศัยอยู่ต่อ

จึงอยากจะฝากถึงทางรัฐบาลไทยและสื่อมวลชน ช่วยนำเสนอเพื่อขอตัวน้องสาวกลับมายังประเทศไทย เพราะอยู่ที่ประเทศตุรกีถูกกักขังในข้อหาหลบหนีเข้าเมืองซึ่งตนเองเคยได้ติดต่อกับน้องสาวที่ถูกคุมขังอยู่ประเทศตุรกี เขาอยากกลับมาประเทศไทยเพื่อมาพิสูจน์ความจริงว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีระเบิดดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ทางครอบครัวได้ทำหนังสือให้ทางสำนักนายกฯรัฐมนตรีช่วยเหลือแต่ยังไม่ได้รับคำตอบอะไรเลย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook