บ่าววีโร่แจ้งความกระเป๋าเงินหาย วอนขอเอกสารคืน

บ่าววีโร่แจ้งความกระเป๋าเงินหาย วอนขอเอกสารคืน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
พ.อ.ท.วีรยุทธิ์ นานช้า (บ่าววี) อายุ 35 ปี นักร้องลูกทุ่งเพื่อชีวิตชื่อดัง จากค่ายอาร์สยาม ในเครืออาร์เอส โปรโมชั่น จำกัด (มหาชน) เดินทางเข้าพบกับ พ.ต.อ.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผกก.สน.ปทุมวัน เมื่อวันที่ 19 มีนาคม เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ว่า กระเป๋าสตางค์ของตนหายบนรถแท็กซี่ เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.วันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา หลังนั่งรถแท็กซี่ จากบ้านแถวซอยคู้บอนไปลงที่สนามฟุตบอลแถวจุฬาลงกรณ์

ทั้งนี้ นายวีรยุทธิ์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนได้นั่งรถแท็กซี่สีเขียวเหลือง จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ จำได้เพียงนามสกุล ศรีสวัสดิ์ เป็นคน จ.ยโสธร และมีที่พักในย่านดอนเมืองออกมากับพี่ชาย ออกจากบ้านย่านซอยคู้บอน เพื่อที่จะเดินทางไปเตะฟุตบอลการกุศลกับ ยาว อยุธยา ตลกชื่อดัง ที่สนามกีฬาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยตนนั่งข้างหน้าคู่กับคนขับ ส่วนพี่ชายตนนั่งเบาะด้านหลัง จนกระทั่งขับมาถึงทางด่วน จึงหยิบกระเป๋าสตางค์สีดำออกมา แล้วหยิบเงินยื่นให้คนขับแท็กซี่จำนวน 1,000 บาท เพื่อจ่ายค่าทางด่วน แล้วเอากระเป๋าสตางค์วางไว้บนตัก หลังจากนั้นคนขับแท็กซี่ก็ยื่นเงินทอนให้ จึงได้กำเงินดังกล่าวไว้

เมื่อมาถึงสนาม ก็รีบจ่ายเงินค่ารถประมาณ 200 กว่าบาท แล้วก็รีบลงจากรถ เพราะใกล้ถึงเวลาเตะฟุตบอลแล้ว โดยที่ลืมไปว่ายังไม่ได้เก็บกระเป๋าสตางค์ จนมารู้อีกทีตอนหลังเลิกเตะฟุตบอลแล้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะหล่นตอนลงจากรถแท็กซี่ หรือไม่ก็หล่นอยู่บนรถแท็กซี่คันดังกล่าว โดยในกระเป๋าสตางค์ใบดังกล่าวมีเงินไทยอยู่ประมาณ 40,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ทางบริษัทอาร์สยามต้นสังกัดจ่ายให้ เพราะเพิ่งขึ้นมาจากการแสดงคอนเสิร์ตที่ภาคใต้ หลังจ่ายให้ลูกน้องแล้วก็เหลือติดตัวอยู่เท่านั้น เงินต่างประเทศอีกจำนวนหนึ่ง รวมมูลค่าประมาณ 50,000 บาท บัตรข้าราชการทหาร และเอกสารอีกจำนวนหนึ่ง นายวีรยุทธิ์ กล่าว

นายวีรยุทธิ์ กล่าวต่อไปว่า จากนั้นตนก็ยังไม่ได้แจ้งความทันที เพราะรออยู่ว่าถ้าหล่นในรถแท็กซี่เขาคงนำมาคืน ปกติตนจะนั่งรถทีมงานไปทุกครั้ง แต่วันนั้นทุกคนเพิ่งขับรถมาจากใต้กัน เขาเหนื่อยๆ กัน เลยนั่งรถมาเอง หลังจากนั้นจึงได้ให้พี่ชายโทรไปแจ้งที่ จส.100 กับ ร่วมด้วยช่วยกัน ให้ช่วยติดตามให้ ซึ่งตนเสียดายเอกสารที่มีทั้งบัตรข้าราชการทหาร บัตรประชาชน บัตรนักศึกษารามคำแหง เอกสารอีกหลายอย่าง ส่วนเงินไม่เสียดาย อยากได้เอกสารมากกว่า กระทั่งเมื่อวานนี้ (18 มี.ค.) คนขับแท็กซี่คันดังกล่าว ก็โทรศัพท์มาแจ้งว่า ไม่มีกระเป๋าสตางค์หล่นอยู่ในรถ และไม่มีใครมารับช่วงขับต่อจากตน เนื่องจากรถเป็นของตน ไม่ใช่รถเช่า แต่ก็เงียบหายไป

ด้าน พ.ต.อ.ไพศาล กล่าวว่า หลังจากนี้ก็จะลงบันทีกประจำวันไว้ แล้วเรียกคนขับแท็กซี่คันดังกล่าว มาสอบปากคำ ส่วนเรื่องกระเป๋าสตางค์หากว่ามีใครเก็บไปก็ให้นำมาคืนได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งตนจะเป็นคนรับประสานเรื่องดังกล่าวเอง และยืนยันว่าจะไม่จับตัวดำเนินคดีเด็ดขาด ต้องการเพียงแค่ให้นำกระเป๋ามาคืนกับเจ้าของเท่านั้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook