โบรกฯเชื่อ''ดีแทค''ไม่สะเทือนกรณีเทเลนอร์

โบรกฯเชื่อ''ดีแทค''ไม่สะเทือนกรณีเทเลนอร์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์(บล.) ทรินีตี้ จำกัด กล่าวว่า กรณีกลุ่มเทเลนอร์แพ้คดีพิพาทที่รัสเซียคาดว่าจะไม่กระทบกับบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ DTAC อย่างมีนัยสำคัญ เพราะว่าเป็นระดับชั้นผู้ถือหุ้นคือ เทเลนอร์ ซึ่งคิดเป็นความเสียหายประมาณ 6% ของมูลค่าสินทรัพย์ เพราะฉะนั้นต่อให้แพ้ เทเลนอร์ก็คงหาวิธีการจ่ายได้ ขณะเดียวกันเทเลนอร์เป็นรัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลนอร์เวย์ถือหุ้น 54% ซึ่งได้ลงมาดูกรณีพิพาทนี้แล้ว คาดว่ายังต้องใช้เวลานานพอสมควร

บทวิเคราะห์ของ บล.กรุงศรีอยุธยาฯ กล่าวว่า ประเด็นข่าวดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้น DTAC ในช่วงที่ผ่านมาปรับลดลงมาต่อเนื่อง เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าทางเทเลนอร์(ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ DTAC สัดส่วน 32.7%) จะขายหุ้น DTAC ออกมาเพื่อนำไปใช้หนี้

ทั้งนี้จากที่ฝ่ายวิเคราะห์บล.กรุงศรีอยุธยาฯ สอบถามไปยังผู้บริหาร DTAC เมื่อวันที่ 16 มีนาคม ที่ผ่านมา พบว่าคดีนี้ยังไม่ถึงที่สุด ทางเทเลนอร์ยังสามารถยื่นอุธรณ์ได้ และกรณีเลวร้ายสุดหากทางเทเลเนอร์แพ้คดีจริงๆ คาดว่าบริษัทจะหาทางเลือกอื่นๆ เช่น การหาแหล่งเงินกู้เพื่อมาชำระหนี้ ซึ่งทางผู้บริหารยังยืนยันว่าทางเทเลนอร์ไม่มีนโยบายในการขายหุ้น DTAC เพื่อไปชำระหนี้ และการที่บริษัทถือหุ้นจำนวนมากคงไม่สามารถขายในตลาดได้ทั้งหมด

ในด้านผลกระทบต่อตัว DTAC ปัญหาดังกล่าว มองว่าไม่มีผลกระทบต่อตัวพื้นฐานและการดำเนินงานของบริษัทอย่างมีนัย ซึ่งฝ่ายวิเคราะห์บล.กรุงศรีอยุธยาฯ ยังคงประมาณการผลประกอบการในปี 2552 ไว้คงเดิม โดยคาดว่าจะมีผลประกอบการชะลอตัวตามทิศทางเศรษฐกิจ โดยกำไรจากการดำเนินงานปรับลดลง 13% จากปีก่อน เหลือ 6,602 ล้านบาท

ด้านสถาบันวิจัยนครหลวงไทย (SCRI) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า หากพิจารณาจากวิธีการทางการศาลแล้ว ศาลของไซบีเรีย สามารถบังคับขายหุ้นของวิมเพิลคอม และนำเงินไปชำระให้กับ บริษัท แฟริเม็กซ์ฯ ซึ่งเป็นผู้กล่าวหาก่อน

โดยปัจจุบันเทเลนอร์ถือหุ้นของ DTAC อยู่ราว 775 ล้านหุ้น คิดเป็น 32% ของทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้ว หากเทเลนอร์ขายหุ้น DTAC ที่ราคาตลาด 27 บาท จะได้รับเงินราว 21,000 ล้านบาท ก็ไม่เพียงพอต่อการชำระค่าเสียหาย

ส่วนฐานะทางการเงินของเทเลนอร์งวดปี 2551 ยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยกลุ่มบริษัทเทเลนอร์ยังมีกำไรสุทธิ 15,052 ล้านนอค หรือ ประมาณ 79,000 ล้านบาท และมีเงินสดหรือเท่าเทียมเงินสดราว 8,925 ล้านนอค หรือ ประมาณ 47,000 ล้านบาท (ข้อมูลจาก รายงานประจำปี 2552 จาก www.telenor.com)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook